ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปการสูญชีวิตจากเหตุสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมระบุ ช่วงเดือนถือศีลอด หรือเดือนรอมฎอน สถานการณ์ไฟใต้ยังคงรุนแรง เนื่องจากกลุ่มก่อความไม่สงบต้องการสร้างผลงาน
รายงานข่าวจากสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้รายงานในที่ประชุม สสต. (9 ส.ค.) ถึงสถานการณ์การก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยมีการสูญเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บ 78 ราย เป็นราษฎรสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นอันดับ 1 ถึง 24 ราย บาดเจ็บ 36 ราย นอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่นแต่ว่าในการก่อเหตุร้ายได้ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีสิ่งที่น่าสังเกตคือ ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้มีหลายเหตุการณ์ที่ก่อเหตุต่อเป้าหมายที่มีมาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันต่ำ เช่น ในการสังหารผู้สูงอายุ หรือมีความผิดพลาดในการก่อเหตุร้ายมากขึ้น เช่น การประกอบระเบิดไม่สมบูรณ์ และการวางระเบิดพลาดเป้าหมาย
เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ยังระบุอีกว่า เป็นไปได้ที่มีการเตรียมความพร้อมและการทดสอบจิตใจ ความชำนาญให้กับสมาชิกแนวร่วมรุ่นใหม่ที่สำเร็จผ่านการฝึกเพื่อเข้าทดแทนสมาชิกแนวร่วมเดิมที่ถูกกดดันจนต้องหลบออกนอกพื้นที่ หรือเป็นการเสริมกำลังให้พร้อมสำหรับในการก่อเหตุใหญ่ข้างหน้า สิ่งที่น่าสนใจคือ กรณีกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภาคใต้ ออกมาประกาศหยุดยิง โดยไม่มีเงื่อนไข เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา
กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้เคยมีบทบาทในขบวนการพูโล แต่หลังจากประกาศผ่านไปก็ยังมีเหตุร้ายดำรงอยู่และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เพราะกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุที่แท้จริง ต้องการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มรวมใต้ดินรวมภาคใต้ ไม่สามารถสั่งการในพื้นที่ได้ และยังคงดำรงของความมุ่งหมายในการแบ่งแยกดินแดนต่อไป
ผู้แทน กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยังระบุด้วยว่า การก่อเหตุร้ายรายวันยังคงมีอยู่ตามความมุ่งหมายของขบวนการ และในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นช่วงก่อนเดือนถือศีลอด (รอมฎอน) ตามหลักนิยมของกลุ่มก่อความไม่สงบจะก่อเหตุการณ์มากขึ้นเพื่อสร้างผลงานในการขอรับบริจาคจากแกนนำและแหล่งเงินทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รายงานข่าวจากสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้รายงานในที่ประชุม สสต. (9 ส.ค.) ถึงสถานการณ์การก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยมีการสูญเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บ 78 ราย เป็นราษฎรสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นอันดับ 1 ถึง 24 ราย บาดเจ็บ 36 ราย นอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่นแต่ว่าในการก่อเหตุร้ายได้ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีสิ่งที่น่าสังเกตคือ ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้มีหลายเหตุการณ์ที่ก่อเหตุต่อเป้าหมายที่มีมาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันต่ำ เช่น ในการสังหารผู้สูงอายุ หรือมีความผิดพลาดในการก่อเหตุร้ายมากขึ้น เช่น การประกอบระเบิดไม่สมบูรณ์ และการวางระเบิดพลาดเป้าหมาย
เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ยังระบุอีกว่า เป็นไปได้ที่มีการเตรียมความพร้อมและการทดสอบจิตใจ ความชำนาญให้กับสมาชิกแนวร่วมรุ่นใหม่ที่สำเร็จผ่านการฝึกเพื่อเข้าทดแทนสมาชิกแนวร่วมเดิมที่ถูกกดดันจนต้องหลบออกนอกพื้นที่ หรือเป็นการเสริมกำลังให้พร้อมสำหรับในการก่อเหตุใหญ่ข้างหน้า สิ่งที่น่าสนใจคือ กรณีกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภาคใต้ ออกมาประกาศหยุดยิง โดยไม่มีเงื่อนไข เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา
กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้เคยมีบทบาทในขบวนการพูโล แต่หลังจากประกาศผ่านไปก็ยังมีเหตุร้ายดำรงอยู่และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เพราะกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุที่แท้จริง ต้องการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มรวมใต้ดินรวมภาคใต้ ไม่สามารถสั่งการในพื้นที่ได้ และยังคงดำรงของความมุ่งหมายในการแบ่งแยกดินแดนต่อไป
ผู้แทน กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยังระบุด้วยว่า การก่อเหตุร้ายรายวันยังคงมีอยู่ตามความมุ่งหมายของขบวนการ และในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นช่วงก่อนเดือนถือศีลอด (รอมฎอน) ตามหลักนิยมของกลุ่มก่อความไม่สงบจะก่อเหตุการณ์มากขึ้นเพื่อสร้างผลงานในการขอรับบริจาคจากแกนนำและแหล่งเงินทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
