นราธิวาส - ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ ร่วมแถลงข่าวคืบหน้าเหตุระเบิดตำรวจ รปภ.ครู รือเสาะ ด้าน จนท.มั่นคงเผยพบแหล่งบ่มเพาะความรุนแรง ในสถานศึกษาตาดีกา
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 30 บริเวณวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ร่วมกันแถลงข่าวการความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลอบก่อเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.ครูในพื้นที่เขตเทศบาลรือเสาะ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 13 ราย เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา
จากการสอบสวนนายมูฮำหมัดสะแปอิง อาแวกาจิ คนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บจากการก่อเหตุในครั้งนั้น ได้ให้การสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุร่วมกับเพื่อนที่เสียชีวิต โดยได้ให้การซัดทอดด้วยว่าตนเองและเพื่อนได้รับระเบิดและรีโมตจากนายรอแปอิง อูเซ็ง อายุ 37 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 222/3 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสาร จำนวน 4 เครื่อง แท่งชาร์จวิทยุ 4 เครื่อง เสาอากาศ 1 ต้น ถังเติมน้ำยาแอร์ เอกสารภาษามลายู อุปกรณ์ทำระเบิด และโทรศัพท์ 1 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ยึดไว้ตรวจสอบและขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สืบทราบว่า โรงเรียนตาดีกาตาลีมีดีนี ในพื้นที่ บ.ยะบะ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ เป็นแหล่งซ่องสุมและฝึกฝนกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบเพื่อก่อเหตุในพื้นที่ โดยหลังจากแถลงแล้ว คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดกว่า 50 นาย ได้เดินทางตรวจสอบโรงเรียนตาดีกาดังกล่าวเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปภาพที่มีการนำเยาวชนมาฝึกร่างกาย และสภาพจิตใจ ด้วยการเดินป่า อีกทั้งมีฐานที่ใช้สำหรับการฝึกความแข็งแกร่งทางร่างกาย รวมถึงมีการปลุกระดมเป็นภาษามาลายูโดยบิดเบือนหลักศาสนา
ด้าน นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หลังจากนี้จังหวัดจะเข้าตรวจสอบการเรียนการสอนในสถานศึกษาตาดีกาแต่ละแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ล่อแหลม ส่วนในพื้นที่ บ.ยะบะ ต.รือเสาะ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้ว่าเป็นสถานที่ฝึกเยาวชนให้หลงผิดนั้น หลังจากนี้ก็จะถือว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการแยกแยะผู้ที่หลงผิดออกมา จากนั้นชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จัดระบบการเรียนการสอนใหม่ รวมถึงมีการจัดชุดดูแลเข้ามาดูในแต่ละวันเพื่อป้องกันไม่ให้มีการสอนที่ผิดด้วย
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 30 บริเวณวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ร่วมกันแถลงข่าวการความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลอบก่อเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.ครูในพื้นที่เขตเทศบาลรือเสาะ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 13 ราย เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา
จากการสอบสวนนายมูฮำหมัดสะแปอิง อาแวกาจิ คนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บจากการก่อเหตุในครั้งนั้น ได้ให้การสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุร่วมกับเพื่อนที่เสียชีวิต โดยได้ให้การซัดทอดด้วยว่าตนเองและเพื่อนได้รับระเบิดและรีโมตจากนายรอแปอิง อูเซ็ง อายุ 37 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 222/3 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสาร จำนวน 4 เครื่อง แท่งชาร์จวิทยุ 4 เครื่อง เสาอากาศ 1 ต้น ถังเติมน้ำยาแอร์ เอกสารภาษามลายู อุปกรณ์ทำระเบิด และโทรศัพท์ 1 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ยึดไว้ตรวจสอบและขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สืบทราบว่า โรงเรียนตาดีกาตาลีมีดีนี ในพื้นที่ บ.ยะบะ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ เป็นแหล่งซ่องสุมและฝึกฝนกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบเพื่อก่อเหตุในพื้นที่ โดยหลังจากแถลงแล้ว คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดกว่า 50 นาย ได้เดินทางตรวจสอบโรงเรียนตาดีกาดังกล่าวเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปภาพที่มีการนำเยาวชนมาฝึกร่างกาย และสภาพจิตใจ ด้วยการเดินป่า อีกทั้งมีฐานที่ใช้สำหรับการฝึกความแข็งแกร่งทางร่างกาย รวมถึงมีการปลุกระดมเป็นภาษามาลายูโดยบิดเบือนหลักศาสนา
ด้าน นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หลังจากนี้จังหวัดจะเข้าตรวจสอบการเรียนการสอนในสถานศึกษาตาดีกาแต่ละแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ล่อแหลม ส่วนในพื้นที่ บ.ยะบะ ต.รือเสาะ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้ว่าเป็นสถานที่ฝึกเยาวชนให้หลงผิดนั้น หลังจากนี้ก็จะถือว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการแยกแยะผู้ที่หลงผิดออกมา จากนั้นชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จัดระบบการเรียนการสอนใหม่ รวมถึงมีการจัดชุดดูแลเข้ามาดูในแต่ละวันเพื่อป้องกันไม่ให้มีการสอนที่ผิดด้วย