xs
xsm
sm
md
lg

สผ.จัดรับฝังความเห็น ปชช.โครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สผ.จัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ

วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ศ.ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการกำหนดประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ซึ่งทางคณะกรรมการกำหนดประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ได้ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้น โดยมีหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง สถาบันศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แกนนำชุมชน องค์กรเอกชน ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เข้าร่วมจำนวนประมาณ 150 คน

สำหรับการจัดรับฟังความเห็นดังกล่าว สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ส่วนที่ 12 เรื่องสิทธิชุมชน มาตรา 67 วรรคสองระบุว่า “การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ จะกระทำมิได้เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน รวมทั้งได้ให้องค์การอิสระซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การด้านเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพ ให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำเนินโครงการดังกล่าว”

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินงาน เรื่องการกำหนดโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ซึ่งจากการที่คณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมร่วมกันได้มติให้จัดรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวขึ้น เพื่อรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานและความคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ

โดยเมื่อปี 2549 ได้มีการศึกษาเพื่อกำหนดโครงการ(กิจการ)ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งองค์การอิสระตามรัฐธรรมนูญต้องให้ความเห็นก่อนมีการดำเนินโครงการ โดยสรุปว่า ประเภทและขนาดโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม มีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 2 มิติ คือ ในเชิงของพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมและมิติความรุนแรงอันเกิดจากโครงการ
 
เบื้องต้นได้สรุปบัญชีรายชื่อประเภทและขนาดโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมฯ จำนวน 12 โครงการ(กิจการ) ได้แก่ โครงการที่อยู่ในพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้เป็นพื้นที่ ดังนี้ คือ พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ อุทยานประวัติศาสตร์หรือแหล่งโบราณคดี, การถมทะเล,

โครงการเหมืองใต้ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการเหมืองแร่, นิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีหรือโครงการที่มีลักษณะเช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี หรืออุตสาหกรรมเหล็กที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี, อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่อยู่นอกนิคมอุตสาหกรรม, โครงการผลิตหรือปรับแต่งสารกัมมันตรังสี, โรงรวบรวมและบำบัดหรือกำจัดกากของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรมและขยะรีไซเคิล, สนามบินรวมการขยายทางวิ่ง,ท่าเทียบเรือ, เขื่อนกักเก็บน้ำ หรืออ่างเก็บน้ำ, โรงไฟฟ้าพลังความร้อน เฉพาะที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ทั้งนี้ ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้ (31 ก.ค) มีการเสนอกิจการเพิ่มเติม ประกอบด้วย เกษตรจีเอ็มโอทุกขนาด การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง โรงแปรรูปยาง/ไม้ยางพารา แต่อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวนั้นจะต้องนำไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง และจะมีการจัดประชุมเพื่อสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นของทุกภูมิภาคในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ที่กรุงเทพมหานคร โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจัดประชุมไปแล้ว ที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่นและชลบุรี โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จและคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ประมาณต้นปี 2552
กำลังโหลดความคิดเห็น