ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังที่เกาะยอ ผวาหลังเจอฝนตกติดต่อกันทุกวัน ซึ่งเป็นช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือในภาคใต้ทำให้น้ำในทะเลสาบสงขลาเริ่มมีสีขุ่นแดง ซึ่งปีที่ผ่านมาประสบปัญหาเดียวกันนี้ปลาในกระชังตายเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันปลาเริ่มมีอาการเบื่ออาหารและกินอาหารน้อยลง ทำให้ผู้เลี้ยงไม่กล้านำลูกปลาชุดใหม่ลงเลี้ยงและเก็บกระชังขึ้น เพื่อรอให้พ้นฤดูมรสุมจึงจะทำการลงปลาเลี้ยงใหม่
นายจารึก กาลานุสนธิ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง หมู่ที่ 7 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ซึ่งเป็นช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือในภาคใต้ทำให้น้ำในทะเลสาบสงขลา เริ่มมีสีขุ่นแดง เนื่องจากเป็นน้ำที่ไหลมาจากทั่วสารทิศลงในทะเลสาบสงขลา รวมไปถึงน้ำเสียจากโรงงานที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบฉวยโอกาสในช่วงฝนตกปล่อยน้ำเสียลงมาด้วย ทำให้น้ำในทะเลสาบสงขลามีสภาพขุ่นแดง ซึ่งเป็นสีใกล้เคียงกับเมื่อปีที่ผ่านมาทำให้ปลากะพงขาวในกระชังของเกษตรกรที่เกาะยอตายเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ปลาก็เริ่มมีอาการเบื่ออาหารและกินอาหารน้อยลง
โดยสังเกตขณะที่ให้อาหารปลาจะกินอาหารครั้งแรกและหยุดกินไปเลย เนื่องจากสภาพน้ำขุ่นและมีคลื่นลมแรงด้วย เกษตรกรเจอสภาพน้ำแบบนี้ ทุกคนก็กลัว เพราะมีบทเรียนมาจากปีที่แล้ว รีบจับปลาที่เลี้ยงขายไปจนหมด กลัวว่าหากขืนเลี้ยงต่อไป ปลาจะช๊อคตายหมดกระชังถึงแม้ว่าปลาจะไม่ได้ขนาดและราคาจะตกก็ตาม ก็ต้องจับขาย จึงไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะลงปลาชุดใหม่ลงเลี้ยงในกระชังอีก โดยทำการรื้อกระชังขึ้นหยุดทำการเลี้ยงไปกว่า 50% จะรอไปจนกว่าจะพ้นฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สภาพความเปลี่ยนแปลงของน้ำทะเลกลับคืนสู่ภาวะปรกติ จึงจะตั้งต้นเลี้ยงใหม่ เพราะหากยังอยู่ในสภาพแบบนี้มีความเสี่ยงกับการขาดทุนมีสูงมาก เกษตรกรเองเมื่อเจอสภาพแบบนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติเราฝืนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ฤดูมรสุมในพื้นที่ภาคใต้จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคมจะมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง การเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในช่วงนี้เกษตรกรมักจะประสบกับปัญหาปลาเป็นโรคเห็บเกาะเหงือก ทำให้ปลาอ่อนแอและตายลงในที่สุดทุกปี
นายจารึก กาลานุสนธิ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง หมู่ที่ 7 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ซึ่งเป็นช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือในภาคใต้ทำให้น้ำในทะเลสาบสงขลา เริ่มมีสีขุ่นแดง เนื่องจากเป็นน้ำที่ไหลมาจากทั่วสารทิศลงในทะเลสาบสงขลา รวมไปถึงน้ำเสียจากโรงงานที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบฉวยโอกาสในช่วงฝนตกปล่อยน้ำเสียลงมาด้วย ทำให้น้ำในทะเลสาบสงขลามีสภาพขุ่นแดง ซึ่งเป็นสีใกล้เคียงกับเมื่อปีที่ผ่านมาทำให้ปลากะพงขาวในกระชังของเกษตรกรที่เกาะยอตายเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ปลาก็เริ่มมีอาการเบื่ออาหารและกินอาหารน้อยลง
โดยสังเกตขณะที่ให้อาหารปลาจะกินอาหารครั้งแรกและหยุดกินไปเลย เนื่องจากสภาพน้ำขุ่นและมีคลื่นลมแรงด้วย เกษตรกรเจอสภาพน้ำแบบนี้ ทุกคนก็กลัว เพราะมีบทเรียนมาจากปีที่แล้ว รีบจับปลาที่เลี้ยงขายไปจนหมด กลัวว่าหากขืนเลี้ยงต่อไป ปลาจะช๊อคตายหมดกระชังถึงแม้ว่าปลาจะไม่ได้ขนาดและราคาจะตกก็ตาม ก็ต้องจับขาย จึงไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะลงปลาชุดใหม่ลงเลี้ยงในกระชังอีก โดยทำการรื้อกระชังขึ้นหยุดทำการเลี้ยงไปกว่า 50% จะรอไปจนกว่าจะพ้นฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สภาพความเปลี่ยนแปลงของน้ำทะเลกลับคืนสู่ภาวะปรกติ จึงจะตั้งต้นเลี้ยงใหม่ เพราะหากยังอยู่ในสภาพแบบนี้มีความเสี่ยงกับการขาดทุนมีสูงมาก เกษตรกรเองเมื่อเจอสภาพแบบนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติเราฝืนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ฤดูมรสุมในพื้นที่ภาคใต้จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคมจะมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง การเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในช่วงนี้เกษตรกรมักจะประสบกับปัญหาปลาเป็นโรคเห็บเกาะเหงือก ทำให้ปลาอ่อนแอและตายลงในที่สุดทุกปี