สตูล – อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ติดประกาศระงับการก่อสร้างรีสอร์ตบนเกาะอาดังแล้ว ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนำคณะลงสำรวจพื้นที่เกาะ ก่อนหาทางออกกรณีพิพาท ด้านผู้ประกอบการท่องเที่ยวหนุนให้ก่อสร้างต่อ เชื่อเกิดประโยชน์มากกว่าทำลาย
วันนี้ (6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.สตูล นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายอำเภอเมืองสตูล ป่าไม้จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 50 คนซึ่งเป็นคณะกรรมจังหวัดชุดดูแลโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุ จ.สตูล ไดลงตรวจสอบพื้นที่เกาะอาดัง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
หลังบริษัท อาดัง รีสอร์ท จำกัด ได้ชนะการประมูลลงทุนโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ที่ สต.35 (เกาะอาดัง) และได้มีการทำสัญญาก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง ลงวันที่ 14 พ.ย. 2550 แต่เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัย กรณีการดำเนินการเกี่ยวกับโครงการฯ แล้วพบว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายและมีการดำเนินคดีกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูลนั้น
การลงดูพื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ทของบริษัท อาดังรีสอร์ท จำกัด ในครั้งนี้ก็เพื่อติดตามการดำเนินการก่อสร้างที่ผ่านมาว่าอยู่ในกรอบของข้อตกลงสัญญาหรือไม่ พร้อมทั้งเป็นการเก็บรายละเอียดข้อมูล เพื่อไปหารือกับทางอุทยานฯ ในการหาข้อยุติร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์ กับกรมอุทยานฯ
ด้านอุทยานแห่งชาติตะรุเตา นายคม ชัยภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ที่ 24/2551 ได้ออกหนังสือ ให้บริษัท อาดัง รีสอร์ท จำกัด งดเว้นการกระทำใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
ทั้งนี้ ระบุว่าหากปล่อยให้ยังมีการดำเนินการก่อสร้างอาคาร จะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประโยชน์สาธารณะ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และมาตรา 368 แห่งประมวลกฎหมายอาญา สั่งให้บริษัทอาดัง รีสอร์ท จำกัด พร้อมบริวารและลูกจ้างให้งดเว้นการก่อสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างหรือการกระทำการใดๆ ที่จะก่อให้เกิด ความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการต่อไป ลงคำสั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2551 โดยนายณัฐพล รัตนพันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
ขณะที่ปัญหาการเกิดข้อพิพาทเกิดขึ้น ในส่วนของประชาชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยวรวมทั้งผู้ให้บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่าเรือปากบารา อ.ละงู ซึ่งเป็นท่าเรือนำนักท่องเที่ยวมุ่งหน้าสู่เกาะต่างๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จับกลุ่มวิพากษ์การเกิดข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างธนารักษ์ กับ อุทยานฯ
นายพีระ ปากบารา หนึ่งในสมาชิก อบต.ปากน้ำ และนายกูหาบ ผิวดี ไกด์อิสระ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้มีการก่อสร้างต่อไป พร้อมเห็นว่า จ.สตูล ควรจะมีรีสอร์ทระดับ 5 ดาวไว้รองรับลูกค้าเกรดเอ ไว้บ้างก็ดีเพื่อให้ จ.สตูล มีรายได้และมีการจ้างงานมากขึ้น
พร้อมเห็นว่าก็เมื่อมีการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จแล้วมาคัดค้านกัน แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทเอกชน และเห็นว่าก็คงไม่พ้นภาษีประชาชนที่นำมาชดใช้ ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าน่าจะหาข้อยุติได้ถ้าทุกคนมีความจริงใจจะแก้ปัญหา และยังเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ระหว่างธนารักษ์ และอุทยานฯ มากกว่าการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
วันนี้ (6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.สตูล นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายอำเภอเมืองสตูล ป่าไม้จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 50 คนซึ่งเป็นคณะกรรมจังหวัดชุดดูแลโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุ จ.สตูล ไดลงตรวจสอบพื้นที่เกาะอาดัง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
หลังบริษัท อาดัง รีสอร์ท จำกัด ได้ชนะการประมูลลงทุนโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ที่ สต.35 (เกาะอาดัง) และได้มีการทำสัญญาก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง ลงวันที่ 14 พ.ย. 2550 แต่เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัย กรณีการดำเนินการเกี่ยวกับโครงการฯ แล้วพบว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายและมีการดำเนินคดีกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูลนั้น
การลงดูพื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ทของบริษัท อาดังรีสอร์ท จำกัด ในครั้งนี้ก็เพื่อติดตามการดำเนินการก่อสร้างที่ผ่านมาว่าอยู่ในกรอบของข้อตกลงสัญญาหรือไม่ พร้อมทั้งเป็นการเก็บรายละเอียดข้อมูล เพื่อไปหารือกับทางอุทยานฯ ในการหาข้อยุติร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์ กับกรมอุทยานฯ
ด้านอุทยานแห่งชาติตะรุเตา นายคม ชัยภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ที่ 24/2551 ได้ออกหนังสือ ให้บริษัท อาดัง รีสอร์ท จำกัด งดเว้นการกระทำใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
ทั้งนี้ ระบุว่าหากปล่อยให้ยังมีการดำเนินการก่อสร้างอาคาร จะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประโยชน์สาธารณะ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และมาตรา 368 แห่งประมวลกฎหมายอาญา สั่งให้บริษัทอาดัง รีสอร์ท จำกัด พร้อมบริวารและลูกจ้างให้งดเว้นการก่อสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างหรือการกระทำการใดๆ ที่จะก่อให้เกิด ความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการต่อไป ลงคำสั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2551 โดยนายณัฐพล รัตนพันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
ขณะที่ปัญหาการเกิดข้อพิพาทเกิดขึ้น ในส่วนของประชาชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยวรวมทั้งผู้ให้บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่าเรือปากบารา อ.ละงู ซึ่งเป็นท่าเรือนำนักท่องเที่ยวมุ่งหน้าสู่เกาะต่างๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จับกลุ่มวิพากษ์การเกิดข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างธนารักษ์ กับ อุทยานฯ
นายพีระ ปากบารา หนึ่งในสมาชิก อบต.ปากน้ำ และนายกูหาบ ผิวดี ไกด์อิสระ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้มีการก่อสร้างต่อไป พร้อมเห็นว่า จ.สตูล ควรจะมีรีสอร์ทระดับ 5 ดาวไว้รองรับลูกค้าเกรดเอ ไว้บ้างก็ดีเพื่อให้ จ.สตูล มีรายได้และมีการจ้างงานมากขึ้น
พร้อมเห็นว่าก็เมื่อมีการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จแล้วมาคัดค้านกัน แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทเอกชน และเห็นว่าก็คงไม่พ้นภาษีประชาชนที่นำมาชดใช้ ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าน่าจะหาข้อยุติได้ถ้าทุกคนมีความจริงใจจะแก้ปัญหา และยังเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ระหว่างธนารักษ์ และอุทยานฯ มากกว่าการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ