นครศรีธรรมราช – “เทพไท เสนพงษ์” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ จวกรัฐบาล “สมชาย” ยื้อเวลาในการอยู่ในอำนาจให้รัฐบาล และยังมีข้อกำหนดห้ามยุบสภาในระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อความอยู่รอดของรัฐบาลอย่างชัดเจน โดยไม่สนว่าประเทศชาติจะเป็นอย่างไร
วันนี้ (20 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความพยายามในการดึงดันของรัฐบาลในการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 โดยพรรครัฐบาลและรวบรัดการประชุม 4 ฝ่าย ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการประชุม 2 ฝ่ายอีก 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายค้านและฝ่ายประธานวุฒิสภาไม่ได้เข้าร่วม และสรุปได้ว่า 2 ฝ่ายที่เหลือนั้นแท้จริงแล้ว คือ ฝ่ายเดียวคือฝ่ายรัฐบาลเท่านั้นเพราะทั้งนายชัยและรัฐบาลนั้นก็คือฝ่ายเดียวกัน
รัฐบาลไม่ได้สำนึกอะไรเลยดึงดันที่จะตั้ง ส.ส.ร.3 ให้ได้ รัฐบาลต้องหันกลับไปมองถึงต้นเหตุของวิกฤตการณ์ คือ จุดเริ่มต้นเมื่อ 25 พ.ค.คือ การพยายามแก้รัฐธรรมนูญจึงมีวิกฤตตั้งแต่นั้นจนถึงวันนี้ ส.ส.ร.3 จะเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทุกภาคส่วน และเชื่อว่าจะเกิดวิกฤตการอีกรอบที่รุนแรงและไม่จบ รัฐบาลควรถอยหลังแล้วตั้งหลักให้มั่น การประชุม 4 ฝ่ายที่จะตั้ง ส.ส.ร.3 ในวันนี้จึงล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงแม้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่ฟังใคร
นายเทพไท กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่เป็นเครื่องมือช่วยในการประทับตราความไม่ชอบธรรม ฝ่ายใดที่ไม่เห็นด้วยนั้นที่นายกรัฐมนตรีควรหนุนพักก่อน แต่นายกดึงดันในเรื่องนี้ต่อไปเป็นการซื้อเวลายื้อเวลาในการอยู่ในอำนาจให้รัฐบาล และยังมีข้อกำหนดห้ามยุบสภาในระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการซื้อเวลาเพื่อความอยู่รอดอย่างชัดเจน
วันนี้ (20 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความพยายามในการดึงดันของรัฐบาลในการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 โดยพรรครัฐบาลและรวบรัดการประชุม 4 ฝ่าย ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการประชุม 2 ฝ่ายอีก 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายค้านและฝ่ายประธานวุฒิสภาไม่ได้เข้าร่วม และสรุปได้ว่า 2 ฝ่ายที่เหลือนั้นแท้จริงแล้ว คือ ฝ่ายเดียวคือฝ่ายรัฐบาลเท่านั้นเพราะทั้งนายชัยและรัฐบาลนั้นก็คือฝ่ายเดียวกัน
รัฐบาลไม่ได้สำนึกอะไรเลยดึงดันที่จะตั้ง ส.ส.ร.3 ให้ได้ รัฐบาลต้องหันกลับไปมองถึงต้นเหตุของวิกฤตการณ์ คือ จุดเริ่มต้นเมื่อ 25 พ.ค.คือ การพยายามแก้รัฐธรรมนูญจึงมีวิกฤตตั้งแต่นั้นจนถึงวันนี้ ส.ส.ร.3 จะเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทุกภาคส่วน และเชื่อว่าจะเกิดวิกฤตการอีกรอบที่รุนแรงและไม่จบ รัฐบาลควรถอยหลังแล้วตั้งหลักให้มั่น การประชุม 4 ฝ่ายที่จะตั้ง ส.ส.ร.3 ในวันนี้จึงล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงแม้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่ฟังใคร
นายเทพไท กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่เป็นเครื่องมือช่วยในการประทับตราความไม่ชอบธรรม ฝ่ายใดที่ไม่เห็นด้วยนั้นที่นายกรัฐมนตรีควรหนุนพักก่อน แต่นายกดึงดันในเรื่องนี้ต่อไปเป็นการซื้อเวลายื้อเวลาในการอยู่ในอำนาจให้รัฐบาล และยังมีข้อกำหนดห้ามยุบสภาในระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการซื้อเวลาเพื่อความอยู่รอดอย่างชัดเจน
