นครศรีธรรมราช - พรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนการเรียกร้องของพนังงาน NBT ให้เปลี่ยนชื่อกลับมาเป็นช่อง 11 ชี้รัฐบาลชุดใหม่ต้องให้ความสำคัญกับสื่อของรัฐ ไม่ใช้สื่อเป็นเครื่องมือเหมือนที่ผ่านมา
วันนี้ (16 ก.ย.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอสนับสนุนและให้กำลังใจกับการเคลื่อนไหวของคนในกรมประชาสัมพันธ์ ที่เรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กลับมาเป็นช่อง 11 เหมือนเดิม เรื่องนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเรียกร้องความเป็นอิสระกลับคืนมาสู่สถานีโทรทัศน์ของรัฐ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้บริหารระดับสูงในกรมประชาสัมพันธ์ นำพาองค์กรสื่อของรัฐไปรับใช้ฝ่ายการเมืองอย่างน่าเกลียด จนละเลยหลักการแห่งวิชาชีพ ทำให้กรมประชาสัมพันธ์ตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
นายอภิชาต กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ต้องตำหนิผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ทั้งอธิบดี และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่ยอมทำสัญญาให้บริษัทเอกชน จากภายนอกเข้ามากุมงานหัวใจของสถานีโทรทัศน์คืองานข่าว
นอกจากจะทำให้ทิศทางงานข่าวของสถานีบิดเบี้ยว ขาดความเป็นกลาง กลายเป็นกระบอกเสียงของฝ่ายการเมืองเต็มรูปแบบ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างรุนแรงแล้ว พนักงานช่อง 11 เดิมซึ่งเป็นคนของกรมประชาสัมพันธ์ถูกจำกัดบทบาทในการทำงาน ถูกละเลยในเรื่องโอกาสในการเรียนรู้และการตัดสินใจ รวมถึงเรื่องสวัสดิการ เพราะทุกอย่างไหลเทไปให้บริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญาทั้งหมด สภาพอย่างนี้ผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์กลับทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะเข้ามาบริหารประเทศด้วยว่า ต้องให้ความสำคัญกับบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกำกับดูแลสื่อมวลชนของรัฐ ไม่เพียงแต่จะต้องเลิกคิดเข้ามาแทรกแซง ควบคุม หรือใช้สื่อเป็นเครื่องมือของตัวเองเหมือนที่ผ่านมาแล้ว ยังต้องสนับสนุนการปฏิรูปสื่ออย่างจริงจัง ต้องมีวิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างเกียรติภูมิความเป็นสื่อมวลชนของรัฐที่จะต้องเป็นแบบอย่างของสื่อมวลชนทั่วไปให้ปรากฏด้วย ซึ่งจะติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป
วันนี้ (16 ก.ย.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอสนับสนุนและให้กำลังใจกับการเคลื่อนไหวของคนในกรมประชาสัมพันธ์ ที่เรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กลับมาเป็นช่อง 11 เหมือนเดิม เรื่องนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเรียกร้องความเป็นอิสระกลับคืนมาสู่สถานีโทรทัศน์ของรัฐ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้บริหารระดับสูงในกรมประชาสัมพันธ์ นำพาองค์กรสื่อของรัฐไปรับใช้ฝ่ายการเมืองอย่างน่าเกลียด จนละเลยหลักการแห่งวิชาชีพ ทำให้กรมประชาสัมพันธ์ตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
นายอภิชาต กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ต้องตำหนิผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ทั้งอธิบดี และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่ยอมทำสัญญาให้บริษัทเอกชน จากภายนอกเข้ามากุมงานหัวใจของสถานีโทรทัศน์คืองานข่าว
นอกจากจะทำให้ทิศทางงานข่าวของสถานีบิดเบี้ยว ขาดความเป็นกลาง กลายเป็นกระบอกเสียงของฝ่ายการเมืองเต็มรูปแบบ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างรุนแรงแล้ว พนักงานช่อง 11 เดิมซึ่งเป็นคนของกรมประชาสัมพันธ์ถูกจำกัดบทบาทในการทำงาน ถูกละเลยในเรื่องโอกาสในการเรียนรู้และการตัดสินใจ รวมถึงเรื่องสวัสดิการ เพราะทุกอย่างไหลเทไปให้บริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญาทั้งหมด สภาพอย่างนี้ผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์กลับทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะเข้ามาบริหารประเทศด้วยว่า ต้องให้ความสำคัญกับบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกำกับดูแลสื่อมวลชนของรัฐ ไม่เพียงแต่จะต้องเลิกคิดเข้ามาแทรกแซง ควบคุม หรือใช้สื่อเป็นเครื่องมือของตัวเองเหมือนที่ผ่านมาแล้ว ยังต้องสนับสนุนการปฏิรูปสื่ออย่างจริงจัง ต้องมีวิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างเกียรติภูมิความเป็นสื่อมวลชนของรัฐที่จะต้องเป็นแบบอย่างของสื่อมวลชนทั่วไปให้ปรากฏด้วย ซึ่งจะติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป