นครศรีธรรมราช – เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราช เร่งล่าตัวโจรปลอมตัวเป็นหมอฉกทรัพย์คนไข้ รพ.มหาราช ตั้งค่าหัว 5 พันบาท - สสจ.นครศรีธรรมราช พุ่งเป้าอาจเป็นเจ้าหน้าที่เก่าแค้นก่อเหตุดูพฤติกรรมแนบเนียน
กรณีคนร้ายแต่งกายปลอมตัวคล้ายบุคลากรทางการแพทย์ ได้เข้าไปปะปนกับเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ตัวจริงใน รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช และเข้าไปทำทีช่วยเหลือคนไข้จากนั้นได้ล่อลวงปลดทรัพย์สินก่อนที่จะหลบหนีไปโดยที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ขณะการก่อเหตุทุกขั้นตอน โดยเจ้าหน้าที่ได้แพร่ภาพวงจรปิดดังกล่าวออกล่าตัว เนื่องจากเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจในสถานที่ราชการ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (23 ก.ย.) พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด พบว่า ผู้เสียหายได้นำคำสั่งแพทย์จาก รพ.จุฬาฯ มาเพื่อพบแพทย์ที่ รพ.มหาราช และเพื่อขอรับยา ขณะที่รอนั้นคนร้ายได้เข้ามาพูดคุยพฤติกรรมของคนร้ายนั้นแนบเนียนมาก และน่าเชื่อว่าน่าจะรู้ขั้นตอนวิธีการกระบวนการตรวจดูอาการ คนร้ายได้ลวงผู้เสียหายไปเป็นลำดับตั้งแต่การให้เข้าไปตรวจวัดความดัน นำตัวไปนั่งรอหน้าห้องเอกซเรย์ก่อนที่จะลวงปลดทรัพย์แล้ววิ่งหลบหนี
“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งรางวัลนำจับไว้ที่ 5 พันบาท และกำลังเร่งล่าตัว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไปก่อเหตุซ้ำอีก และหลังจากที่ภาพได้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น คาดว่า จะมีการแจ้งเบาะแสเข้ามามากขึ้น การเดินทางของคนร้ายนั้นได้มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราชหลังจากก่อเหตุแล้ว ขณะเดียวกัน เราได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ของ รพ.มหาราช ในการตรวจสอบความผิดปกติและเฝ้ามองมอนิเตอร์ในการตรวจสอบความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งนั้นต้องมีความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของ รพ.ด้วย”
ขณะที่ นายแพทย์ สมชาย นิ้มวัฒนากุล ผอ.รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้ออกประกาศติดทุกจุดที่สำคัญทั่วพื้นที่บริการผู้ป่วย รวมทั้งการแสดงตัวของเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องติดบัตรแสดงตัวทุกคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมมอนิเตอร์วงจรปิดต้องหูตาไว เนื่องจากการก่อเหตุของคนร้ายถือว่ากระทบมาก แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หลายคนที่พบเห็นคนร้ายได้ยืนยันว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และต่างก็จำหน้าได้โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่ตู้ยาม รปภ.หน้า รพ.พร้อมยืนยันตัวคนร้าย
ส่วน นายแพทย์ นพพร ชื่นกลิ่น สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจาก รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง สสจ.ได้แจ้งเตือนไปยังทุกโรงพยาบาลในนครศรีธรรมราช ให้เฝ้าระวังพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ ขณะที่ รพ.มหาราช ช่วงที่มีการเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่มีน้อย แปลกใจว่า คนไข้ที่เป็นผู้เสียหาย เหตุใดจึงไม่มีญาติมาด้วย ซึ่งผู้ป่วยจะต้องพึงระวังไว้เสมอว่า ควรมีญาติมาทุกครั้งโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องนอนบนรถเข็นหรือไม่รู้สึกตัว และข้อสำคัญนั้นผู้ป่วยต้องไม่ยินยอมให้ใครมาถอดทรัพย์สินไปเด็ดขาด
“ผมกำลังตั้งข้อสังเกตว่าคนร้ายอาจเป็นเจ้าหน้าที่เก่าหรือไม่ที่พ้นหน้าที่ไปแล้ว เพราะคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์และบุคลากร จะไม่สามารถแสดงพฤติกรรมได้เนียนเช่นนี้ รวมทั้งคนที่ไม่เคยเข็นเตียงคนไข้ จะเก้ๆกังๆ ไม่เข็นได้คล่องแบบนี้ ซึ่งกำลังตรวจสอบในประเด็นนี้อยู่เช่นกัน แต่สำหรับ รพ.มหาราช ถือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่มากมีบุคลากรจำนวนมาก และคนไข้แต่ละวันหลายพันราย ดังนั้นสายตาเจ้าหน้าที่ย่อมที่จะหลุดรอดไปได้บ้าง” สสจ.นครศรีธรรมราช กล่าว
กรณีคนร้ายแต่งกายปลอมตัวคล้ายบุคลากรทางการแพทย์ ได้เข้าไปปะปนกับเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ตัวจริงใน รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช และเข้าไปทำทีช่วยเหลือคนไข้จากนั้นได้ล่อลวงปลดทรัพย์สินก่อนที่จะหลบหนีไปโดยที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ขณะการก่อเหตุทุกขั้นตอน โดยเจ้าหน้าที่ได้แพร่ภาพวงจรปิดดังกล่าวออกล่าตัว เนื่องจากเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจในสถานที่ราชการ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (23 ก.ย.) พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด พบว่า ผู้เสียหายได้นำคำสั่งแพทย์จาก รพ.จุฬาฯ มาเพื่อพบแพทย์ที่ รพ.มหาราช และเพื่อขอรับยา ขณะที่รอนั้นคนร้ายได้เข้ามาพูดคุยพฤติกรรมของคนร้ายนั้นแนบเนียนมาก และน่าเชื่อว่าน่าจะรู้ขั้นตอนวิธีการกระบวนการตรวจดูอาการ คนร้ายได้ลวงผู้เสียหายไปเป็นลำดับตั้งแต่การให้เข้าไปตรวจวัดความดัน นำตัวไปนั่งรอหน้าห้องเอกซเรย์ก่อนที่จะลวงปลดทรัพย์แล้ววิ่งหลบหนี
“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งรางวัลนำจับไว้ที่ 5 พันบาท และกำลังเร่งล่าตัว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไปก่อเหตุซ้ำอีก และหลังจากที่ภาพได้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น คาดว่า จะมีการแจ้งเบาะแสเข้ามามากขึ้น การเดินทางของคนร้ายนั้นได้มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราชหลังจากก่อเหตุแล้ว ขณะเดียวกัน เราได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ของ รพ.มหาราช ในการตรวจสอบความผิดปกติและเฝ้ามองมอนิเตอร์ในการตรวจสอบความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งนั้นต้องมีความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของ รพ.ด้วย”
ขณะที่ นายแพทย์ สมชาย นิ้มวัฒนากุล ผอ.รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้ออกประกาศติดทุกจุดที่สำคัญทั่วพื้นที่บริการผู้ป่วย รวมทั้งการแสดงตัวของเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องติดบัตรแสดงตัวทุกคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมมอนิเตอร์วงจรปิดต้องหูตาไว เนื่องจากการก่อเหตุของคนร้ายถือว่ากระทบมาก แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หลายคนที่พบเห็นคนร้ายได้ยืนยันว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และต่างก็จำหน้าได้โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่ตู้ยาม รปภ.หน้า รพ.พร้อมยืนยันตัวคนร้าย
ส่วน นายแพทย์ นพพร ชื่นกลิ่น สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจาก รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง สสจ.ได้แจ้งเตือนไปยังทุกโรงพยาบาลในนครศรีธรรมราช ให้เฝ้าระวังพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ ขณะที่ รพ.มหาราช ช่วงที่มีการเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่มีน้อย แปลกใจว่า คนไข้ที่เป็นผู้เสียหาย เหตุใดจึงไม่มีญาติมาด้วย ซึ่งผู้ป่วยจะต้องพึงระวังไว้เสมอว่า ควรมีญาติมาทุกครั้งโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องนอนบนรถเข็นหรือไม่รู้สึกตัว และข้อสำคัญนั้นผู้ป่วยต้องไม่ยินยอมให้ใครมาถอดทรัพย์สินไปเด็ดขาด
“ผมกำลังตั้งข้อสังเกตว่าคนร้ายอาจเป็นเจ้าหน้าที่เก่าหรือไม่ที่พ้นหน้าที่ไปแล้ว เพราะคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์และบุคลากร จะไม่สามารถแสดงพฤติกรรมได้เนียนเช่นนี้ รวมทั้งคนที่ไม่เคยเข็นเตียงคนไข้ จะเก้ๆกังๆ ไม่เข็นได้คล่องแบบนี้ ซึ่งกำลังตรวจสอบในประเด็นนี้อยู่เช่นกัน แต่สำหรับ รพ.มหาราช ถือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่มากมีบุคลากรจำนวนมาก และคนไข้แต่ละวันหลายพันราย ดังนั้นสายตาเจ้าหน้าที่ย่อมที่จะหลุดรอดไปได้บ้าง” สสจ.นครศรีธรรมราช กล่าว
