สุราษฎร์ธานี -สสจ.สุราษฎร์ฯ เผย ยอดผู้ติดเชื้อโรคไข้เลือดออกแล้วกว่า 300 ราย พื้นที่ระบาดหนักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น อายุระหว่าง 15-24 ปี พร้อมส่งกำลัง จนท.เร่งแก้ไขปัญหา
นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี (สสจ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2551 ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยแล้วจำนวนทั้งสิ้น 311 ราย
อำเภอที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอเกาะสมุย อำเภอวิภาวดี อำเภอพนม อำเภอเมือง และอำเภอเกาะพะงัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กโตและวัยรุ่น อายุระหว่าง 15-24 ปี
นายแพทย์ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ในระยะนี้มีฝนตกเป็นประจำในพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยเอื้อต่อการระบาดของโรคไข้เลือดออก เพราะมีน้ำที่ขังอยู่ในภาชนะรอบๆ บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากมีผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกในพื้นที่ โอกาสการแพร่เชื้อไปอย่างรวดเร็วมาก
สาธารณสุขจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ลงไปพื้นที่ที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ได้จัดให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูแล ติดตาม แนะนำในพื้นที่ที่ระบาด เพื่อหาแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการ 4 ป สำหรับการควบคุมไข้เลือดออก คือ “ปิด” ฝาภาชนะโอ่งน้ำต่างๆ ป้องกันยุงลายวางไข่ “เปลี่ยน” น้ำคว่ำน้ำในภาชนะเป็นประจำเพื่อตัดวงจรของยุงลาย “ปล่อย” ปลาชนิดต่างๆ ในอ่างน้ำ แหล่งน้ำให้ไปกินลูกน้ำ และ “ปรับปรุง” น้ำในภาชนะแหล่งน้ำ ไม่ให้ยุงสามารถวางไข่ได้โดยการใส่ทรายอะเบทลงในภาชนะกักเก็บน้ำ
ทั้งนี้ หากพบมีผู้ป่วยในบ้านเป็นไข้ติดต่อกันเกิน 3 วัน ซึ่งหากรับประทานยาลดไข้ยังไม่ทุเลาให้รีบไปสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อไข้เลือดออก และไม่ควรรับประทานยาลดไข้จำพวกแอสไพริน ยาลดไข้ คลายปวดกล้ามเนื้อ เพราะจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี (สสจ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2551 ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยแล้วจำนวนทั้งสิ้น 311 ราย
อำเภอที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอเกาะสมุย อำเภอวิภาวดี อำเภอพนม อำเภอเมือง และอำเภอเกาะพะงัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กโตและวัยรุ่น อายุระหว่าง 15-24 ปี
นายแพทย์ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ในระยะนี้มีฝนตกเป็นประจำในพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยเอื้อต่อการระบาดของโรคไข้เลือดออก เพราะมีน้ำที่ขังอยู่ในภาชนะรอบๆ บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากมีผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกในพื้นที่ โอกาสการแพร่เชื้อไปอย่างรวดเร็วมาก
สาธารณสุขจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ลงไปพื้นที่ที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ได้จัดให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูแล ติดตาม แนะนำในพื้นที่ที่ระบาด เพื่อหาแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการ 4 ป สำหรับการควบคุมไข้เลือดออก คือ “ปิด” ฝาภาชนะโอ่งน้ำต่างๆ ป้องกันยุงลายวางไข่ “เปลี่ยน” น้ำคว่ำน้ำในภาชนะเป็นประจำเพื่อตัดวงจรของยุงลาย “ปล่อย” ปลาชนิดต่างๆ ในอ่างน้ำ แหล่งน้ำให้ไปกินลูกน้ำ และ “ปรับปรุง” น้ำในภาชนะแหล่งน้ำ ไม่ให้ยุงสามารถวางไข่ได้โดยการใส่ทรายอะเบทลงในภาชนะกักเก็บน้ำ
ทั้งนี้ หากพบมีผู้ป่วยในบ้านเป็นไข้ติดต่อกันเกิน 3 วัน ซึ่งหากรับประทานยาลดไข้ยังไม่ทุเลาให้รีบไปสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อไข้เลือดออก และไม่ควรรับประทานยาลดไข้จำพวกแอสไพริน ยาลดไข้ คลายปวดกล้ามเนื้อ เพราะจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
