นครศรีธรรมราช - ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลูกพาเพื่อนตั้งวงนั่งดวลเหล้าวันอาสาฬหบูชาเมาแล้วทะเลาะ แม่มาห้ามเพื่อนยิงสนองคุณเสียชีวิต ในเวลาไล่เลี่ยกันเกิดเหตุยิงกันในงานสมโภชเทียนพรรษา ทำให้หนุ่มวัยรุ่นร่อแร่คางานฉลองเทียน
วันนี้ (18 ก.ค.) พ.ต.ต.สุทธิชัย ไชยรัตน์ สวส.เวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันในอู่ซ่อมรถยนต์ “ศักดิ์ช่างยนต์” ตั้งอยู่เลขที่ 19 ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก. พ.ต.ท.ธวัชชัย ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.ป พ.ต.ท.นิรัตน์ เทพเดชา สว.สป.และ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไต้เต๊กตึ้ง กำลังตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ภายในอู่ดังกล่าวพบว่ามีการตั้งวงดื่มเหล้าวงใหญ่ ขวดเหล้าแก้วเหล้า จานกับแกล้มตกกระจายเกลื่อนบริเวณ และพบผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการสาหัสจำนวน 2 คน คนแรก คือ นางสุพัตรา รัตนา อายุ 45 ปี ภรรยาของนายสมศักดิ์ รัตนา เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ราวนมซ้ายทะลุชายโครงซ้าย ความแรงของกระสุนนัดเดียวกันยังเจาะทะลุแขนซ้ายอีกด้วย
ส่วนอีกราย คือ นายอานนท์ โสภิณ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 1 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลานของนางสุพัตรา ซึ่งเป็นเด็กฝึกงานช่างในอู่ซ่อมรถยนต์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกันเข้าที่กลางแผ่นหลังทะลุหน้าท้อง 1 นัด และแขนซ้ายทะลุอีก 1 นัด จึงรีบนำส่ง รพ.มหาราช แต่นางสุพัตรา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายระหว่างทาง ส่วนนายอานนท์ ผู้บาดเจ็บอาการยังอยู่ในขั้นตรีทูต
การจากสอบสวนสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าในช่วงหัวค่ำนายตูม รัตนา อายุ 16 ปี บุตรชายของนางสุพัตรา ผู้ตาย ได้ชวนเพื่อนๆ อายุประมาณ 16-20 ปีรวม 6-7 คนมาดื่มเหล้าที่อู่ซ่อมรถยนต์ที่เกิดเหตุ เพื่อเฉลิมฉลองความโชคดีของตัวเองที่ถูกหวยงวดวันที่ 16 ก.ค. 2551 ได้เงินก้อนใหญ่ และเป็นการฉลองวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา
นายตูม ได้ไปซื้อเหล้ามาเลี้ยงเพื่อนๆ อย่างไม่อั้น จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนายตูม เจ้าภาพและเพื่อนๆ เมามายได้ที่ จนมีการพูดจากระทบกระทั่งกันและลุกลาม จนถึงขั้นชกต่อยกันเอง นางสุพัตรา แม่ของนายตูม จึงออกมาดุด่าเพื่อนๆ ของนายตูม อย่างรุนแรง ที่มากินฟรีแล้วยังอวดเบ่งพาลหาเรื่องทะเลาะกับเจ้าของบ้าน พร้อมกันนี้นางสุพัตรา ได้สั่งห้ามนายตูมคบหากับเพื่อนๆ กลุ่มนี้อีก เพราะถือว่าเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้นิสัยไม่ดีคบไม่ได้
นอกจากนี้ นางสุพัตร ยังได้ตะคอกไล่ส่งวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวออกจากอู่ สร้างความไม่พอใจและโกรธแค้นให้กับเด็กวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเป็นอย่างมาก
“โดยไม่มีใครคาดคิดขณะที่นางสุพัตรายืนอยู่กับนายอานนท์ ผู้บาดเจ็บ วัยรุ่นที่คาดว่าเป็นหัวโจกของกลุ่ม อายุประมาณ 20 ปี ได้ชักอาวุธปืน 9 มม.ออกมาบุกเข้าไปในอู่และรัวกระสุนใส่นางสุพัตราและนายอานนท์ 3 นัด ถูกนางสุพัตราจนเสียชีวิต ส่วนนายอานนท์บาดเจ็บสาหัสดังกล่าว หลังก่อเหตุวัยรุ่นมือปืนพร้อมเพื่อนๆ ร่วมก๊วนได้พากันซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว”
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า นอกจากมือปืนผู้ลั่นไกรัวยิงนางสุพัตราและนายอานนท์แล้ว มีวัยรุ่นอีกคนหนึ่งถือปืนลูกโม่ขนาด .38 หรือขนาด .357 ยืนคุมเชิงอยู่ด้วย ซึ่งในขณะนี้เจ้านี้ทราบชื่อมือปืนและวัยรุ่นร่วมก๊วนนี้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เพื่อขอหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป
อีกรายในเวลาไล่เลี่ยกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดิมได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันในงานสมโภชเทียนพรรษา ที่บ้านหลังวัดนารีประดิษฐ์ ท้องที่หมู่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรีบรุดไปตรวจสอบพบแขกเหรื่อยังอยู่ในงานเป็นจำนวนมาก โดยยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือดกองใหญ่ ส่วนผู้ถูกยิงถูกนำส่ง รพ.มหาราชก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือนายบ่าว อายุ 18 ปีอยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดนยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าที่แผ่นอกรวม 4 แผล อาการโคม่า
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า บ้านเกิดเหตุได้จัดงานเลี้ยงฉลองสมโภชเทียนพรรษาที่จะนำไปถวายวัดนารีประดิษฐ์ ในเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาร่วมกิจกรรม และมีการดื่มเหล้ากันจนเมามาย นายบ่าว ผู้บาดเจ็บเกิดไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านคนหนึ่ง จึงถูกเพื่อนบ้านดังกล่าวชักอาวุธปืนลูกซองออกมากราดยิงใส่นายบ่าว 1 นัด จนล้มคว่ำจมกองเลือดท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของผู้คนที่มาร่วมกิจกรรม
หลังก่อเหตุมือปืนได้วิ่งหลบหนีไป ทางตำรวจทราบชื่อแล้วจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (18 ก.ค.) พ.ต.ต.สุทธิชัย ไชยรัตน์ สวส.เวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันในอู่ซ่อมรถยนต์ “ศักดิ์ช่างยนต์” ตั้งอยู่เลขที่ 19 ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก. พ.ต.ท.ธวัชชัย ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.ป พ.ต.ท.นิรัตน์ เทพเดชา สว.สป.และ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไต้เต๊กตึ้ง กำลังตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ภายในอู่ดังกล่าวพบว่ามีการตั้งวงดื่มเหล้าวงใหญ่ ขวดเหล้าแก้วเหล้า จานกับแกล้มตกกระจายเกลื่อนบริเวณ และพบผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการสาหัสจำนวน 2 คน คนแรก คือ นางสุพัตรา รัตนา อายุ 45 ปี ภรรยาของนายสมศักดิ์ รัตนา เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ราวนมซ้ายทะลุชายโครงซ้าย ความแรงของกระสุนนัดเดียวกันยังเจาะทะลุแขนซ้ายอีกด้วย
ส่วนอีกราย คือ นายอานนท์ โสภิณ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 1 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลานของนางสุพัตรา ซึ่งเป็นเด็กฝึกงานช่างในอู่ซ่อมรถยนต์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกันเข้าที่กลางแผ่นหลังทะลุหน้าท้อง 1 นัด และแขนซ้ายทะลุอีก 1 นัด จึงรีบนำส่ง รพ.มหาราช แต่นางสุพัตรา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายระหว่างทาง ส่วนนายอานนท์ ผู้บาดเจ็บอาการยังอยู่ในขั้นตรีทูต
การจากสอบสวนสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าในช่วงหัวค่ำนายตูม รัตนา อายุ 16 ปี บุตรชายของนางสุพัตรา ผู้ตาย ได้ชวนเพื่อนๆ อายุประมาณ 16-20 ปีรวม 6-7 คนมาดื่มเหล้าที่อู่ซ่อมรถยนต์ที่เกิดเหตุ เพื่อเฉลิมฉลองความโชคดีของตัวเองที่ถูกหวยงวดวันที่ 16 ก.ค. 2551 ได้เงินก้อนใหญ่ และเป็นการฉลองวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา
นายตูม ได้ไปซื้อเหล้ามาเลี้ยงเพื่อนๆ อย่างไม่อั้น จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนายตูม เจ้าภาพและเพื่อนๆ เมามายได้ที่ จนมีการพูดจากระทบกระทั่งกันและลุกลาม จนถึงขั้นชกต่อยกันเอง นางสุพัตรา แม่ของนายตูม จึงออกมาดุด่าเพื่อนๆ ของนายตูม อย่างรุนแรง ที่มากินฟรีแล้วยังอวดเบ่งพาลหาเรื่องทะเลาะกับเจ้าของบ้าน พร้อมกันนี้นางสุพัตรา ได้สั่งห้ามนายตูมคบหากับเพื่อนๆ กลุ่มนี้อีก เพราะถือว่าเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้นิสัยไม่ดีคบไม่ได้
นอกจากนี้ นางสุพัตร ยังได้ตะคอกไล่ส่งวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวออกจากอู่ สร้างความไม่พอใจและโกรธแค้นให้กับเด็กวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเป็นอย่างมาก
“โดยไม่มีใครคาดคิดขณะที่นางสุพัตรายืนอยู่กับนายอานนท์ ผู้บาดเจ็บ วัยรุ่นที่คาดว่าเป็นหัวโจกของกลุ่ม อายุประมาณ 20 ปี ได้ชักอาวุธปืน 9 มม.ออกมาบุกเข้าไปในอู่และรัวกระสุนใส่นางสุพัตราและนายอานนท์ 3 นัด ถูกนางสุพัตราจนเสียชีวิต ส่วนนายอานนท์บาดเจ็บสาหัสดังกล่าว หลังก่อเหตุวัยรุ่นมือปืนพร้อมเพื่อนๆ ร่วมก๊วนได้พากันซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว”
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า นอกจากมือปืนผู้ลั่นไกรัวยิงนางสุพัตราและนายอานนท์แล้ว มีวัยรุ่นอีกคนหนึ่งถือปืนลูกโม่ขนาด .38 หรือขนาด .357 ยืนคุมเชิงอยู่ด้วย ซึ่งในขณะนี้เจ้านี้ทราบชื่อมือปืนและวัยรุ่นร่วมก๊วนนี้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เพื่อขอหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป
อีกรายในเวลาไล่เลี่ยกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดิมได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันในงานสมโภชเทียนพรรษา ที่บ้านหลังวัดนารีประดิษฐ์ ท้องที่หมู่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรีบรุดไปตรวจสอบพบแขกเหรื่อยังอยู่ในงานเป็นจำนวนมาก โดยยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือดกองใหญ่ ส่วนผู้ถูกยิงถูกนำส่ง รพ.มหาราชก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือนายบ่าว อายุ 18 ปีอยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดนยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าที่แผ่นอกรวม 4 แผล อาการโคม่า
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า บ้านเกิดเหตุได้จัดงานเลี้ยงฉลองสมโภชเทียนพรรษาที่จะนำไปถวายวัดนารีประดิษฐ์ ในเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาร่วมกิจกรรม และมีการดื่มเหล้ากันจนเมามาย นายบ่าว ผู้บาดเจ็บเกิดไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านคนหนึ่ง จึงถูกเพื่อนบ้านดังกล่าวชักอาวุธปืนลูกซองออกมากราดยิงใส่นายบ่าว 1 นัด จนล้มคว่ำจมกองเลือดท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของผู้คนที่มาร่วมกิจกรรม
หลังก่อเหตุมือปืนได้วิ่งหลบหนีไป ทางตำรวจทราบชื่อแล้วจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
