นราธิวาส - สถานการณ์โรคเรื้อนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสยังต้องเฝ้าระวังใน 3 อำเภอ ขณะที่ภาพรวมมีแนวโน้มผู้ป่วยลดลง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส Dr.Wimvan Brakel ที่ปรึกษาของ The Netherlands LeprosyReliet (NLR) องค์การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อนแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สถาบันราชประชาสมาศัยและสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์โรคเรื้อนในจังหวัดนราธิวาสและร่วมทำแผนการป้องกันโรคเรื้อนในระยะยาว ซึ่งสถานการณ์โรคเรื้อนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสปัจจุบันนั้นมีแนวโน้มผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวด้วยโรคเรื้อนในพื้นที่จำนวน 52 รายเป็นผู้ป่วยเด็ก 3 ราย และมีผู้ป่วยที่พิการจากโรคเรื้อนอีก 2 ราย
ด้าน นายธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ นายแพทย์ 8 ด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคเรื้อนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสว่า ในขณะนี้มีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษใน 3 อำเภอ คือ อำเภอระแงะ อำเภอเจาะไอร้อง และอำเภอสุไหงปาดี ซึ่งมีความชุกของโรคสูงเกิน 1 ต่อหมื่นคน
สำหรับโรคเรื้อนนั้นเป็นโรคติดต่อเรื้อรัง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ทำให้เกิดอาการแสดงที่ผิวหนัง และเส้นประสาทส่วนปลาย การดำเนินของโรคจะเป็นไปอย่างช้าๆ หากตรวจพบช้าไม่รีบรับการรักษาตั้งแต่ต้น เส้นประสาทจะถูกทำลาย และเกิดความพิการที่ตา มือและเท้าได้ แต่อย่างไรก็ตามโรคเรื้อนนั้นเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ โดยผู้ป่วยอาการน้อยระยะแรกรักษาได้ภายใน 6 เดือน ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการมากรักษาหายได้ใน 2 ปี