xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรสงขลาฯ ร่วมรำลึก “เสด็จพ่อ ร. 5”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – มวลชนพันธมิตรสงขลา ร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราช พระบิดาแห่งการรถไฟและรัฐวิสาหกิจ

เย็นวานนี้ (23 ต.ค.) พันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตยจัดกิจกรรมรำลึก พระปิยมหาราช โดยการจุดธูปเทียนถวายเป็นพระราชสักการะ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินสยาม พระองค์จึงเป็นที่รัก เคารพของคนไทยเสมอมา และร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่าน 1 นาที หลังจากนั้นคณะทำงานพันธมิตรสงขลา ก็ได้อ่านพระราชประวัติโดนย่อ ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 4 และ สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระราชสมภพเมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 พระองค์ได้รับให้สถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ด้วยที่วัยพระองค์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งตรงกับ วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2411

ได้ทรงผนวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเมื่อวันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ.2416 และทรงลาผนวชในวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2416 แล้วทรงเข้าพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกครั้งที่สอง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2416

คำเรียกขานพระองค์ว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” เป็นพระสมัญญาที่พสกนิกรทั้งประเทศถวายแด่พระองค์ โดยพระสมัญญานี้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นผู้ทรงคิด ซึ่งปรากฏอยู่บนจารึกใต้ฐานของพระบรมรูปทรงม้าในปี พ.ศ.2519

สมเด็จพระปิยมหาราช ทรงเป็นที่รักเทิดทูนของปวงชนชาวไทยตลอดที่พระองค์ทรงครองราชย์ถึง 42 ปี พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถอย่างเฉลียวฉลาด พัฒนาฟันฝ่าอุปสรรคนานับประการ ทั้งต่อสู่กับการไล่ล่าเมืองขึ้นของบรรดาชาติมหาอำนาจในยุคนั้น แม้จะเป็นการสูญเสียดินแดนไปบางส่วน แต่พระองค์ทรงไว้ซึ่งความสุขุมพาประเทศชาติของพระองค์รอดพ้นจากการตกเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติ จนเป็นที่น่าทึ่งสำหรับนานาประเทศ

พระองค์ได้ทรงพัฒนานำความเจริญก้าวหน้าเร่งรัดในแขนงวิชาการการศึกษาการปกครอง การศาล การต่างประเทศ การสาธารณูปโภค ทรงเริ่มพัฒนาประเทศตามแนวตะวันตก ทรงริเริ่มสิ่งใหม่ๆ หลายสิ่ง เช่น ด้านการปกครอง รถไฟ ไฟฟ้า เลิกทาส ไปรษณีย์ การศึกษา เป็นต้น พระองค์ยังทรงสนพระทัยถึงความเป็นอยู่ของประชาชน ทรงออกเยียมประชาราษฎร์อยู่เป็นเนืองนิจ พระองค์จึงเป็นที่จงรักภักดีของปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดิน รวมถึงการเสด็จเยือนยังต่างประเทศที่เปรียบเสมือนเปิดประตูสู่โลกกว้างในช่วงของต้นรัชกาล

ความล้ำลึกในพระปรีชาสามารถในด้านวรรณกรรม พระองค์ก็ทรงเป็นได้ทั้งกวี และนักประพันธ์ที่มีความสามารถอย่างลึกซึ้ง

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเก้าเจ้าอยู่หัว ทรงประชวร พระวักกะ (ไต) พิการ และคืนวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 พระองค์ก็เสด็จสู่สวรรคต รวมพระชนมายุ 57 พรรษา ทรงเสวยราชย์ 42 ปี พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินสยาม พระราชกรณีกิจสุดคณานับ ยังทั้งประโยชน์ ความเจริญรุ่งเรือง นำชาติให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ พระคุณสุดล้นที่จะพรรณนาจากใจของประชาชนชาวไทยได้หมด พระองค์จึงเป็นที่รักเคารพของคนไทยเสมอมา







กำลังโหลดความคิดเห็น