ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บีโอไอสรุปการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนช่วง 9 เดือนปีนี้ โครงการลงทุนลดลงเกือบร้อยละ40 ขณะที่เงินลงทุนลดลงกว่าร้อยละ 50 เหลือแค่ 12,000 ล้าน จากปัญหาเศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศที่ตกต่ำ รวมถึงปัญหาการเมืองไม่นิ่ง คาดตลอดทั้งปีเงินลงทุนลดจากปีที่แล้วครึ่งหนึ่งแน่นอน เหลือไม่เกิน 18,000 ล้านบาท
ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 6 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สรุปภาวการณ์ลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนช่วง 9 เดือนของปีนี้ ว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2551 บีโอไอได้สนับสนุนส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนไปทั้งหมด 29 โครงการ และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2550 แล้ว จำนวนโครงการลดลงร้อยละ 39.58 โดยในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีการส่งเสริมการลงทุนไปทั้งสิ้น 48 โครงการ
ส่วนเงินลงทุนลดลงร้อยละ 53.80 โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 12,783 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีเงินลงทุนสูงถึง 27,666 ล้านบาท และการจ้างงานคนไทยลดลงร้อยละ 67.80
โครงการที่ได้รับอนุมัติในภาคใต้ตอนบนช่วงมกราคม-กันยายน ปี 2551 แบ่งเป็นพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 14 โครงการ ได้แก่ กิจการเรือเฟอร์รี่ กิจการผลิตเนยขาว และเนยเหลือง, กิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล กิจการผลิตน้ำยางข้น ยางแท่ง กิจการธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ เครื่องรีดยาง น้ำมันปาล์มดิบ ไบโอดีเซล และผลิตวัสดุปลูกพืชจากขุยมะพร้าว จังหวัดกระบี่ มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ทั้ง 4 โครงการ
จังหวัดภูเก็ต มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 9 โครงการ ได้แก่ กิจการโรงแรม กิจการเรือสำหรับให้เช่า กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน, กิจการซอฟต์แวร์ กิจการบ้านพักและศูนย์สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ และกิจการวิจัยและพัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ น้ำเสียและอากาศ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 1 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตขวดพลาสติก (PET), จังหวัดระนอง มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 1 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์มอบแห้ง ส่วนจังหวัดพังงา และชุมพร ยังไม่มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน
ประเภทกิจการที่มีการลงทุนมากที่สุด คือ ประเภทบริการและสาธารณูปโภค ได้รับอนุมัติจำนวน 14 โครงการ ได้แก่ กิจการโรงแรม 3โครงการ, กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ 4 โครงการ กิจการเรือเฟอร์รี่ กิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล กิจการเรือสำหรับให้เช่า กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน กิจการธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ กิจการวิจัยและพัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ น้ำเสีย และอากาศ และกิจการบ้านพักและศูนย์สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ
รองลงมาประเภทเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร ได้รับอนุมัติจำนวน 11 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตเนยขาวและเนยเหลือง กิจการผลิตน้ำยางข้น 2โครงการ กิจการผลิตยางแท่ง กิจการผลิตน้ำมัน ปาล์มดิบ 4โครงการ กิจการผลิตไบโอดีเซล 2 โครงการ และกิจการผลิตวัสดุปลูกพืชจากขุยมะพร้าว
ประเภทอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับอนุมัติกิจการซอฟต์แวร์ทั้ง 2 โครงการประเภทผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง ได้รับอนุมัติกิจการผลิตเครื่องรีดยาง 1โครงการ ประเภทเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก ได้รับอนุมัติกิจการผลิตขวดพลาสติก (PET) 1 โครงการ
ขนาดการลงทุนโครงการที่ได้รับอนุมัติมีขนาดเงินลงทุนอยู่ระหว่าง 20-200 ล้านบาท จำนวน 16 โครงการ และมีเงินลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 5 เป็น โครงการลงทุนของคนไทย ทั้งสิ้น 9 โครงการ หรือร้อยละ 31
โครงการที่มีหุ้นไทยร่วมกับหุ้นต่างชาติมี 16 โครงการ หรือร้อยละ 55 และโครงการที่ลงทุนโดยต่างชาติทั้งสิ้นมี 4 โครงการ หรือร้อยละ 14
สำหรับแนวโน้มการลงทุนภาคใต้ตอนบนช่วงปลายปี 2551 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ต่ำกว่าปี 2550 โดยในปี 2551 คาดว่าจะมีโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติไม่ต่ำกว่า 50 โครงการ เงินลงทุนต่ำกว่าปี 2550 ประมาณร้อยละ 35 หรือคงเหลือประมาณ 18,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในภาคใต้ตอนบน จากตัวแปรสำคัญด้านต่างๆ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจภายในประเทศ ปัญหาทางการเมือง ปัญหาแรงงาน ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนในภาคใต้ตอนบนในปี 2551 ทั้งสิ้น
ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 6 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สรุปภาวการณ์ลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนช่วง 9 เดือนของปีนี้ ว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2551 บีโอไอได้สนับสนุนส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนไปทั้งหมด 29 โครงการ และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2550 แล้ว จำนวนโครงการลดลงร้อยละ 39.58 โดยในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีการส่งเสริมการลงทุนไปทั้งสิ้น 48 โครงการ
ส่วนเงินลงทุนลดลงร้อยละ 53.80 โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 12,783 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีเงินลงทุนสูงถึง 27,666 ล้านบาท และการจ้างงานคนไทยลดลงร้อยละ 67.80
โครงการที่ได้รับอนุมัติในภาคใต้ตอนบนช่วงมกราคม-กันยายน ปี 2551 แบ่งเป็นพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 14 โครงการ ได้แก่ กิจการเรือเฟอร์รี่ กิจการผลิตเนยขาว และเนยเหลือง, กิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล กิจการผลิตน้ำยางข้น ยางแท่ง กิจการธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ เครื่องรีดยาง น้ำมันปาล์มดิบ ไบโอดีเซล และผลิตวัสดุปลูกพืชจากขุยมะพร้าว จังหวัดกระบี่ มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ทั้ง 4 โครงการ
จังหวัดภูเก็ต มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 9 โครงการ ได้แก่ กิจการโรงแรม กิจการเรือสำหรับให้เช่า กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน, กิจการซอฟต์แวร์ กิจการบ้านพักและศูนย์สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ และกิจการวิจัยและพัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ น้ำเสียและอากาศ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 1 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตขวดพลาสติก (PET), จังหวัดระนอง มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจำนวน 1 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์มอบแห้ง ส่วนจังหวัดพังงา และชุมพร ยังไม่มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน
ประเภทกิจการที่มีการลงทุนมากที่สุด คือ ประเภทบริการและสาธารณูปโภค ได้รับอนุมัติจำนวน 14 โครงการ ได้แก่ กิจการโรงแรม 3โครงการ, กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ 4 โครงการ กิจการเรือเฟอร์รี่ กิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล กิจการเรือสำหรับให้เช่า กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน กิจการธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ กิจการวิจัยและพัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ น้ำเสีย และอากาศ และกิจการบ้านพักและศูนย์สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ
รองลงมาประเภทเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร ได้รับอนุมัติจำนวน 11 โครงการ ได้แก่ กิจการผลิตเนยขาวและเนยเหลือง กิจการผลิตน้ำยางข้น 2โครงการ กิจการผลิตยางแท่ง กิจการผลิตน้ำมัน ปาล์มดิบ 4โครงการ กิจการผลิตไบโอดีเซล 2 โครงการ และกิจการผลิตวัสดุปลูกพืชจากขุยมะพร้าว
ประเภทอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับอนุมัติกิจการซอฟต์แวร์ทั้ง 2 โครงการประเภทผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง ได้รับอนุมัติกิจการผลิตเครื่องรีดยาง 1โครงการ ประเภทเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก ได้รับอนุมัติกิจการผลิตขวดพลาสติก (PET) 1 โครงการ
ขนาดการลงทุนโครงการที่ได้รับอนุมัติมีขนาดเงินลงทุนอยู่ระหว่าง 20-200 ล้านบาท จำนวน 16 โครงการ และมีเงินลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 5 เป็น โครงการลงทุนของคนไทย ทั้งสิ้น 9 โครงการ หรือร้อยละ 31
โครงการที่มีหุ้นไทยร่วมกับหุ้นต่างชาติมี 16 โครงการ หรือร้อยละ 55 และโครงการที่ลงทุนโดยต่างชาติทั้งสิ้นมี 4 โครงการ หรือร้อยละ 14
สำหรับแนวโน้มการลงทุนภาคใต้ตอนบนช่วงปลายปี 2551 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ต่ำกว่าปี 2550 โดยในปี 2551 คาดว่าจะมีโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติไม่ต่ำกว่า 50 โครงการ เงินลงทุนต่ำกว่าปี 2550 ประมาณร้อยละ 35 หรือคงเหลือประมาณ 18,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในภาคใต้ตอนบน จากตัวแปรสำคัญด้านต่างๆ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจภายในประเทศ ปัญหาทางการเมือง ปัญหาแรงงาน ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนในภาคใต้ตอนบนในปี 2551 ทั้งสิ้น
