สตูล - จังหวัดสตูล พลิกฟื้นนารกร้างริมชายทะเลกว่า 300 ไร่ ทำสวนผสม สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรในยุคเศรษฐกิจฝืด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพพื้นที่นารกร้างกว่า 325 ไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ม.2 และ ม.3 ตำบลตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูลได้ถูกน้ำทะเลหนุนเข้าผืนนาจนไม่สามารถปลูกข้าวตามฤดูกาลได้นานกว่า 26 ปีแล้ว ทำให้ผืนนาเหล่านี้ถูกทิ้งรกร้าง และไร้การเหลียวแล
นายอัสมาน เตะปูยู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตันหยงโป พร้อมสมาชิกและเจ้าหน้าที่จากเกษตรจังหวัดสตูล ศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลตันหยงโป ร่วมกันสำรวจพบว่า มีพื้นที่จำนวน 4 จุด เป็นเส้นทางน้ำที่ไหลเข้าสู่ผืนนาของชาวบ้าน จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรได้
ทั้งนี้ เพื่อฟื้นฟูให้ผืนนารกร้างเหล่านี้กลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง อบต.ตันหยงโป จะเร่งจัดหางบประมาณในการเข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟู พร้อมประสานเจ้าหน้าที่เกษตร ที่มีความรู้ความชำนาญการมาให้คำแนะนำ ในการเปลี่ยนผืนนาที่รกร้าง และไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้กลับมาเพาะปลูกนาข้าว ปลูกมะพร้าวน้ำหอมไว้รองรับนักท่องเที่ยว หรือจะแปลงเปลี่ยนเป็นบ่อเลี้ยงปลา เป็นรายได้อีกทางให้กับชาวบ้าน
ด้าน นายมะอาบู หยันยามีน ประธานศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลตันหยงโป กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง รวมทั้งเป็นความต้องการของชาวบ้านในปัญหาเรื่องนาร้าง ที่ประสบปัญหามานานในพื้นที่ตำบลตันหยงโป จึงหารือกับทางองค์การบริหารส่วนตำบลตันหยงโป ในการหาแนวทางแก้ไขช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน โดยจัดทำโครงการส่งให้กับ อบจ.ในการเข้าช่วยเหลือ
สำหรับอาชีพหลักของชุมชนนี้ก็เป็นอาชีพประมง รองลงมา เป็นอาชีพเกษตร จากเดิมเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมานั้นชาวบ้านในพื้นที่ไม่ต้องหาซื้อข้าวเลยเพียงหาปลามา ก็สามารถเลี้ยงชีพได้โดยไม่ขัดสน แต่ขณะนี้ชาวบ้านประสบปัญหา จึงผลักดันการแก้ปัญหานี้เข้าสู่แผนพัฒนาชุมชนระดับตำบล
ประธานศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ประจำตำบลตันหยงโป กล่าวอีกว่า ภาพรวมของตำบลตันหยงโปนี้มีอยู่ 2 ฤดู คือ ฤดูฝนและฤดูแล้ง วิกฤตมีอยู่ 2 เดือนที่ชาวบ้านไม่สามารถออกเรือหาปลาได้ เพราะน้ำตื้นบวกกับทรัพยากรในทะเลค่อนข้างน้อยลง หากเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งเกษตรจังหวัด อบต.และ อบจ.เข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหาพื้นที่นาร้างโดยขุดร่องคลายน้ำทะเลของจากผืนนาได้ สามารถช่วยเหลือในด้านการเกษตรในพื้นที่สามารถปรับเป็นบ่อเลี้ยงปลา หรือปลูกพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมรองรับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ ลดค่าใช้จ่ายให้กับชาวบ้านได้
ด้าน นายอาซีหมัด เด็นดู อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.3 บ้านบากันเคย ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล เกษตรกรเจ้าของพื้นที่นาร้าง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พื้นที่นาร้าง จำนวน 10 ไร่ ซึ่งเป็นของตนเองนั้น ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างใดเลย เพราะน้ำทะเลได้หนุนเข้ามาในพื้นที่สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก หากเป็นไปได้อยากจะกลับมาปลูกข้าวในพื้นที่ตรงนี้อีก จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลพื้นที่ สำหรับรายได้หลักขณะนี้ก็ได้จากการทำประมงเท่านั้น ซึ่งพอใช้จ่ายไปได้ในแต่ละวัน