ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดแผนดำเนินงานปี 2551 ระบุอัดฉีดเม็ดเงิน 80 ล้านช่วย SME - ธุรกิจใต้ เล็งดึงนักธุรกิจต่างชาติร่วมลงทุน
พล.ท.ดร.สมชาย วิรุฬหผล ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย แถลงถึงภาพรวมนโยบายของธนาคารอิสลามในปีนี้ โดยระบุว่า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยจะเน้นการสนับสนุนสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม( SME s) ด้านอาหารฮาลาลส่งออกไปต่างประเทศ ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ฝั่งอันดามันซึ่งมีชาวมุสลิมเป็นจำนวนมาก ที่ต้องการให้ธนาคารสนับสนุนทางด้านการเงิน สนับสนุนผู้แสวงบุญเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ด้านการใช้เครือข่ายของธนาคารในภาคใต้ เพื่อช่วยในการสร้างคน สร้างอาชีพ ให้แก่ประชาชนในภาคใต้ รวมถึงการใช้กลไกทางธนาคารอิสลาม เป็นตัวเชื่อมให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศ เป็นต้น
โดยเฉพาะการให้การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากการให้สินเชื่อตามปกติของธนาคารแล้ว ธนาคารได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) จัดโครงการส่งเสริมอาชีพ และสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ เป็นโครงการเร่งด่วน วงเงินกว่า 80 ล้านบาท
พล.ท.ดร.สมชาย กล่าวว่า การสนับสนุนสินเชื่อด้านอาหารฮาลาล มองว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีลู่ทางที่สุดใส ที่จะเป็นฐานการผลิตส่งออกเพื่อแข่งขันกับประเทศมาเลเซีย และนอกจากจะสนับสนุนสินเชื่อแล้ว ธนาคารอิสลามจะจัดโรดโชว์เพื่อช่วยสนับสนุนตลาดอาหารฮาลาลให้รู้จักของตลาดภายนอกประเทศมากขึ้น
ขณะเดียวกันการให้สินเชื่อรายย่อย หรือไมโครไฟแนนซ์ แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการช่วยประชาชนและกลุ่มอาชีพในระดับรากหญ้าจริง ๆ และธนาคารยังจะสนับสนุนในเรื่องของช่องทางด้านการตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายและเปิดตลาดให้กว้างขึ้น
ทั้งนี้ หากมาตรการนี้ประสบความสำเร็จในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็อาจจะขยายไปยังพื้นที่จ.สงขลา และสตูล และอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ต่อไป เช่นเดียวกับการเชื่อมโยงให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศจะเจาะกลุ่มของประเทศในแถบตะวันออกกลางเป็นหลัก เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีศักยภาพและเม็ดเงินลงทุนรวมทั้งเป็นกลุ่มประเทศมุสลิม
อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 30 เมษายนปีนี้ ด้านเงินฝากมียอดเงิน 13,210.13 ล้านบาท สินเชื่อรวมรายได้ค้างรับมียอดเงิน 11,460.03 ล้านบาท จำนวนทรัพย์สิน 16,997.36 ล้านบาท จำนวนลูกค้าเงินฝากมียอดบัญชี 106,273 บัญชี และจำนวนลูกค้าสินเชื่อมียอดบัญชี 8,354 บัญชี
ส่วนการแก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้มีสัดส่วนลดลง ได้ทำการติดตามทวงถามและได้รับการชำระหนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม 51 จำนวน 95 ราย จำนวนเงิน 180.11 ล้านบาท และในส่วนลูกหนี้ NPL รายใหญ่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา 18 ราย วงเงิน 431.08 ล้านบาท มีข้อยุติแล้ว 10 ราย วงเงิน 424.47 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขั้นตอนกฎหมาย 24 ราย วงเงิน 766.08 ล้านบาท
พล.ท.ดร.สมชาย วิรุฬหผล ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย แถลงถึงภาพรวมนโยบายของธนาคารอิสลามในปีนี้ โดยระบุว่า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยจะเน้นการสนับสนุนสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม( SME s) ด้านอาหารฮาลาลส่งออกไปต่างประเทศ ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ฝั่งอันดามันซึ่งมีชาวมุสลิมเป็นจำนวนมาก ที่ต้องการให้ธนาคารสนับสนุนทางด้านการเงิน สนับสนุนผู้แสวงบุญเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ด้านการใช้เครือข่ายของธนาคารในภาคใต้ เพื่อช่วยในการสร้างคน สร้างอาชีพ ให้แก่ประชาชนในภาคใต้ รวมถึงการใช้กลไกทางธนาคารอิสลาม เป็นตัวเชื่อมให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศ เป็นต้น
โดยเฉพาะการให้การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากการให้สินเชื่อตามปกติของธนาคารแล้ว ธนาคารได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) จัดโครงการส่งเสริมอาชีพ และสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ เป็นโครงการเร่งด่วน วงเงินกว่า 80 ล้านบาท
พล.ท.ดร.สมชาย กล่าวว่า การสนับสนุนสินเชื่อด้านอาหารฮาลาล มองว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีลู่ทางที่สุดใส ที่จะเป็นฐานการผลิตส่งออกเพื่อแข่งขันกับประเทศมาเลเซีย และนอกจากจะสนับสนุนสินเชื่อแล้ว ธนาคารอิสลามจะจัดโรดโชว์เพื่อช่วยสนับสนุนตลาดอาหารฮาลาลให้รู้จักของตลาดภายนอกประเทศมากขึ้น
ขณะเดียวกันการให้สินเชื่อรายย่อย หรือไมโครไฟแนนซ์ แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการช่วยประชาชนและกลุ่มอาชีพในระดับรากหญ้าจริง ๆ และธนาคารยังจะสนับสนุนในเรื่องของช่องทางด้านการตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายและเปิดตลาดให้กว้างขึ้น
ทั้งนี้ หากมาตรการนี้ประสบความสำเร็จในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็อาจจะขยายไปยังพื้นที่จ.สงขลา และสตูล และอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ต่อไป เช่นเดียวกับการเชื่อมโยงให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศจะเจาะกลุ่มของประเทศในแถบตะวันออกกลางเป็นหลัก เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีศักยภาพและเม็ดเงินลงทุนรวมทั้งเป็นกลุ่มประเทศมุสลิม
อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 30 เมษายนปีนี้ ด้านเงินฝากมียอดเงิน 13,210.13 ล้านบาท สินเชื่อรวมรายได้ค้างรับมียอดเงิน 11,460.03 ล้านบาท จำนวนทรัพย์สิน 16,997.36 ล้านบาท จำนวนลูกค้าเงินฝากมียอดบัญชี 106,273 บัญชี และจำนวนลูกค้าสินเชื่อมียอดบัญชี 8,354 บัญชี
ส่วนการแก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้มีสัดส่วนลดลง ได้ทำการติดตามทวงถามและได้รับการชำระหนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม 51 จำนวน 95 ราย จำนวนเงิน 180.11 ล้านบาท และในส่วนลูกหนี้ NPL รายใหญ่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา 18 ราย วงเงิน 431.08 ล้านบาท มีข้อยุติแล้ว 10 ราย วงเงิน 424.47 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขั้นตอนกฎหมาย 24 ราย วงเงิน 766.08 ล้านบาท