ทัพเรือนำนาวิกโยธินยกพลขึ้นบกสับเปลี่ยนกำลังพลดับไฟใต้

นราธิวาส - กองทัพเรือนำนาวิกโยธินนับพันนาย ยกพลขึ้นบก ที่ จ.นราธิวาส เพื่อผลัดเปลี่ยนกำลังพลประจำการแก้ปัญหาความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทดแทนชุดเก่าที่ปฏิบัติหน้าที่มาแล้วร่วม 1 ปี

เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (29 ก.ย.) ที่ริมทะเลชายหาดบ้านทอน อ.เมืองนราธิวาส บริเวณหน้าศาลาห้องประชุมร่มเกล้า กองพลทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผู้บังคับการหน่วยเฉาพะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ ได้เป็นประธาน ตรวจแถวความพร้อม และให้โอวาทผู้ใต้บังคับบัญชา หน่วยกำลังพลนาวิกโยธิน กว่า 1,500 นาย ซึ่งได้สิ้นสุดภารกิจ ในการปฏิบัติหน้าที่ ห้วงระยะเวลา 1 ปี ในรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตาม “แผนพิทักษ์ใต้เพื่อความสันติสุข”

โดยให้กำลังพลสามารถเดินทางกลับบ้านตามภูมิลำเนา เพื่อไปหาครอบครัว หลังจากได้จากครอบครัวเพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ เพื่อให้กำลังพลได้กลับพักผ่อน แก้ปัญหากำลังพลอ่อนล้า และแก้ปัญหาตึงเครียดที่อาจเกิดขึ้น จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ โดยกำลังพลที่เสร็จสิ้นภารกิจ ต่างมีอาการยิ้มแย้ม แสดงสีหน้าด้วยความดีใจ ต่างแบกอาวุธยุทโธปกรณ์และสัมภาระลำเลียงขึ้นเรือท้องแบน โดยมี เรือหลวงสีชัง เรือหลวงสุรินทร์ และเรือทองหลาง มารับกำลังพลเพื่อเดินทางต่อยัง จ.ชลบุรี และระยอง

วันเดียวกันนี้ ทางกองทัพเรือ ได้จัดส่งกำลังพล หน่วยนาวิกโยธิน กว่า 1,500 นาย จากภาคตะวันออก เพื่อเป็นการผลัดเปลี่ยนกำลัง เพื่อทำหน้าที่รักษาการณ์ต่อในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วย กองพลหน่วยรบพิเศษ หน่วยรักษาฝั่ง หน่วยทหารราบ และหน่วยทหารปืนใหญ่ พร้อมยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ รถยนต์ฮัมวี่ กว่า 20 คัน ได้ยกพลขึ้นบกที่ชายหาดบ้านทอน

โดยได้รวมกำลังพลทั้งหมด ที่ค่ายจุฬาภรณ์ เพื่อรับฟังนโยบายและโอวาท จากนาวาเอก นิเวช บุตรศรี ผู้บังคับการนาวิกโยธินภาคใต้ ซึ่งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน และอย่างสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้น เพราะอาจเป็นชนวน ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้าม นำใช้เป็นจุดอ่อนเป็นเครื่องมือ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน

อีกทั้งยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างรอบคอบและอย่าประมาทกับสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ เพราะอาจเกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ จากนั้นกำลังพลทั้งหมด ได้ทยอยเดินทางต่อไปยังฐานปฏิบัติการที่อยู่ในพื้นที่ โดยกำลังพลใหม่ที่ถูกผลัดเปลี่ยนกำลัง จะคงกำลังปฏิบัติหน้ารักษาความสงบเรียบร้อยไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนจะที่ผลัดเปลี่ยนกำลังอีกครั้งในปีต่อไป