ชุมพร - ผู้ว่าฯชุมพร ตรวจสอบความพร้อมในการรับมือน้ำท่วม พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดธรณีพิบัติดินโคลนถล่มจำนวน 124 หมู่บ้าน 30 ตำบล 8 อำเภอ โดยเฉพาะชายแดนไทย-พม่า
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบระดับน้ำและโครงการก่อสร้างคันดินกั้นคลอง บริเวณลำคลองหมู่ 5 และหมู่ที่ 6 ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 300 ครัวเรือน ซึ่งจากสภาพปัญหาดังกล่าวทาง อบต.ขุนกระทิง ได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการก่อสร้างถนนเป็นคันดินกั้นคลอง ความยาว 600 เมตรสูง 1 เมตร เพื่อกั้นน้ำจากลำคลองไม่ให้ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของราษฎร ซึ่งโครงการนี้จะช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้อีกทางหนึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และคณะ ได้ตระเวนออกตรวจสอบแม่น้ำและคลองสายต่างๆ ในพื้นที่ ต.ขุนกระทิง และ ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร เพื่อรับทราบสาเหตุและปัญหาของการเกิดน้ำท่วม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขและรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป โดยเฉพาะโดยเฉพาะแม่น้ำท่าตะเภาที่รับปริมาณน้ำมาจากเทือกเขาตะนาวศรีแถบชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และคลองชุมพร ที่รับปริมาณน้ำจากเทือกเขากระบุรี บริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.ระนอง ซึ่งแม่น้ำทั้ง 2 สาย ถือเป็นสายหลักที่รองรับปริมาณน้ำฝนเพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล จึงต้องเตรียมความพร้อมขุดลอกสิ่งกีดขวางและสิ่งปฏิกูลออกจากแม่น้ำดังกล่าว
นายการัณย์ ยังได้กับกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงและแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนได้รับทราบอย่างรวดเร็วหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้น
โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดธรณีพิบัติดินโคลนถล่มจำนวน 124 หมู่บ้าน 30 ตำบล 8 อำเภอของ จ.ชุมพร บริเวณแนวภูเขา และเชิงเขาด้านตะวันตกตามแนวรอยต่อกับจังหวัดระนอง และอำเภอท่าแซะ ที่ติดกับชายแดนประเทศพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสูงจำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนนี้
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบระดับน้ำและโครงการก่อสร้างคันดินกั้นคลอง บริเวณลำคลองหมู่ 5 และหมู่ที่ 6 ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 300 ครัวเรือน ซึ่งจากสภาพปัญหาดังกล่าวทาง อบต.ขุนกระทิง ได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการก่อสร้างถนนเป็นคันดินกั้นคลอง ความยาว 600 เมตรสูง 1 เมตร เพื่อกั้นน้ำจากลำคลองไม่ให้ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของราษฎร ซึ่งโครงการนี้จะช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้อีกทางหนึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และคณะ ได้ตระเวนออกตรวจสอบแม่น้ำและคลองสายต่างๆ ในพื้นที่ ต.ขุนกระทิง และ ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร เพื่อรับทราบสาเหตุและปัญหาของการเกิดน้ำท่วม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขและรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป โดยเฉพาะโดยเฉพาะแม่น้ำท่าตะเภาที่รับปริมาณน้ำมาจากเทือกเขาตะนาวศรีแถบชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และคลองชุมพร ที่รับปริมาณน้ำจากเทือกเขากระบุรี บริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.ระนอง ซึ่งแม่น้ำทั้ง 2 สาย ถือเป็นสายหลักที่รองรับปริมาณน้ำฝนเพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล จึงต้องเตรียมความพร้อมขุดลอกสิ่งกีดขวางและสิ่งปฏิกูลออกจากแม่น้ำดังกล่าว
นายการัณย์ ยังได้กับกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงและแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนได้รับทราบอย่างรวดเร็วหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้น
โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดธรณีพิบัติดินโคลนถล่มจำนวน 124 หมู่บ้าน 30 ตำบล 8 อำเภอของ จ.ชุมพร บริเวณแนวภูเขา และเชิงเขาด้านตะวันตกตามแนวรอยต่อกับจังหวัดระนอง และอำเภอท่าแซะ ที่ติดกับชายแดนประเทศพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสูงจำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนนี้