นครศรีธรรมราช - สุดอนาถกับสังคมการเมืองไทย!! เผย 3 โจ๋วัยกระเตาะ 15-18 ปี ใฝ่ฝันอยากเป็น “นักการเมือง” และ “ต้องมีความยิ่งใหญ่” รวมหัวกันบุกปล้นร้านทองกลางเมืองท่าศาลาได้ไป 16 บาท แต่กลับไปไม่รอดถูกสกัดจับได้ยกแก๊ง ด้านตำรวจมึนตึ้บกับคำสารภาพที่ทำลงไปไม่ใช่เพราะต้องการเงิน
วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 14.20 น. พ.ต.ท.อรุณ จันทร์พูล สว.เวรสอบสวน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปปล้นร้านทองศรีสุวรรณ ภายในเขตเทศบาลตำบลท่าศาลา บริเวณสี่แยกตลาดนับนุสรณ์ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสิทธิ์ ฤทธิ์แผลง ผกก. พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง สว.สส.พร้อมกำลังชุดสืบสวน และสายตรวจเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่าร้านทองดังกล่าวมีคนมุงดูเป็นจำนวนมาก ภายในร้านพบเจ้าของร้านทราบชื่อคือ นางพรศรี ศักดิ์เกษมกิจ อายุ 50 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตื่นตระหนัก ภายในตู้โชว์พบว่ามีสร้อยคอทองคำถูกหวาดหายไป 1 ถาด มีป้ายระบุเป็นถาดทองคำขนาดน้ำหนัก 1 บาท
เบื้องต้น นางพรศรี แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 3 คน โดย 2 คนบุกเข้ามาในร้านใช้อาวุธปืนจี้บังคับ แล้วกระโดดเข้ากวาดถาดเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 16 เส้น น้ำหนักรวม 16 บาท ก่อนพากันวิ่งออกจากร้านไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีมสีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่คนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ พากันขับบึ่งหลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช
ภายหลังทราบความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา ได้รับแจ้งเหตุจึงได้วิทยุสกัดจับคนร้าย โดยมี พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง สว.สส.นำกำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างรวดเร็วจน พบว่า คนร้ายทั้ง 3 คน กำลังอยู่บนรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีมาถึงบริเวณสามแยกบ้านด่านภาษี ถนนสายท่าศาลา–นครศรีธรรมราช ม.9 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับหน้าถอดสี และพยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดและคุมตัวไว้ได้ทั้ง 3 คน ค้นตัวพบทองคำทั้ง 16 เส้น รวม 16 บาท ยังอยู่ครบทุกเส้น ตรวจค้นพบอาวุธปืนปลอม และตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว คุมตัวทั้งผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน
จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องหาต่อมา คือ นายกล้า (นามสมมติ) อายุ 15 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา นายเกรียง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.3 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา และ นายศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ม.3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวมานั้น ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า ได้ถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจากตลาดท่าศาลา และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ยึดคันที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนใช้ก่อเหตุจึงยืนยันว่าใช่รถคันที่หายไป
พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง สว.สส.เปิดเผยว่า หลังจากคุมตัวมาสอบสวนเพื่อทำบันทึกจับกุมนั้น แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อผู้ต้องหาเยาวชนทั้ง 3 นั้น สารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน และสอดคล้องต้องกันว่า สาเหตุที่เข้าปล้นร้านทองนั้นไม่ได้มีความประสงค์ต่อทองนั้น เพราะมีเงินจับจ่ายอยู่แล้ว เพราะฐานะที่บ้านไม่ได้เดือดร้อน
แต่สาเหตุที่ร่วมกันปล้น เพราะว่า การเลือกตั้งนายก อบต.ท่าศาลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เป็นข่าวไม่โด่งดังเท่าที่ควร เพราะมีการชนกันระหว่างคนดังทั้งคู่ คือ นายพอพันธ์ รัตนคช และ นายอภินันท์ เชาวลิต จึงต้องการให้ท่าศาลามีข่าวดังขึ้น และสิ่งที่อยากเป็น คือ อยากเป็นนักการเมืองมาก โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่น
“พวกเขาบอกว่า การเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและมีความยิ่งใหญ่ได้นั้น ให้ไปดูเลยว่ากว่าจะเป็นนักการเมืองได้ ต้องถูกคดีร้ายแรงมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น พวกเขาจึงอยากมีคดีติดตัว เพราะในอนาคตต้องการเป็นนักการเมือง จึงก่อเหตุปล้นดังกล่าว” พ.ต.ท.ประเสริฐ กล่าวและว่า
ส่วนรถจักรยานยนต์นั้น ทั้ง 3 คนสารภาพว่าได้โจรกรรมมาจากใกล้กับที่เกิดเหตุ เนื่องจากรถที่นำมาเพื่อปล้นนั้นน้ำมันหมดขณะหลบหนี ซึ่งเป็นรถของแม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาหนัก คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์ และรับของโจร เนื่องจากรถคันที่หมดน้ำมันนั้นได้นำไปฝากกับเพื่อนอีกคน
วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 14.20 น. พ.ต.ท.อรุณ จันทร์พูล สว.เวรสอบสวน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปปล้นร้านทองศรีสุวรรณ ภายในเขตเทศบาลตำบลท่าศาลา บริเวณสี่แยกตลาดนับนุสรณ์ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสิทธิ์ ฤทธิ์แผลง ผกก. พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง สว.สส.พร้อมกำลังชุดสืบสวน และสายตรวจเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่าร้านทองดังกล่าวมีคนมุงดูเป็นจำนวนมาก ภายในร้านพบเจ้าของร้านทราบชื่อคือ นางพรศรี ศักดิ์เกษมกิจ อายุ 50 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตื่นตระหนัก ภายในตู้โชว์พบว่ามีสร้อยคอทองคำถูกหวาดหายไป 1 ถาด มีป้ายระบุเป็นถาดทองคำขนาดน้ำหนัก 1 บาท
เบื้องต้น นางพรศรี แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 3 คน โดย 2 คนบุกเข้ามาในร้านใช้อาวุธปืนจี้บังคับ แล้วกระโดดเข้ากวาดถาดเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 16 เส้น น้ำหนักรวม 16 บาท ก่อนพากันวิ่งออกจากร้านไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีมสีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่คนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ พากันขับบึ่งหลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช
ภายหลังทราบความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา ได้รับแจ้งเหตุจึงได้วิทยุสกัดจับคนร้าย โดยมี พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง สว.สส.นำกำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างรวดเร็วจน พบว่า คนร้ายทั้ง 3 คน กำลังอยู่บนรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีมาถึงบริเวณสามแยกบ้านด่านภาษี ถนนสายท่าศาลา–นครศรีธรรมราช ม.9 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับหน้าถอดสี และพยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดและคุมตัวไว้ได้ทั้ง 3 คน ค้นตัวพบทองคำทั้ง 16 เส้น รวม 16 บาท ยังอยู่ครบทุกเส้น ตรวจค้นพบอาวุธปืนปลอม และตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว คุมตัวทั้งผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน
จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องหาต่อมา คือ นายกล้า (นามสมมติ) อายุ 15 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา นายเกรียง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.3 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา และ นายศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ม.3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวมานั้น ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า ได้ถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจากตลาดท่าศาลา และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ยึดคันที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนใช้ก่อเหตุจึงยืนยันว่าใช่รถคันที่หายไป
พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง สว.สส.เปิดเผยว่า หลังจากคุมตัวมาสอบสวนเพื่อทำบันทึกจับกุมนั้น แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อผู้ต้องหาเยาวชนทั้ง 3 นั้น สารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน และสอดคล้องต้องกันว่า สาเหตุที่เข้าปล้นร้านทองนั้นไม่ได้มีความประสงค์ต่อทองนั้น เพราะมีเงินจับจ่ายอยู่แล้ว เพราะฐานะที่บ้านไม่ได้เดือดร้อน
แต่สาเหตุที่ร่วมกันปล้น เพราะว่า การเลือกตั้งนายก อบต.ท่าศาลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เป็นข่าวไม่โด่งดังเท่าที่ควร เพราะมีการชนกันระหว่างคนดังทั้งคู่ คือ นายพอพันธ์ รัตนคช และ นายอภินันท์ เชาวลิต จึงต้องการให้ท่าศาลามีข่าวดังขึ้น และสิ่งที่อยากเป็น คือ อยากเป็นนักการเมืองมาก โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่น
“พวกเขาบอกว่า การเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและมีความยิ่งใหญ่ได้นั้น ให้ไปดูเลยว่ากว่าจะเป็นนักการเมืองได้ ต้องถูกคดีร้ายแรงมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น พวกเขาจึงอยากมีคดีติดตัว เพราะในอนาคตต้องการเป็นนักการเมือง จึงก่อเหตุปล้นดังกล่าว” พ.ต.ท.ประเสริฐ กล่าวและว่า
ส่วนรถจักรยานยนต์นั้น ทั้ง 3 คนสารภาพว่าได้โจรกรรมมาจากใกล้กับที่เกิดเหตุ เนื่องจากรถที่นำมาเพื่อปล้นนั้นน้ำมันหมดขณะหลบหนี ซึ่งเป็นรถของแม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาหนัก คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์ และรับของโจร เนื่องจากรถคันที่หมดน้ำมันนั้นได้นำไปฝากกับเพื่อนอีกคน