ม็อบปิดถนนต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า ปักหลักตั้งเวทีใหญ่กลางเต็นท์ขวางถนน

ฉะเชิงเทรา - ม็อบต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า ใช้รถเทรลเลอร์ 2 คัน ตั้งเวทีใหญ่ กลางเต็นท์ 5 หลัง ขวางถนน 304 เพื่อปักหลักชุมนุมยืดเยื้อแล้ว พร้อมขู่ให้เวลาอีก 1 ชม. หาก รมว.พลังงาน ยังเดินทางมาไม่ถึง แกนนำจะเคลื่อนกำลังปักหลักขวางถนนถาวรทั้งสองด้าน ขณะตำรวจระดมกำลังทั่วทั้งจังหวัดหลายร้อยนายเตรียมแผนรับมือ

วันนี้ (22 ก.ค.) เวลา 14.30 น.กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าเสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่รวมตัวชุมนุมกันอยู่บนถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี นับพันคนได้นำเต็นท์งานวัด ขนาดใหญ่จำนวน 5 หลัง พร้อมรถยนต์เทรลเลอร์ จำนวน 2 คัน มาสร้างเป็นเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ขวางถนน พร้อมขู่ว่าจะให้เวลาอีก 1 ชม.หาก พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน ยังเดินทางมาไม่ถึง จะปิดถนนทั้ง 2 ด้าน รวมทั้ง 4 ช่องทาง ซึ่งจะส่งผลให้การจราจรบนถนนสาย 304 ถูกปิดเส้นทางลงอย่างถาวร รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์

นายวรรณา รอดพิทักษ์ ส.อบจ.ฉะเชิงเทรา เขต อ.บางคล้า หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านต้องทำการปิดถนนสายหลักในครั้งนี้ ก็เพื่อเรียกร้องให้ พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน เดินทางมาเจรจาด้วยตนเอง เนื่องจากตลอดระยะเวลากว่า 5 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ และได้ออกมาคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ได้มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามาหลายครั้งแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับที่จริงใจจากภาครัฐ และกระทรวงพลังงาน

ที่ผ่านมา มีเพียงการส่งตัวแทน และให้อธิบดีลงมารับหนังสือ และก็ดึงเรื่องให้เงียบหายไป โดยไม่มีความคืบหน้า หรือตอบกลับมาอย่างชัดเจนแต่อย่างใด

ขณะที่ นายธีระ วนิชย์ถนอม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ชาวบ้านผู้ร่วมชุมนุม กล่าวว่า ทราบว่า โรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่กำลังผลิต 1,600 เมกะวัตต์ โดยมีบริษัท สยามเอนเนอร์ยี่ (ในกลุ่มเจนเพาเวอร์ ของญี่ปุ่น) เป็นเจ้าของโครงการ ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ

ครั้งแรกบริษัทดังกล่าวได้แอบเข้ามากว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านไปก่อนหน้าแล้ว จำนวนกว่า 350 ไร่ โดยอ้างว่าจะซื้อไว้เป็นสถานที่เก็บรถยนต์ ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ (โตโยต้า) ที่มีโรงงานผลิตขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ถึง 2 แห่ง โดยมีเป้าหมายใช้พื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด 500 ไร่

ที่ผ่านมา จังหวัดฉะเชิงเทรา ก็มีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมบางปะกง ที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศ ตั้งอยู่แล้ว 1 แห่ง มีกำลังการผลิตสูงถึง 3,674.6 เมกะวัตต์ ซึ่งก็ได้สร้างมลพิษให้กับชาวแปดริ้วมามากพออยู่แล้ว เกี่ยวอุณหภูมิน้ำในแม่น้ำที่เปลี่ยนแปลงสูงขึ้น ผู้เลี้ยงปลากระชังได้รับความเสียหายเดือดร้อนกันมาตลอด

นอกจากนี้ ยังจะมีโครงการผุดโรงไฟฟ้าภาคเอกชน อีกหลากหลายขนาด ที่จะมีโครงการก่อสร้างผุดเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อีกหลายโครงการ จำนวน 4-5 แห่ง ทำให้เราไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นในพื้นที่อีกแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.นนทวัตร วรานนท์ ผกก.สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดูแลรักษาความสงบของการชุมนุม และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กล่าวว่า ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้สั่งระดมเตรียมความพรั่งพร้อม กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุก สภ.ในสังกัด รวมทั้งกองร้อยควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครอง ไว้คอยควบคุมสถานการณ์ไว้แล้ว

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดเตรียมเส้นทางสัญจรสำรองไว้ทั้งสองด้าน หากมีการปิดถนนสายหลักทั้ง 2 ฝั่ง โดยจะให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางฝั่งขาออกใช้เส้นทางสำรอง ที่มีจุดแยกออกจากถนนสาย 304 เข้าที่บริเวณ ต.คลองจุกเฌอ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ผ่าน อ.คลองเขื่อน และมาทะลุออกอีกด้านที่ อ.บางคล้า ย้อนกลับเข้าถนนสาย 304 ซึ่งเลยจากจุดของการชุมนุมปิดถนน เดินทางต่อไปได้

ส่วนด้านขาเข้า จะให้ใช้เส้นทางแยกจากถนนสาย 304 ที่บ้านหนองปลาตะเพียน เข้าสู่ถนนสายแปลงยาว-ดอนสีนนท์ กลับมาเข้าถนนสาย 304 ที่บริเวณสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 ได้ จึงคาดว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อการสัญจรมากนัก แต่ผู้ใช้เส้นทางอาจต้องเสียเวลาขับรถอ้อมออกไปไกลกว่าปกติ