กระบี่ - ประธานกรรมการอิสลามกระบี่พร้อมด้วยผู้ประกอบการภาคเอกชน เดินทางเข้าให้กำลังผู้ว่าฯกระบี่ หลังเกิดเหตุการณ์พันธมิตรขับไล่ มท.1
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายแอ กิ่งเล็ก ประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ นายอมฤต ศิริพรตุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และ นายวิชัย ลิ้มวัฒนากูล รองนายก อบจ.กระบี่ ได้เดินทางไปมอบช่อดอกไม้ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ภายหลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯจังหวัดกระบี่ ประท้วงขับไล่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมี นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นตัวแทนรับมอบ
นายแอ กิ่งเล็ก ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้นำศาสนาอิสลามจังหวัดกระบี่ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในระหว่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดกระบี่ แต่ต้องยกเลิกกำหนดการไป เนื่องจากถูกกลุ่มพันธมิตรฯขับไล่ ซึ่งตนมองว่า ท่านผู้ว่าฯได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด และไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว จึงขอเป็นกำลังใจให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มีกำลังใจในการทำงานต่อไป
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนภาคเอกชน ซึ่งได้ติดตามเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมประท้วงมาโดยตลอด ซึ่งท่านผู้ว่าฯก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้ ทั้งการชุมนุมก็เป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถกระทำได้ตามกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ควรที่จะให้มีการขว้างปาสิ่งของ หรือใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด ที่จะทำให้จังหวัดกระบี่เสียโอกาส ที่จะได้นำเสนอปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
ด้าน นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ซึ่งไม่สามารถมารถรับช่อดอกไม้ด้วยตนเองได้ เพราะต้องเดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ ต้องขอขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ เป็นอย่างยิ่ง และว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็อยู่ด้วย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างถุงนำแข็งใส่ผู้ว่าฯรวมทั้งตนด้วย ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ควรที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดกระบี่ ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจ มท.1 ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายแอ กิ่งเล็ก ประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ นายอมฤต ศิริพรตุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และ นายวิชัย ลิ้มวัฒนากูล รองนายก อบจ.กระบี่ ได้เดินทางไปมอบช่อดอกไม้ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ภายหลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯจังหวัดกระบี่ ประท้วงขับไล่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมี นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นตัวแทนรับมอบ
นายแอ กิ่งเล็ก ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้นำศาสนาอิสลามจังหวัดกระบี่ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในระหว่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดกระบี่ แต่ต้องยกเลิกกำหนดการไป เนื่องจากถูกกลุ่มพันธมิตรฯขับไล่ ซึ่งตนมองว่า ท่านผู้ว่าฯได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด และไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว จึงขอเป็นกำลังใจให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มีกำลังใจในการทำงานต่อไป
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนภาคเอกชน ซึ่งได้ติดตามเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมประท้วงมาโดยตลอด ซึ่งท่านผู้ว่าฯก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้ ทั้งการชุมนุมก็เป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถกระทำได้ตามกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ควรที่จะให้มีการขว้างปาสิ่งของ หรือใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด ที่จะทำให้จังหวัดกระบี่เสียโอกาส ที่จะได้นำเสนอปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
ด้าน นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ซึ่งไม่สามารถมารถรับช่อดอกไม้ด้วยตนเองได้ เพราะต้องเดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ ต้องขอขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ เป็นอย่างยิ่ง และว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็อยู่ด้วย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างถุงนำแข็งใส่ผู้ว่าฯรวมทั้งตนด้วย ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ควรที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดกระบี่ ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจ มท.1 ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรง
