นราธิวาส – แม่ทัพภาค 4 ร่วมพิธีรดน้ำศพทหารพราน พร้อมเยี่ยมอดีตครู 2 ผัวเมียเหยื่อคมกระสุนทหารที่ชนด่านตรวจ พร้อมวางกรอบยุติเหตุป่วนใต้รายวัน ชี้ภาคประชาชนต้องมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา
วันนี้ (11 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่อาคารอเนกประสงค์วัดบางนรา อ.เมืองนราธิวาส พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต. พล.ต.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ฉก.นราธิวาส และคณะ ได้เดินทางไปเป็นประธานร่วมในพิธีรดน้ำศพ อส.ทพ.วิชาญ สังข์สุวรรณ อายุ 34 ปี ทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 301 กองร้อยทหารพรานที่ 4601 กรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารริมถนนปากทางเข้าหมู่บ้านบือเจาะ ม.5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและประชาชนเป็นจำนวนมากเดินทางมาร่วมพิธีในครั้งนี้
ในเวลา 11.00 น.ของวันเดียวกัน ศพของ อส.ทพ.วิชาญ จะถูกเคลื่อนย้ายขึ้นเครื่องบิน ซี.130 ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง โดยทางกองทัพได้มีการจัดกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติในพิธีดังกล่าว ส่วนด้านความช่วยเหลือครอบครัวของ อส.ทพ.วิชาญ ทางกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นให้กับนางเสาวลักษณ์ สังข์สุวรรณ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ อส.ทพ.วิชาญ ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและขายปลา เป็นเงินจำนวน 1,118,500 บาท รวมทั้งให้การช่วยเหลือรายเดือน ที่ อส.ทพ.วิชาญ ได้เสียสละชีวิตในการปกป้องแผ่นดินไทยแก่มารดาและภรรยารวมทั้งบุตรชายวัย 3 ขวบครึ่งคือ ด.ช.พีระพงศ์ สังข์สุวรรณ ในครั้งนี้อีกด้วย
ต่อจากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนราธิวาชราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยได้เข้าเยี่ยมพร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ อ.สุคิริน อ.รือเสาะ และ อ.บาเจาะ ประกอบด้วยประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเจ้าหน้าที่กองกำลังรวม 7 ราย รวมทั้งกรณีนายรามัน วาแมอีซา อายุ 53 ปี อดีตครูโรงเรียนในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา และนางอานา วายา อายุ 34 ปี ภรรยา ซึ่งทั้งสองคนถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ทหารพราน ขณะขับรถยนต์กระบะฝ่าด่านตรวจ ที่ บ.จำปากอ ม.1 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการปลอบขวัญ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่าสาเหตุของการขับรถยนต์ฝ่าด่านตรวจของผู้เสียหายในครั้งนี้ไม่ใช่เกิดจากการที่รถยนต์เกิดเบรกแตกแต่อย่างใด ในขณะที่เกิดเหตุนั้นมีรถยนต์จอดรอเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่จำนวน 3 คันแต่รถกระบะคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วจนเสียหลักไปเฉี่ยวเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้า แต่คงเกิดการผิดพลาด ทำให้กระสุนปืนไปถูกอดีตครูและภรรยาจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวอย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง โดยช่วงบ่ายของวันนี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมคณะทำงานจะเดินทางไปตรวจสอบหาหลักฐานยังจุดเกิดเหตุ รวมทั้งภายในรถยนต์กระบะของผู้เสียหายอีกด้วย
หลังจากนั้น เวลา 11.00 น. พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 และคณะ ได้เดินทางไปประชุมต่อที่โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมืองนราธิวาส เพื่อเป็นประธานในพิธีพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาและหัวหน้าส่วนราชการ รวมจำนวนกว่า 700 คน หลังจากที่ได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาค 4 เป็นครั้งแรก รวมทั้งเยี่ยมเยียนด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะกรณีเหตุระเบิดที่อำเภอสุคิริน จำนวน 2 จุด เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนได้รับบาดเจ็บถึง จำนวน 73 ราย
โดย พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขึ้นกล่าวพบปะกลุ่มพลังมวลชนพอสรุปใจความว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเพราะคนกลุ่มๆเดียว ที่ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาพประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังในการยุติเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะเหตุร้ายรายวันที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการวางกรอบในการปฏิบัติซึ่งหัวใจหลักนั้นคือภาคประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุกตารางนิ้วของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเปรียบเสมือนอาวุธยุทโธปกรณ์หลักและเป็นวัคซีนชั้นดี ที่จะสามารถสกัดกั้นกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มีอยู่น้อยนิดให้สามารถฉวยโอกาสหาช่องโหว่ลอบก่อเหตุร้ายได้อีก ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อคลี่คลายปัญหาความมั่นคง เพราะเชื่อว่าหากภาคประชาชนเข้าร่วมในกรอบยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะกลับคืนสู่ความสันติสุขอีกครั้งอย่างแน่นอน
วันนี้ (11 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่อาคารอเนกประสงค์วัดบางนรา อ.เมืองนราธิวาส พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต. พล.ต.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ฉก.นราธิวาส และคณะ ได้เดินทางไปเป็นประธานร่วมในพิธีรดน้ำศพ อส.ทพ.วิชาญ สังข์สุวรรณ อายุ 34 ปี ทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 301 กองร้อยทหารพรานที่ 4601 กรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารริมถนนปากทางเข้าหมู่บ้านบือเจาะ ม.5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและประชาชนเป็นจำนวนมากเดินทางมาร่วมพิธีในครั้งนี้
ในเวลา 11.00 น.ของวันเดียวกัน ศพของ อส.ทพ.วิชาญ จะถูกเคลื่อนย้ายขึ้นเครื่องบิน ซี.130 ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง โดยทางกองทัพได้มีการจัดกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติในพิธีดังกล่าว ส่วนด้านความช่วยเหลือครอบครัวของ อส.ทพ.วิชาญ ทางกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นให้กับนางเสาวลักษณ์ สังข์สุวรรณ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ อส.ทพ.วิชาญ ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและขายปลา เป็นเงินจำนวน 1,118,500 บาท รวมทั้งให้การช่วยเหลือรายเดือน ที่ อส.ทพ.วิชาญ ได้เสียสละชีวิตในการปกป้องแผ่นดินไทยแก่มารดาและภรรยารวมทั้งบุตรชายวัย 3 ขวบครึ่งคือ ด.ช.พีระพงศ์ สังข์สุวรรณ ในครั้งนี้อีกด้วย
ต่อจากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนราธิวาชราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยได้เข้าเยี่ยมพร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ อ.สุคิริน อ.รือเสาะ และ อ.บาเจาะ ประกอบด้วยประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเจ้าหน้าที่กองกำลังรวม 7 ราย รวมทั้งกรณีนายรามัน วาแมอีซา อายุ 53 ปี อดีตครูโรงเรียนในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา และนางอานา วายา อายุ 34 ปี ภรรยา ซึ่งทั้งสองคนถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ทหารพราน ขณะขับรถยนต์กระบะฝ่าด่านตรวจ ที่ บ.จำปากอ ม.1 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการปลอบขวัญ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่าสาเหตุของการขับรถยนต์ฝ่าด่านตรวจของผู้เสียหายในครั้งนี้ไม่ใช่เกิดจากการที่รถยนต์เกิดเบรกแตกแต่อย่างใด ในขณะที่เกิดเหตุนั้นมีรถยนต์จอดรอเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่จำนวน 3 คันแต่รถกระบะคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วจนเสียหลักไปเฉี่ยวเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้า แต่คงเกิดการผิดพลาด ทำให้กระสุนปืนไปถูกอดีตครูและภรรยาจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวอย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง โดยช่วงบ่ายของวันนี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมคณะทำงานจะเดินทางไปตรวจสอบหาหลักฐานยังจุดเกิดเหตุ รวมทั้งภายในรถยนต์กระบะของผู้เสียหายอีกด้วย
หลังจากนั้น เวลา 11.00 น. พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 และคณะ ได้เดินทางไปประชุมต่อที่โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมืองนราธิวาส เพื่อเป็นประธานในพิธีพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาและหัวหน้าส่วนราชการ รวมจำนวนกว่า 700 คน หลังจากที่ได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาค 4 เป็นครั้งแรก รวมทั้งเยี่ยมเยียนด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะกรณีเหตุระเบิดที่อำเภอสุคิริน จำนวน 2 จุด เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนได้รับบาดเจ็บถึง จำนวน 73 ราย
โดย พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขึ้นกล่าวพบปะกลุ่มพลังมวลชนพอสรุปใจความว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเพราะคนกลุ่มๆเดียว ที่ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาพประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังในการยุติเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะเหตุร้ายรายวันที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการวางกรอบในการปฏิบัติซึ่งหัวใจหลักนั้นคือภาคประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุกตารางนิ้วของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเปรียบเสมือนอาวุธยุทโธปกรณ์หลักและเป็นวัคซีนชั้นดี ที่จะสามารถสกัดกั้นกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มีอยู่น้อยนิดให้สามารถฉวยโอกาสหาช่องโหว่ลอบก่อเหตุร้ายได้อีก ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อคลี่คลายปัญหาความมั่นคง เพราะเชื่อว่าหากภาคประชาชนเข้าร่วมในกรอบยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะกลับคืนสู่ความสันติสุขอีกครั้งอย่างแน่นอน
