นครศรีธรรมราช – บรรยากาศบ้านของน้องเอ เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติ ที่นครศรีธรรมราชตั้งเตนท์เชียร์คึกคัก ด้านแม่น้ำตาร่วงเสียดายพลาดแค่ 1 กก. ฝากกำลังใจถึงลูกบอกไม่เป็นไรเอาใหม่อายุยังน้อย ด้านนายอำเภอทุ่งสงซึ่งเป็นบ้านเกิดปลอบใจในฐานะสร้างชื่อเสียงให้อำเภอ ลั่นเตรียมเลี้ยงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่หากกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด
บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 249 หมู่ 9 ต.นาหลวงเสน ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิดของ น.ส.เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติ หรือน้องเอ เมื่อเช้าที่ผ่านมา เป็นไปอย่างคึกคักเมื่อนายพิเชษฐ์และนางอุไร เหล่าศิริกุล พ่อและแม่ของ น.ส.เพ็ญศิริได้การตั้งเต็นท์ โต๊ะ และนำทีวีจอใหญ่มาตั้งไว้ด้านนอกเพื่อที่จะร่วมเชียร์ให้กับ น.ส.เพ็ญศิริ พร้อมทั้งมีว่าที่ร้อยตรีฐิติวัฒน์ เชาวลิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช,นายอำเภอทุ่งสงเดินทางมาร่วมเชียร์พร้อมกับชาวบ้านจำนวนมาก เมื่อการถ่ายทอดมาถึงทุกสายตาต่างก็จับจ้องที่จอทีวีและส่งเสียงดังลั่นเมื่อ น.ส.เพ็ญศิริสามารถยกได้ในครั้งแรก
โดยเฉพาะนางอุไร มารดาถึงกับลุกยืนรำด้วยความดีใจ และเมื่อการแข่งขันได้มีการพัก 10นาที นางอุไร ผู้เป็นแม่ได้ออกไปจุดธูปเทียนบนบานศาลพระภูมิขอให้ช่วยลูกสาวให้ได้เหรียญกลับมาโดยไม่เจาะจงว่าเป็นเหรียญอะไร
เมื่อการแข่งขันได้เริ่มต้นต่อและปรากฏว่า น.ส.เพ็ญศิริ แพ้จอมพลังสาวจีนและมีการทำคะแนนน้ำหนักห่างจากผู้ที่ได้เหรียญทองแดงเพียง 1 กก. เท่านั้นซึ่งอยู่ในลำดับที่ 4 นางอุไรผู้เป็นแม่ถึงกับน้ำตาร่วง และบอกว่าไม่เป็นไรลูกเอทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วไม่เป็นไรขอเป็นกำลังใจให้ลูกและคิดว่าลูกจะต้องมีโอกาสที่ดีต่อไปเพราะอายุยังน้อย ครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ เพราะถือเป็นครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิก และอยากจะฝากถึงลูกว่าไม่ต้องเสียใจลูกทำดีที่สุดแล้วพ่อแม่ภูมิใจในตัวลูกกีฬาก็มีแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา
ด้านนายพิเชษฐ์ เหล่าสิริกุล ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องเอกล่าวว่า จะเป็นกำลังใจให้ลูกอย่างไรก็ตามก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่เต็มความสามารถและดีใจมากๆ ที่ช่วงแรกลูกสามารถผ่านไปได้ ถึงแม้จะไม่ได้เหรียญก็ตาม ไม่เป็นไรก็ถือว่าเป็นเกมกีฬามีแพ้ก็ต้องมีชนะ และลูกก็ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว สิ่งที่พ่อจะจัดเตรียมไว้ให้หลังน้องเอกลับมาก็คงจะเตรียมความรักความคิดถึงไว้ให้น้องเอ ส่วนจะเดินทางไปรับน้องเอที่ สนามบินหรือไม่นั้นเรื่องนี้ต้องพูดคุยกับญาติพี่น้องก่อน
ส่วนนายอภิชาติ เหล่าสิริกุล อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย กล่าวว่าน้องทำดีที่สุดแล้ว การที่ได้ไปถึงตรงจุดนั้นในฐานะพี่ชายก็ภูมิใจมากแล้ว ส่วนจะเดินทางไปรับหรือไม่นั้นต้องพูดคุยกับพ่อแม่และญาติพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง
ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน์ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าก็มีความรู้สึกดีใจแทนพี่น้องชาวนาหลวงเสน อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ น.ส.เพ็ญศิริ ที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับพื้นที่ จะได้เหรียญหรือไม่ได้เหรียญก็สามารถที่จะนำธงชาติไทยไปสู่สายตาทั่วโลกแล้ว และเพื่อนบ้านที่นี่ต่างก็มาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมากทีเดียว
นายมนัส โสกันธิกา นายอำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช บอกว่าถึงแม้ว่า น.ส.เพ็ญศิริ จะไม่ได้เหรียญกลับมาก็ตาม แต่ถือว่า น.ส.เพ็ญศิริได้สร้างชื่อเสียงให้กับ อ.ทุ่งสง นครศรีธรมราช และถือเป็นความภาคภูมิใจที่ น.ส.เพ็ญศิริ เป็นชาว อ.ทุ่งสง เพราะการได้ไปแข่งโอลิมปิกนั้นถือว่าสำคัญอย่างมาก เมื่อ น.ส.เพ็ญศิรี กลับมาบ้านที่ อ.ทุ่งสง จะมีการจัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ต่อไป
บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 249 หมู่ 9 ต.นาหลวงเสน ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิดของ น.ส.เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติ หรือน้องเอ เมื่อเช้าที่ผ่านมา เป็นไปอย่างคึกคักเมื่อนายพิเชษฐ์และนางอุไร เหล่าศิริกุล พ่อและแม่ของ น.ส.เพ็ญศิริได้การตั้งเต็นท์ โต๊ะ และนำทีวีจอใหญ่มาตั้งไว้ด้านนอกเพื่อที่จะร่วมเชียร์ให้กับ น.ส.เพ็ญศิริ พร้อมทั้งมีว่าที่ร้อยตรีฐิติวัฒน์ เชาวลิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช,นายอำเภอทุ่งสงเดินทางมาร่วมเชียร์พร้อมกับชาวบ้านจำนวนมาก เมื่อการถ่ายทอดมาถึงทุกสายตาต่างก็จับจ้องที่จอทีวีและส่งเสียงดังลั่นเมื่อ น.ส.เพ็ญศิริสามารถยกได้ในครั้งแรก
โดยเฉพาะนางอุไร มารดาถึงกับลุกยืนรำด้วยความดีใจ และเมื่อการแข่งขันได้มีการพัก 10นาที นางอุไร ผู้เป็นแม่ได้ออกไปจุดธูปเทียนบนบานศาลพระภูมิขอให้ช่วยลูกสาวให้ได้เหรียญกลับมาโดยไม่เจาะจงว่าเป็นเหรียญอะไร
เมื่อการแข่งขันได้เริ่มต้นต่อและปรากฏว่า น.ส.เพ็ญศิริ แพ้จอมพลังสาวจีนและมีการทำคะแนนน้ำหนักห่างจากผู้ที่ได้เหรียญทองแดงเพียง 1 กก. เท่านั้นซึ่งอยู่ในลำดับที่ 4 นางอุไรผู้เป็นแม่ถึงกับน้ำตาร่วง และบอกว่าไม่เป็นไรลูกเอทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วไม่เป็นไรขอเป็นกำลังใจให้ลูกและคิดว่าลูกจะต้องมีโอกาสที่ดีต่อไปเพราะอายุยังน้อย ครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ เพราะถือเป็นครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิก และอยากจะฝากถึงลูกว่าไม่ต้องเสียใจลูกทำดีที่สุดแล้วพ่อแม่ภูมิใจในตัวลูกกีฬาก็มีแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา
ด้านนายพิเชษฐ์ เหล่าสิริกุล ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องเอกล่าวว่า จะเป็นกำลังใจให้ลูกอย่างไรก็ตามก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่เต็มความสามารถและดีใจมากๆ ที่ช่วงแรกลูกสามารถผ่านไปได้ ถึงแม้จะไม่ได้เหรียญก็ตาม ไม่เป็นไรก็ถือว่าเป็นเกมกีฬามีแพ้ก็ต้องมีชนะ และลูกก็ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว สิ่งที่พ่อจะจัดเตรียมไว้ให้หลังน้องเอกลับมาก็คงจะเตรียมความรักความคิดถึงไว้ให้น้องเอ ส่วนจะเดินทางไปรับน้องเอที่ สนามบินหรือไม่นั้นเรื่องนี้ต้องพูดคุยกับญาติพี่น้องก่อน
ส่วนนายอภิชาติ เหล่าสิริกุล อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย กล่าวว่าน้องทำดีที่สุดแล้ว การที่ได้ไปถึงตรงจุดนั้นในฐานะพี่ชายก็ภูมิใจมากแล้ว ส่วนจะเดินทางไปรับหรือไม่นั้นต้องพูดคุยกับพ่อแม่และญาติพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง
ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน์ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าก็มีความรู้สึกดีใจแทนพี่น้องชาวนาหลวงเสน อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ น.ส.เพ็ญศิริ ที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับพื้นที่ จะได้เหรียญหรือไม่ได้เหรียญก็สามารถที่จะนำธงชาติไทยไปสู่สายตาทั่วโลกแล้ว และเพื่อนบ้านที่นี่ต่างก็มาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมากทีเดียว
นายมนัส โสกันธิกา นายอำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช บอกว่าถึงแม้ว่า น.ส.เพ็ญศิริ จะไม่ได้เหรียญกลับมาก็ตาม แต่ถือว่า น.ส.เพ็ญศิริได้สร้างชื่อเสียงให้กับ อ.ทุ่งสง นครศรีธรมราช และถือเป็นความภาคภูมิใจที่ น.ส.เพ็ญศิริ เป็นชาว อ.ทุ่งสง เพราะการได้ไปแข่งโอลิมปิกนั้นถือว่าสำคัญอย่างมาก เมื่อ น.ส.เพ็ญศิรี กลับมาบ้านที่ อ.ทุ่งสง จะมีการจัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ต่อไป