ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง” นำผลิตภัณฑ์ “พีเจ้น” บุกตลาดต่างจังหวัด จัดอีเวนต์มาร์เกตติ้ง 4 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ ประเดิมที่ภูเก็ต หวังสร้างแบรนด์กับคุณแม่ต่างจังหวัด ดันยอดขายเท่ากับกรุงเทพฯภายใน 3 ปีจากนี้
นายเมธิน เลอสุมิตรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์พีเจ้น เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกปี 2551 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคจะชะลอการใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 กลับมีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มพรีเมียมของบริษัทในครึ่งปีแรกเติบโต 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการใช้จ่ายต่อทารกเพิ่มขึ้น เนื่องจากคุณแม่ต้องการความสะดวกในการเลี้ยงดูลูกน้อย ส่งผลให้สินค้าของพีเจ้น ที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มในระดับพรีเมียม และมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถรองรับกับทุกความต้องการของผู้บริโภคจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว บริษัทได้วางกลยุทธ์การตลาดของพีเจ้นต่อจากนี้ โดยจะเน้นขยายช่องทางไปที่ตลาดต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นที่ 2 แล้วที่บริษัทได้บุกตลาดดังกล่าว เนื่องจากอัตราเด็กแรกเกิดจะสูงกว่ากรุงเทพฯ คิดเป็นสัดส่วน 80% ขณะที่ในกรุงเทพฯ จะมีอัตราเด็กแรกเกิดเพียง 20% เท่านั้น
ล่าสุดบริษัทได้จัดสรรงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมเดินสายเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ควบคู่กับการจัดโปรโมชันพิเศษ ณ จุดขาย ไปตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นกลุ่มคุณแม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์ หรือมีลูกคนแรกได้เกิดการทดลองใช้ พร้อมทั้งร่วมสร้างประสบการณ์ และความสัมพันธ์กับผู้บริโภคโดยตรง
นายเมธิน กล่าวอีกว่า จากพฤติกรรมของคนในต่างจังหวัดจะมีความแตกต่างกับคนในกรุงเทพฯ ทำให้ต้องปรับกลวิธีในการนำเสนอสินค้าและการสื่อสารทางการตลาดรูปแบบใหม่ เพื่อให้สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น โดยบริษัทได้จัดเตรียมงบประมาณในการให้ความรู้ควบคู่ไปกับการสื่อสารกว่า 30 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณ สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแมสมีเดียต่างๆ 60% และงบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรมพิเศษอีก 40%
บริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี นอกจากนี้พีเจ้นซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการของเด็กและทารกมาโดยตลอด บริษัทได้วางแผนเพิ่มปริมาณสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอีกกว่า 20 เอสเคยู โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถรองรับกับทุกความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการของบริษัท ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 ที่ผ่านมา มียอดขายในแต่ละกลุ่มสินค้าเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ทุกเซ็กเมนต์เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดขายหลักมาจากกลุ่มสินค้านำเข้า ผ้าเช็คทำความสะอาดผิว พีเจ้น เบบี้ไวพส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพีเจ้น เบบี้ไวพส์ มียอดขายเติบโตสูงสุดกว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจัดกิจกรรมภายใต้คอนเซ็ปต์ Pigeon Love Zone ขึ้นใน 4 จังหวัด ซึ่งครั้งแรกจัดไปแล้วที่ จ.ภูเก็ต ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ครั้งที่ 2 ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา ในวันที่ 13 กันยายน 2551 ครั้งที่ 3 ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน แอร์พอร์ต เชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 27-28 กันยายน 2551 และครั้งสุดท้ายที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันศรีราชา ในวันที่ 5 ตุลาคม 2551
นายเมธิน กล่าวต่อว่า การที่บริษัทหันมาทำตลาดในต่างจังหวัดมากขึ้นก็เพื่อให้คุณแม่ให้ต่างจังหวัดได้รู้จักผลิตภัณฑ์พีเจ้นมากขึ้น และในตลาดต่างจังหวัดยังมีช่องวางในการทำตลาดอีกมาก จากจำนวนเด็กที่คลอดในต่างจังหวัดที่มีสูงถึง 80% บริษัทจึงได้มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ ทั้งในตัวจังหวัดและอำเภอ เพื่อที่จะดันยอดขายในต่างจังหวัดให้ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ ซึ่งคาดหวังว่าภายใน 3 ปีจากนี้ ยอดขายในต่างจังหวัดจะเท่ากับยอดขายในกรุงเทพฯ