กาญจนบุรี - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งทึมไล่ล่า 6 ชุดออกติดตามไล่ล่ามือปืนอาก้า ยิงถล่มตำรวจและชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เผยให้การชั่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเต็มที่
ความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มใส่ ตร.นปพ.กาญจนบุรีและมีชาวบ้านโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บสาหัส วันนี้ (10 มี.ค.51) เวลา 00.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางมาที่ สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ต่อจากนั้นได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุและร่วมวางแผนอำนวยการในการโอบล้อมติดตามไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ทิ้งรถยนต์ที่คาดว่าน่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ
โดยจอดทิ้งที่ข้างถนนสายวัดบ่อระแหง-พังตรุ พื้นที่หมู่ 17 ต.พังตรุ องพนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ตฬ 6179 กรุงเทพมหานคร สภาพรถมีรอยกระสุนยิงใส่เข้าที่บริเวณด้านข้างขวา 6 รู และกระจกด้านหน้าฝั่งคนขับ 1 รู พบคราบเลือดที่บริเวณเบาะที่นั่งคนขับ และพบทาศัพท์มือถือที่คาดว่าเป็นของคนร้ายทำตกไว้ที่ข้างเบาะนั่งด้านหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการได้ทำการเก็บหลักฐานรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายและพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ
จากนั้นได้ใช้รถยกลากรถคันดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.พนมทวน โดยจอดคู่กับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้าแจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก 0545 กาญจนบุรี ซึ่งเป็นรถยนต์ของ ส.ต.ท.ฐิตินัย ขับขี่ในขณะเกิดเหตุสภาพรถ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้าเข้าที่บริเวณด้านขวา 18 รู ซึ่งได้ทำการเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย
ทางด้าน พ.ต.ท.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พงส.สบ.2 สารวัตรเวรสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุจากนั้นรวบรวมสำนวนและพยานหลักฐานทั้งหมด เสนอต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน
เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร ผ็บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก..ภ.จว.) กาญจนบุรี ได้เดินทางไปที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าเยี่ยม ส.ต.ท.ฐิตินัย แต่แดงเพชร ผบ.หมู่ นปพ.บก.ตร.กาญจนบุรี ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ในสภาพที่รู้ตัว แต่อาการยังไม่พ้นขีดอันตรายร่างกายสามารถรับรู้ได้โดยตอบสนองการสอบถามโดยการพยักหน้าและกระดิกนิ้ว และพบว่าอวัยวะภายในทั้งตับไต ลำไส้ และม้ามถูกกระสุนทำลายเกือบหมด
โดย พล.ต.ต.เรวัช ใช้การสื่อสารกับ ส.ต.ท.ฐิตินัย โดยการนำเอาแผ่นโปสเตอร์ตัวอักษรและพยัญชนะไทยมาชี้ให้ ส.ต.ท.ฐิตินัย ตอบว่า ต้องการอะไรหรือ ตอบคำถามอย่างไร
พล.ต.ต.เรวัช เปิดเผยเกี่ยวกับคดีนี้ว่า เบื้องต้นได้นำเงินช่วยเหลือมอบให้กับครอบครัวของ ส.ต.ท.ฐิตินัย เป็นเงิน 2 หมื่นบาทและจะพิจารณาขอขั้นให้เป็นกรณีพิเศษ สำหรับการปราบปรามผู้กระทำผิด ซึ่ง ส.ต.ท.ฐิตินัย ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายตามหมายจับ ที่คนร้ายมีที่อยู่ที่แน่นอนและมีการยิงต่อสู้กับคนร้ายจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่ทำการสู้รบกับกลุ่มคนร้ายถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตาม จะได้รับการพิจารณาขั้นเงินเดือนเป็นขั้นๆ ไป คือถ้าต่อสู้กับคนร้าย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจะได้ 1 ขั้น ถ้าได้รับบาดเจ็บจะได้ 2 ขั้น และถ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจะได้ 3 ขั้น จากนั้นก็จะได้รับเงินจาก พ.ป.ผ.อีกจำนวนหนึ่ง
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยต่อว่า ในส่วนของการรักษาพยาบาลทาง ร.พ.พหลฯเองก็ได้ให้ความช่วยเหลือ ส.ต.ท.ฐิติวัฒน์ อย่างเต็มที่ ยังมีเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ของตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิ หลวงพ่อเปิ่ล ซึ่งเป็นเงินจากการประกวดพระ เงินช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะมีตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาพิจารณา กรณีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่
สำหรับการรักษา ส.ต.ท.ฐิติวัฒน์ นั้นตนในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ประสานไปยัง ร.พ.ตำรวจ เพื่อนำตัวย้ายไปรักษาที่นั่นแล้ว ซึ่งทางแพทย์ใหญ่ของ ร.พ.ตำรวจก็ได้เตรียมเตียงสำหรับผู้ป่วยไว้รออยู่แล้ว แต่เนื่องจากแพทย์ เจ้าของไข้ ร.พ.พหลฯ ขอดูอาการของคนไข้อีก 72 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าคนไข้จะเกิดอาการช็อก เพราะกระสุนปืนไปทำลายอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก
ส่วนการสอบสวนก็ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลจังหวัดกายจนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาคือ นายเหน่งแลพวก เนื่องจาก ส.ต.ท.ฐิตินัย ได้ระบุว่านายเหน่งเป็นคนที่ลงมือยิงในครั้งนี้ โดยนายเหน่งนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ โดยได้ลั่นไกตั้งแต่ตอนวิ่งตามหลังและแซงประกบยิงใส่จน ส.ต.ท.ฐิตินัย ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนการติดตามไล่ล่าตอนนี้ได้จัดชุดไล่ล่าจำนวน 6 ชุด ตนลงมือปฏิบัติการเอง เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธสงครามและถือว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของประชาชน อันตรายมากขนาดนำเอาอาวุธสงครามมายิงสาตำรวจก็ถือว่าอันตรายมากและตนได้กำชับชุดไล่ล่าให้ใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุด แต่หากมีการต่อสู้ขัดขืนก็ให้ตอบโต้โดยใช้มาตรการเฉียบขาดได้เลย
พล.ต.ต.เรวัช กล่าวว่า ในส่วนของการติดตามไล่ล่า คาดว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะหลบหนีออกไปตามแนวชายแดนเนื่องจากมีความสนิทและคุ้นเคยพื้นที่กับชนกลุ่มน้อย โดยล่าสุดเมื่อเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา มีรถยนต์หลบหนีข้ามแดนทางช่องธรรมชาติไปหนึ่งคันกำลังติดตามหาข่าวอยู่
ส่วนการประสานงานสกัดติดตามคนร้ายได้ประสานขอความความร่วมกับทหารตำรวจในพื้นที่ชายแดนให้สกัดกั้นด้วย รวมถึงภายในพื้นที่เหมืองต่างๆในป่า ซึ่งบุคคลเหล่านี้ชอบแอบเข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ได้เช่นกัน
ส่วนทางด้านหน้าห้องไอซียูได้มีญาติและชาวบ้าน ที่นำโดยนายจำเนียร แต่แดงเพชร อายุ 62 ปี บิดาและนางผงแก้ว แต่แดงเพชร อายุ 66 ปีมารดาที่ร้องไห้ตลอดเวลาซบของ ส.ต.ท.ฐิตินัย มารอเยี่ยมและเฝ้าดูอาการเจ็บของ ส.ต.ท.ฐิตินัย อย่างใจจดใจจ่อในอาการที่โศกเศร้าเสียใจต่อการที่บุตรชายได้รับเหตุได้ในครั้งนี้ เพราะแพทย์ยังให้รอดูอาการอีก 72 ชั่วโมง
ความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มใส่ ตร.นปพ.กาญจนบุรีและมีชาวบ้านโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บสาหัส วันนี้ (10 มี.ค.51) เวลา 00.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางมาที่ สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ต่อจากนั้นได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุและร่วมวางแผนอำนวยการในการโอบล้อมติดตามไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ทิ้งรถยนต์ที่คาดว่าน่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ
โดยจอดทิ้งที่ข้างถนนสายวัดบ่อระแหง-พังตรุ พื้นที่หมู่ 17 ต.พังตรุ องพนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ตฬ 6179 กรุงเทพมหานคร สภาพรถมีรอยกระสุนยิงใส่เข้าที่บริเวณด้านข้างขวา 6 รู และกระจกด้านหน้าฝั่งคนขับ 1 รู พบคราบเลือดที่บริเวณเบาะที่นั่งคนขับ และพบทาศัพท์มือถือที่คาดว่าเป็นของคนร้ายทำตกไว้ที่ข้างเบาะนั่งด้านหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการได้ทำการเก็บหลักฐานรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายและพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ
จากนั้นได้ใช้รถยกลากรถคันดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.พนมทวน โดยจอดคู่กับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้าแจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก 0545 กาญจนบุรี ซึ่งเป็นรถยนต์ของ ส.ต.ท.ฐิตินัย ขับขี่ในขณะเกิดเหตุสภาพรถ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้าเข้าที่บริเวณด้านขวา 18 รู ซึ่งได้ทำการเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย
ทางด้าน พ.ต.ท.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พงส.สบ.2 สารวัตรเวรสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุจากนั้นรวบรวมสำนวนและพยานหลักฐานทั้งหมด เสนอต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน
เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร ผ็บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก..ภ.จว.) กาญจนบุรี ได้เดินทางไปที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าเยี่ยม ส.ต.ท.ฐิตินัย แต่แดงเพชร ผบ.หมู่ นปพ.บก.ตร.กาญจนบุรี ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ในสภาพที่รู้ตัว แต่อาการยังไม่พ้นขีดอันตรายร่างกายสามารถรับรู้ได้โดยตอบสนองการสอบถามโดยการพยักหน้าและกระดิกนิ้ว และพบว่าอวัยวะภายในทั้งตับไต ลำไส้ และม้ามถูกกระสุนทำลายเกือบหมด
โดย พล.ต.ต.เรวัช ใช้การสื่อสารกับ ส.ต.ท.ฐิตินัย โดยการนำเอาแผ่นโปสเตอร์ตัวอักษรและพยัญชนะไทยมาชี้ให้ ส.ต.ท.ฐิตินัย ตอบว่า ต้องการอะไรหรือ ตอบคำถามอย่างไร
พล.ต.ต.เรวัช เปิดเผยเกี่ยวกับคดีนี้ว่า เบื้องต้นได้นำเงินช่วยเหลือมอบให้กับครอบครัวของ ส.ต.ท.ฐิตินัย เป็นเงิน 2 หมื่นบาทและจะพิจารณาขอขั้นให้เป็นกรณีพิเศษ สำหรับการปราบปรามผู้กระทำผิด ซึ่ง ส.ต.ท.ฐิตินัย ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายตามหมายจับ ที่คนร้ายมีที่อยู่ที่แน่นอนและมีการยิงต่อสู้กับคนร้ายจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่ทำการสู้รบกับกลุ่มคนร้ายถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตาม จะได้รับการพิจารณาขั้นเงินเดือนเป็นขั้นๆ ไป คือถ้าต่อสู้กับคนร้าย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจะได้ 1 ขั้น ถ้าได้รับบาดเจ็บจะได้ 2 ขั้น และถ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจะได้ 3 ขั้น จากนั้นก็จะได้รับเงินจาก พ.ป.ผ.อีกจำนวนหนึ่ง
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยต่อว่า ในส่วนของการรักษาพยาบาลทาง ร.พ.พหลฯเองก็ได้ให้ความช่วยเหลือ ส.ต.ท.ฐิติวัฒน์ อย่างเต็มที่ ยังมีเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ของตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิ หลวงพ่อเปิ่ล ซึ่งเป็นเงินจากการประกวดพระ เงินช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะมีตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาพิจารณา กรณีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่
สำหรับการรักษา ส.ต.ท.ฐิติวัฒน์ นั้นตนในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ประสานไปยัง ร.พ.ตำรวจ เพื่อนำตัวย้ายไปรักษาที่นั่นแล้ว ซึ่งทางแพทย์ใหญ่ของ ร.พ.ตำรวจก็ได้เตรียมเตียงสำหรับผู้ป่วยไว้รออยู่แล้ว แต่เนื่องจากแพทย์ เจ้าของไข้ ร.พ.พหลฯ ขอดูอาการของคนไข้อีก 72 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าคนไข้จะเกิดอาการช็อก เพราะกระสุนปืนไปทำลายอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก
ส่วนการสอบสวนก็ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลจังหวัดกายจนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาคือ นายเหน่งแลพวก เนื่องจาก ส.ต.ท.ฐิตินัย ได้ระบุว่านายเหน่งเป็นคนที่ลงมือยิงในครั้งนี้ โดยนายเหน่งนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ โดยได้ลั่นไกตั้งแต่ตอนวิ่งตามหลังและแซงประกบยิงใส่จน ส.ต.ท.ฐิตินัย ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนการติดตามไล่ล่าตอนนี้ได้จัดชุดไล่ล่าจำนวน 6 ชุด ตนลงมือปฏิบัติการเอง เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธสงครามและถือว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของประชาชน อันตรายมากขนาดนำเอาอาวุธสงครามมายิงสาตำรวจก็ถือว่าอันตรายมากและตนได้กำชับชุดไล่ล่าให้ใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุด แต่หากมีการต่อสู้ขัดขืนก็ให้ตอบโต้โดยใช้มาตรการเฉียบขาดได้เลย
พล.ต.ต.เรวัช กล่าวว่า ในส่วนของการติดตามไล่ล่า คาดว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะหลบหนีออกไปตามแนวชายแดนเนื่องจากมีความสนิทและคุ้นเคยพื้นที่กับชนกลุ่มน้อย โดยล่าสุดเมื่อเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา มีรถยนต์หลบหนีข้ามแดนทางช่องธรรมชาติไปหนึ่งคันกำลังติดตามหาข่าวอยู่
ส่วนการประสานงานสกัดติดตามคนร้ายได้ประสานขอความความร่วมกับทหารตำรวจในพื้นที่ชายแดนให้สกัดกั้นด้วย รวมถึงภายในพื้นที่เหมืองต่างๆในป่า ซึ่งบุคคลเหล่านี้ชอบแอบเข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ได้เช่นกัน
ส่วนทางด้านหน้าห้องไอซียูได้มีญาติและชาวบ้าน ที่นำโดยนายจำเนียร แต่แดงเพชร อายุ 62 ปี บิดาและนางผงแก้ว แต่แดงเพชร อายุ 66 ปีมารดาที่ร้องไห้ตลอดเวลาซบของ ส.ต.ท.ฐิตินัย มารอเยี่ยมและเฝ้าดูอาการเจ็บของ ส.ต.ท.ฐิตินัย อย่างใจจดใจจ่อในอาการที่โศกเศร้าเสียใจต่อการที่บุตรชายได้รับเหตุได้ในครั้งนี้ เพราะแพทย์ยังให้รอดูอาการอีก 72 ชั่วโมง
