กระบี่ - คณะกรรมการพิจารณาราคาผลปาล์มลงมติ เสนอ 6 มาตรการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ ขณะที่เกษตรกรโวย เปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ แฉอาจมีโรงานสมรู้ร่วมคิดกัน ทำให้เปอร์เซ็นต์ตก เพื่อซื้อผลปาล์มเกษตรกรในราคาที่ต่ำ
นายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวในที่ประชุมคณะทำงานพิจารณาผลผลิตราคาปาล์มน้ำมันที่เป็นธรรม โดยมีนายอรุณ ไม้ทิพย์ การค้าภายในจังหวัดกระบี่ นายปณต สังข์สมบูรณ์ พลังงานจังหวัดกระบี่ ผู้ประกอบการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มน้ำมัน ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ว่า ปัจจุบันราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันลดต่ำลงมา ในขณะที่ปริมาณปาล์มน้ำมันมีน้อยลงซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับดีมานต์ และซัปพลายส์ ส่งผลให้เกษตรกรวิตกและเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้ผลผลิตปาล์มไม่ได้คุณภาพ ประกอบกับนโยบายเร่งรัดการผลิตพืชพลังงานทดแทน ในส่วนของอ้อยและมันสำปะหลัง ทำให้พืชปาล์มน้ำมัน ขาดความชัดเจนในด้านนโยบาย ส่งผลต่อการลงทุนด้านไบโอดีเซล เหตุนี้ เป็นส่วนหนึ่งทำให้ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันลดต่ำลง
ในที่ประชุมได้มีการร่วมกันพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ทำให้ราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำ คือ สต๊อกน้ำมันปาล์มของไทยและของโลก รวมถึงราคาน้ำมันดีเซล ปัจจัยการผลิต
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่มีการพูดถึงมากที่สุด คือ เรื่องของเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ลดต่ำลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ราคาผลผลิตปาล์มตกต่ำอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
นายเอนก ลิ่มศรีวิไล เลขาสมาคมปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี้ เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ได้จากผลผลิตปาล์มน้ำมันในจังหวัดกระบี่ หรือทั้งประเทศ ไม่เคยถึง 19 เปอร์เซ็นต์ แต่คงอยู่ที่ 16-17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ละโรงงานก็ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่เท่ากันอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งผลิตปาล์มมากที่สุดในประเทศ
นายเอนก กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีการทำการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมันกันอย่างแพร่หลาย และคาดว่าคงจะมีการพัฒนามากกว่า 20 ปี ซึ่งเปอร์เซ็นต์ น้ำมันเคยขึ้นสูงถึง 20-22 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเลย อย่างมากก็อยู่ที่ 16 หรือ 17 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก เพราะเป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้โรงงานกดราคาการรับซื้อผลปาล์มดิบลงมา
ขณะเดียวกัน มีการพัฒนาปุ๋ยเคมีให้มีคุณภาพ ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูง แต่คุณภาพก็จะต้องดีขึ้นตามมา ซึ่งตนเชื่อว่าปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เพียงพอที่จะทำให้ปาล์มน้ำมันมีการพัฒนาคุณภาพมากขึ้น และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ถึง 19 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ มันเกิดจากสาเหตุอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกับปาล์มน้ำมันในเมืองไทย หรืออาจจะมีการสมรู้ร่วมคิดกันของโรงงาน ทำให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ
อย่างไรก็ตาม มติในที่ประชุมได้สรุปข้อเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ รวม 6 ข้อด้วยกันประกอบด้วย 1.มีน้ำมันปาล์มดิบคงเหลืออยู่ในสต๊อก ประมาณ 2 แสนตัน เสนอให้กระทรวงพลังงานซื้อไปเพื่อผลิตพลังงานทดแทน 2.ในภาวะวิกฤตนี้โรงกลั่นน้ำมันปาล์มรับซื้อน้ำมันปาล์มสดไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 25 บาท
3.กำหนดให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม รับซื้อผลปาล์มในราคากิโลกรัมละ 4.00-4.20 บาท 4.การรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบให้จัดสรรปริมาณตามกำลังการผลิตของแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างความเป็นระบบ และ 5.ห้ามนำน้ำมันปาล์มดิบเข้าประเทศ ควรกำหนดมาตรการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์จากปาล์ม 6.แก้ไข พ.ร.บ.การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และควรปรับปรุง พ.ร.บ.บางข้อ ในระดับนโยบายของประเทศ ที่ไม่ส่งผลต่อการพัฒนา
นายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวในที่ประชุมคณะทำงานพิจารณาผลผลิตราคาปาล์มน้ำมันที่เป็นธรรม โดยมีนายอรุณ ไม้ทิพย์ การค้าภายในจังหวัดกระบี่ นายปณต สังข์สมบูรณ์ พลังงานจังหวัดกระบี่ ผู้ประกอบการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มน้ำมัน ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ว่า ปัจจุบันราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันลดต่ำลงมา ในขณะที่ปริมาณปาล์มน้ำมันมีน้อยลงซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับดีมานต์ และซัปพลายส์ ส่งผลให้เกษตรกรวิตกและเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้ผลผลิตปาล์มไม่ได้คุณภาพ ประกอบกับนโยบายเร่งรัดการผลิตพืชพลังงานทดแทน ในส่วนของอ้อยและมันสำปะหลัง ทำให้พืชปาล์มน้ำมัน ขาดความชัดเจนในด้านนโยบาย ส่งผลต่อการลงทุนด้านไบโอดีเซล เหตุนี้ เป็นส่วนหนึ่งทำให้ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันลดต่ำลง
ในที่ประชุมได้มีการร่วมกันพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ทำให้ราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำ คือ สต๊อกน้ำมันปาล์มของไทยและของโลก รวมถึงราคาน้ำมันดีเซล ปัจจัยการผลิต
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่มีการพูดถึงมากที่สุด คือ เรื่องของเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ลดต่ำลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ราคาผลผลิตปาล์มตกต่ำอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
นายเอนก ลิ่มศรีวิไล เลขาสมาคมปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี้ เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ได้จากผลผลิตปาล์มน้ำมันในจังหวัดกระบี่ หรือทั้งประเทศ ไม่เคยถึง 19 เปอร์เซ็นต์ แต่คงอยู่ที่ 16-17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ละโรงงานก็ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่เท่ากันอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งผลิตปาล์มมากที่สุดในประเทศ
นายเอนก กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีการทำการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมันกันอย่างแพร่หลาย และคาดว่าคงจะมีการพัฒนามากกว่า 20 ปี ซึ่งเปอร์เซ็นต์ น้ำมันเคยขึ้นสูงถึง 20-22 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเลย อย่างมากก็อยู่ที่ 16 หรือ 17 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก เพราะเป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้โรงงานกดราคาการรับซื้อผลปาล์มดิบลงมา
ขณะเดียวกัน มีการพัฒนาปุ๋ยเคมีให้มีคุณภาพ ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูง แต่คุณภาพก็จะต้องดีขึ้นตามมา ซึ่งตนเชื่อว่าปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เพียงพอที่จะทำให้ปาล์มน้ำมันมีการพัฒนาคุณภาพมากขึ้น และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ถึง 19 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ มันเกิดจากสาเหตุอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกับปาล์มน้ำมันในเมืองไทย หรืออาจจะมีการสมรู้ร่วมคิดกันของโรงงาน ทำให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ
อย่างไรก็ตาม มติในที่ประชุมได้สรุปข้อเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ รวม 6 ข้อด้วยกันประกอบด้วย 1.มีน้ำมันปาล์มดิบคงเหลืออยู่ในสต๊อก ประมาณ 2 แสนตัน เสนอให้กระทรวงพลังงานซื้อไปเพื่อผลิตพลังงานทดแทน 2.ในภาวะวิกฤตนี้โรงกลั่นน้ำมันปาล์มรับซื้อน้ำมันปาล์มสดไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 25 บาท
3.กำหนดให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม รับซื้อผลปาล์มในราคากิโลกรัมละ 4.00-4.20 บาท 4.การรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบให้จัดสรรปริมาณตามกำลังการผลิตของแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างความเป็นระบบ และ 5.ห้ามนำน้ำมันปาล์มดิบเข้าประเทศ ควรกำหนดมาตรการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์จากปาล์ม 6.แก้ไข พ.ร.บ.การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และควรปรับปรุง พ.ร.บ.บางข้อ ในระดับนโยบายของประเทศ ที่ไม่ส่งผลต่อการพัฒนา
