ศูนย์ข่าวศรีราชา - กำลังทางอากาศยาน บนบก และเรือรบในทะเล สนธิกำลังบูรณาการ “ฝึกอย่างไร รบอย่างนั้น” ซ้อมแผนป้องกันประเทศภาคตะวันออก ยกพลขึ้นบกที่หาดระยอง ทดสอบขีดความสามารถ และแผนเผชิญเหตุในการสถานการณ์ต่างๆ
วันนี้ (31 มี.ค.) พลเรือเอก นิพนธ์ จักษุดุล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทน พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการฝึกยกพลขึ้นบก ณ ชายหาดกองพันทหารราบที่ 7 ค่ายพระมหาสุรสีหนาท จังหวัดระยอง โดยมี พลเรือเอก รพล คำคล้าย เสนาธิการทหารเรือ พลเรือโท สุวิทย์ ธารรูป ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พลเรือโท ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ พลเรือตรี สุรชัย สังขพงษ์ รองผู้บัญชาการ พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ผู้แทนหน่วยขึ้นตรงกอทัพเรือ ฝ่ายอำนวยการฝึก เดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกยกพลขึ้นบก ณ ชายหาดกองพันทหารราบที่ 7 กองพันทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
โดยมี พลเรือตรี ชัยสินธุ์ ญาดี เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวรายงานถึงการกำหนดสถานการณ์สมมุติในเรื่องของความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องการนำกำลังรบเข้าโจมตีข้าศึกแนวชายหาด มีเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงสุรินทร์ และเรือรบจอดอยู่หน้าอ่าวหาดยาว พร้อมทั้งให้หน่วยสอดแนมโดยใช้กำลังของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือนำเรือยาง เข้าเคลียร์พื้นที่ชายหาดยาวก่อน จึงได้ทำการฝึกยกพลขึ้นบก โดยใช้รถ AAV หรือรถสะเทินน้ำสะเทินบกจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน 7 คัน ออกมาจากเรือหลวงสุรินทร์ ซึงเป็นเรือยกพลขึ้นบกสามารถบรรทุกรถสะเทินน้ำสะเทินบกได้ และยังได้ใช้อากาศยานของ กองการบินทหารเรือ ในการโจมตีทางอากาศ การนำกำลังเข้าแซกซึมปล่อยมาจากบนฟากฟ้าในระดับสูง
พลเรือเอก นิพนธ์ จักษุดุล รองผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า จากกรณีที่ พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ทำพิธีเปิดการฝึก กองทัพเรือ ประจำปี 2553 เพื่อทดสอบขีดความสามารถของกองทัพเรือในการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศด้านตะวันออก และทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุในสถานการณ์ต่างๆ โดยกองทัพเรือได้ดำเนินการวางแผนการฝึกตามขั้นตอนต่างๆ โดยกำหนดสถานการณ์การฝึกตามแผนป้องกันประเทศ ด้านตะวันออกที่กองทัพเรือจะต้องเกี่ยวข้อง ตั้งแต่สภาวะปกติไปจนถึงสภาวะความขัดแย้งรวมทั้งการต่อต้านการก่อการร้าย ณ แท่นผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย โดยกำหนดการฝึกให้ ก็คือ “รบอย่างไรให้ฝึกอย่างนั้น”
และกล่าวอีกว่า การฝึกครั้งนี้ได้กำหนดให้หน่วยต่างๆ ในกองทัพเรือทั้งส่วนกำลังรบ ส่วนสนับสนุนการช่วยรบ ส่วนยุทธบริการ ส่วนการศึกษา และกรมในส่วนบัญชาการ ได้เข้าร่วมการฝึก เพื่อทดสอบแผนระดับต่างๆ และการฝึกภาคสนามและภาคทะเล ซึ่งเป็นการเคลื่อนย้ายกำลังทางเรือขนาดใหญ่ เพื่อทำการยกพลขึ้นบกในพื้นที่เป้าหมายสมมุติ การอพยพเรือนออกจากพื้นที่ขัดแย้ง การต่อต้านการก่อการร้ายที่แท่นผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย การดำเนินกลยุทธ์ร่วมของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดยการเคลื่อนย้ายกำลังเข้าพื้นที่การรบ และการฝึกยิงอาวุธด้วยกระสุนจริงในด้านการอำนวยการฝึกนั้น ได้นำระบบสารสนเทศ และระบบงานสารบรรณอิเลคทรอนิคส์ของกองทัพเรือมาใช้สนับสนุนตลอดห้วงการฝึก ควบคู่ไปกับระบบสื่อสารที่ใช้งานในปัจจุบัน
