ทอ.ภูเก็ตทุ่มงบปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบิน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ตทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกท่าอากาศยาน ทั้งห้องน้ำ ขยายเคาน์เตอร์บริการผู้โดยสารขาเข้า-ออกต่างประเทศ พร้อมสร้างลานจอดรถชั่วคราว ขณะนี้การปรับปรุงในภาพรวมใช้งบกว่า 5,000 ล้าน ลงรับฟังความคิดเห็นส่วนราชการปลายเดือนสิงหาคม

น.ท.วิชา เนินลพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขยายท่าอากาศยานภูเก็ตในภาพรวม ซึ่งจะใช้งบประมาณในการดำเนินการ 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ว่า ขณะนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการสำรวจรายละเอียดและออกแบบเบื้องต้น ซึ่งจะมีการนำมาเสนอให้จังหวัดได้รับทราบในการประชุมจังหวัด ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อสอบถามความคิดเห็นเพิ่มเติมประกอบการออกแบบ

ในการดำเนินงาน จะมีทั้งทุบตึกเดิมที่มีอยู่เพื่อสร้างใหม่ และการสร้างอาคารใหม่ เพื่อให้เพียงพอรองรับปริมาณผู้โดยสาร ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 5,000 ล้านบาท สำหรับโครงการดังกล่าว ทอท.ได้วางแผนที่จะพัฒนาท่าฯภูเก็ตให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึงปีละ 15 ล้านคน เพื่อให้เหมาะสมต่อศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต โดยได้แบ่งการพัฒนาต่อจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว อีก 2 เฟส เฟสแรกจะพัฒนาให้มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคนต่อปี (ปัจจุบันรองรับได้ 6.5 ล้านคน) ส่วนเฟสที่ 2 พัฒนาเพิ่มจนสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 15 ล้านคน

น.ท.วิชา ยังได้กล่าวต่อไปถึงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก ในบริเวณท่าอากาศยานภูเก็ตหลังจากมีการร้องเรียนจากผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของห้องน้ำว่า ขณะนี้ได้รับงบประมาณปรับปรุงแล้วบางส่วน เช่น ห้องน้ำซึ่งใช้งบปรับปรุงจุดละประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งแต่ละห้องมีการติดตั้งฝักบัวฉีดน้ำ ปรับปรุงเรื่องกลิ่น เป็นต้น โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเป็นกลุ่มๆไป และคิดว่าจะสามารถดำเนินการได้ครบทุกจุดในเร็วๆนี้

นอกจากนั้น ยังมีโครงการขายพื้นที่บริเวณเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง ทั้งขาเข้าและขาออก เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสาร คาดว่า จะใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท และยังได้เสนอโครงการสร้างลานจอดรถชั่วคราว ใช้งบประมาณ 7 ล้านบาท การปรับปรุงบันไดเลื่อน ลิฟต์ และอื่นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน นายณรงค์ จุลเสวก ผู้อำนวยการส่วนรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ชานชลาเข้าออกท่าอากาศยานภูเก็ตมีความคับแคบ ทั้งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวและผู้มารับ จึงได้มีการกำหนดมาตรการให้กับผู้ที่มาใช้บริการบริเวณชานชลาขาเข้าซึ่งจะต้องไม่มีกลุ่มมิจฉาชีพ รถป้ายดำ รถเช่า และยกชูป้ายรถเช่าหากินในบริเวณดังกล่าว

ผู้โดยสารนักท่องเที่ยวเดินทางออกจากท่าอากาศยานฯ ด้วยความปลอดภัย และไม่ถูกหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบ พนักงานตัวแทนโรงแรม และบริษัทนำเที่ยว จะต้องแต่งกายด้วยเครื่องแบบปฏิบัติงานให้เรียบร้อย และต้องติดบัตรพนักงานโรงแรม หรือบัตรมัคคุเทศก์ โดยจะต้องให้บริการนักท่องเที่ยว เฉพาะที่มีการจองห้องพักล่วงหน้า และบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น

การให้บริการรถยนต์จากท่าอากาศยานภูเก็ตถึงโรงแรมที่พัก จะต้องให้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ซื้อบริการรถยนต์รับส่ง และห้องพักเท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ซื้อบริการรถยนต์รับ-ส่งให้ใช้บริการของรถยนต์บริการที่ท่าอากาศยานภูเก็ตจัดไว้ให้ (ลีมูซีน)

สำหรับรถยนต์ที่จะมารับผู้โดยสารของโรงแรม หรือบริษัทนำเที่ยว กรณีมารับผู้โดยสารบุคคลสำคัญ (VIP) จะต้องเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และมีสัญลักษณ์ของโรงแรมติดที่บริเวณด้านข้างของตัวรถยนต์ โดยท่าอากาศยานภูเก็ต อนุญาตให้โรงแรมนำรถยนต์ประเภทต่างๆ มาส่งผู้โดยสารเพื่อเดินทางออกจากท่าอากาศยานภูเก็ต

ส่วนในการนำรถยนต์รับผู้โดยสารขาเข้าจากท่าอากาศยานภูเก็ต จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและสามารถตรวจสอบได้ อนุญาตให้พนักงานตัวแทนโรงแรม และบริษัทนำเที่ยวยกป้ายต้อนรับได้ในพื้นที่ที่กำหนดครั้งละ 2 คน โดยห้ามพนักงานตัวแทนโรงแรม และบริษัทนำเที่ยวรับผู้โดยสาร ที่ไม่ได้จองห้องล่วงหน้าหรือผู้โดยสารของหน่วยงานอื่นโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ ให้ทางผู้ประกอบการขอรับป้ายได้จากทางการท่าฯ

อย่างไรก็ตาม จะมีการตรวจสอบบุคคลภายนอกที่มายกป้ายรับผู้โดยสารและรบกวน บริเวณชานชลาขาเข้า และเขตท่าอากาศยานฯ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย ตลอดจนหน่วยงานขนส่งจังหวัด และมีการปรับตาม พ.ร.บ.ทอท.พ.ศ.2522 มาตรา 48 ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ซึ่งออกตามมาตรา 4 (/) หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของคณะกรรมการฯ ซึ่งออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 50-2,000 บาท และความผิดตามมาตรานี้ให้เจ้าพนักงานมีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้

แต่ถ้าผู้นั้นไม่ยอมให้เปรียบเทียบปรับ เจ้าพนักงานผู้ทำการจับต้องนำตัวผู้ถูกจับส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที แต่ต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมงนับแต่การจับกุม ซึ่งจะมีการเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ผู้โดยสารนักท่องเที่ยวบริเวณชานชาลา ขาข้าท่าอากาศยานภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไป