ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เกิดเหตุไฟไหม้ชุมชนแหล่งพระราม ถนนแหล่งพระราม ภายในเขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งถือเป้นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปีของตัวเมืองสงขลา ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 20 คูหา รวมถึงสำนักงานของ “ประพร เอกอุรุ” ส.ส.ปชป.และนายกสมาคมประมงสงขลาได้รับความเสียหายด้วย ด้านนายกเล็กเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุไฟไหม้
ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันนี้ (26 ก.ค.) พ.ต.ท.พอพล วิริยะจิระพิพัฒน์ สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนแหล่งพระราม ถนนแหล่งพระราม ภายในเขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองสงขลา และประสานขอรถดับเพลิงของศูนย์บรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลนครสงขลา จำนวน 4 คัน
โดยพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเรือนที่อยู่บริเวณด้านริมทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นท่าจอดเรือประมงมีบ้านเรือนประชาชนเรียงรายตลอดแนว อย่างรวดเร็วและรุนแรงเป็นบริเนื่องจากมีลมกรรโชกแรง ยากต่อการควบคุมเพลิงและยังคงลุกไหม้ลามออกไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความโกลาหลของชาวบ้านที่หอบข้าวของวิ่งหนีตายออกจากบ้าน
ขณะเดียวกันบริเวณท่าจอดเรือประมงแหล่งพระราม ยังมีเรือประมงจอดเรียงรายเป็นจำนวนมาก เจ้าของเรือต่างรีบนำเรือประมงออกไปลอยลำกลางทะเลก่อนที่เพลิงกำลังจะลุกลามไปติดเรือ และมีเรือบางลำที่เจ้าของเรือไม่อยู่ยังคงจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องคอยฉีดน้ำสกัดเพลิงซึ่งกำลังลุกลามไปติดเรือ ที่สำคัญบริเวณท่าเรือยังมีปั้มน้ำมันขนาดเล็กที่มีถังเก็บน้ำมันอยู่หลายถัง จึงต้องเร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลุกลามไปถึง
ทางด้านนายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลา ซึ่งมาควบคุมการดับเพลิง จึงได้ประสานขอรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลืออีก 10 คัน ทั้งจากเทศบาลนครหาดใหญ่ 2 คัน รถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองสิงหนคร 1 คัน รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลพะวง 1 คัน รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลเขารูปช้าง จำนวน 1 คัน และรถดับเพลิงจากฐานทัพเรือสงขลา จำนวน 1 คัน โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด 20 หลังคาเรือนแต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา ได้นำเครื่องยังชีพเข้าไปทำการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้ พร้อมกับสำรวจสภาพบ้านเรือนของประชาชนที่เสียหายรวมถึงจำนวนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ทั้งหมด เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือโดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุมของเทศบาลนครสงขลาในวันจันทร์นี้
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบสภาพความเสียหายในเบื้องต้นพบว่านอกเหนือจากบ้านเรือนของประชาชนแล้วยังมีโรงกลึง “อ.การช่าง” ซึ่งเครื่องมือและโรงเรือนเสียหายทั้งหมดมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยเป็นของ นายจำรูญ บุญฤทธิ์ อายุ 42 ปี ซึ่งได้เผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าขณะเกิดเหตุไฟลุกไหม้โรงกลึงเสียหายต่อหน้าต่อตาโดยที่ไม่สามารถเข้าไปนำเครื่องมือออกมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว กิจการที่สร้างมาพังพินาศในชั่วข้ามคืนที่สำคัญไม่ได้ทำประกันไว้เอาไว้ โดยหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากส่วนราชการ นอกจากนี้ยังมีสำนักงานของ นายประพร เอกอุรุ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นกิจการทำประมงถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดด้วย
ในขณะที่ พล.ต.ท.ปัญญา เทียนศาสตร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้เดินทางไปตรวจสอบความเสียหายบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเร่งตรวจหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้ง แต่จากข้อมูลในเบื้องต้นไม่ใช่เป็นการลอบวางเพลิง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุชาวบ้านได้ยินเสียงหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด ก่อนที่จะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาและลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้สภาพเก่า อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีรายงานของผู้เสียชีวิต มีเพียงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน