ยะลา - อบจ.ยะลา จับมือทางหลวงชนบทในการจัดแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม-ดินถล่มปิดเส้นทางสายเบตง-ยะลา มีการส่งมอบเรือท้องแบนให้แก่ อบต.ในพื้นที่เสี่ยงภัย อ.รามัน และอ.เมืองยะลา
วันนี้ (11 พ.ย.) จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนอาจมีเรื่องฝนตกหนักในช่วงวันสองวันนี้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลจีนใต้ อ่าวไทย และภาคใต้ของประเทศคงมีกำลังแรงตลอดช่วงจะพัดความชื้นในทะเลเข้าสู่ภาคใต้ ทำให้มีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้น ถ้ามีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้
นายมุขตาร์ มะทา นายก อบจ.เปิดเผยว่า ได้มีการเตรียมพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม อันเนื่องมาจากสภาพอากาศฝนตกหนัก สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้ว โดยได้ประสานร่วมมือการปฏิบัติกับสำนักงานทางหลวงชนบทยะลาในการจัดแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้ได้จัดส่งมอบเรือท้องแบนให้กับ อบต.ต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่ อ.รามัน และอ.เมืองยะลา จำนวน 10 ลำ และจัดเตรียมความพร้อมประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ ป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย และดินถล่ม อบจ.ยะลา อีก 10 ลำ พร้อมกันนี้ยังได้จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค สนับสนุนผู้ประสบภัยอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยจากดินถล่มทับบ้านชาวบ้าน และปิดเส้นทางในพื้นที่ที่ราบสูงของ อ.ธารโต และอ.เบตง นั้น ได้วางแผนเตรียมพร้อมจับมือกับสำนักงานทางหลวงชนบท จ.ยะลา ในการนำกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลหนัก เข้าไปประจำในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง ในการเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขึ้น เพื่อให้การช่วยเหลือในกรณีเกิดเหตุด่วน โดยเฉพาะการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่มทับบ้าน และเส้นทางคมนาคม เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุดและทันกับเหตุการณ์
สำหรับจังหวัดยะลานั้น พื้นที่เสี่ยงภัยที่มักเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ได้แก่ สองฝั่งแม่น้ำสายบุรี ของอำเภอรามัน และสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี ตั้งแต่ อ.บันนังสตา กรงปินัง อ.เมืองยะลา และเทศบาลนครยะลา ส่วนดินถล่ม นั้นมักจะเกิดบนเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง ตั้งแต่ อ.บันนังสตา ไปจนถึง อ.เบตง เส้นทางย่อยระหว่างหมู่บ้านกับหมู่บ้านของ อ.บันนังสตา อ.ธารโต และ อ.เบตงอีกด้วย
วันนี้ (11 พ.ย.) จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนอาจมีเรื่องฝนตกหนักในช่วงวันสองวันนี้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลจีนใต้ อ่าวไทย และภาคใต้ของประเทศคงมีกำลังแรงตลอดช่วงจะพัดความชื้นในทะเลเข้าสู่ภาคใต้ ทำให้มีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้น ถ้ามีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้
นายมุขตาร์ มะทา นายก อบจ.เปิดเผยว่า ได้มีการเตรียมพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม อันเนื่องมาจากสภาพอากาศฝนตกหนัก สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้ว โดยได้ประสานร่วมมือการปฏิบัติกับสำนักงานทางหลวงชนบทยะลาในการจัดแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้ได้จัดส่งมอบเรือท้องแบนให้กับ อบต.ต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่ อ.รามัน และอ.เมืองยะลา จำนวน 10 ลำ และจัดเตรียมความพร้อมประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ ป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย และดินถล่ม อบจ.ยะลา อีก 10 ลำ พร้อมกันนี้ยังได้จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค สนับสนุนผู้ประสบภัยอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยจากดินถล่มทับบ้านชาวบ้าน และปิดเส้นทางในพื้นที่ที่ราบสูงของ อ.ธารโต และอ.เบตง นั้น ได้วางแผนเตรียมพร้อมจับมือกับสำนักงานทางหลวงชนบท จ.ยะลา ในการนำกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลหนัก เข้าไปประจำในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง ในการเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขึ้น เพื่อให้การช่วยเหลือในกรณีเกิดเหตุด่วน โดยเฉพาะการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่มทับบ้าน และเส้นทางคมนาคม เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุดและทันกับเหตุการณ์
สำหรับจังหวัดยะลานั้น พื้นที่เสี่ยงภัยที่มักเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ได้แก่ สองฝั่งแม่น้ำสายบุรี ของอำเภอรามัน และสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี ตั้งแต่ อ.บันนังสตา กรงปินัง อ.เมืองยะลา และเทศบาลนครยะลา ส่วนดินถล่ม นั้นมักจะเกิดบนเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง ตั้งแต่ อ.บันนังสตา ไปจนถึง อ.เบตง เส้นทางย่อยระหว่างหมู่บ้านกับหมู่บ้านของ อ.บันนังสตา อ.ธารโต และ อ.เบตงอีกด้วย
