ปชป.ส่ง ส.ส.หญิงลงระนองช่วยไทยพลัดถิ่นได้สัญชาติไทย

ระนอง - ปชป.ส่ง ส.ส.หญิง ลงพื้นที่ระนอง เพื่อหาทางช่วยเหลือคนไทยพลัดถิ่น ในการให้ได้รับสัญชาติไทย

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หญิง พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 10 คน นำโดย แพทย์หญิง มาลินี สุขเวชชวรกิจ และ นางนิภา พริ้งศุลกะ พร้อมด้วยนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง ได้หารือกับ นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายสุทิน แก่นแก้ว ผู้นำเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่น จ.ระนอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น เพื่อให้ได้รับสัญชาติไทย

แพทย์หญิง มาลินี กล่าวว่า ตัวแทนเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่นจังหวัดระนอง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าร้องเรียนต่อพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องของสัญชาติแก่คนไทยพลัดถิ่น ทางพรรคจึงมอบหมายให้กลุ่ม ส.ส.หญิงของพรรคเข้ามาดูแลเพื่อจะได้นำข้อมูลไปช่วยเหลือทางด้านนิติบัญญัติและอื่นๆ ตามอำนาจหน้าที่ของ ส.ส.โดยจะลงพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกันด้วย

นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบและพิสูจน์สถานะทางบุคคลเพื่อให้คนไทยพลัดถิ่นได้รับสัญชาติไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม บางกลุ่มได้รับบัตรประจำตัว 13 หลักที่ขึ้นต้นด้วยเลข 0 บางกลุ่มขึ้นต้นด้วยเลข 6 บางกลุ่มไม่มีบัตรใดๆ และรวมถึงกลุ่มชาวมอแกนด้วย ซึ่งบางส่วนก็ได้รับการแปลงสัญชาติไทยเรียบร้อยแล้ว

แต่หลังจากที่พระราชบัญญัติสัญชาติ (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ 4 พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ทางจังหวัดกำลังศึกษาแนวทางการให้สัญชาติไทยแก่คนไทยพลัดถิ่นในกลุ่มต่างๆ ทั้งด้วยวิธีการแปลงสัญชาติและวิธีให้สัญชาติโดยหลักดินแดน แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการออกกฎกระทรวงของกระทรวงมหาดไทยเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 180 วันนับจากวันที่มีผลบังคับใช้

นายสุทิน แก่นแก้ว ผู้นำเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่นจังหวัดระนอง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้ต่อสู้แนวทางการขอคืนสัญชาติไทย เพราะพวกตนยืนยันมาตลอดว่าเป็นคนไทย ไม่ได้เป็นคนไทยพลัดถิ่น หากให้สัญชาติไทยพวกตนโดยการแปลงสัญชาติ ก็เท่ากับว่า พวกตนยอมรับว่าตนเองเป็นคนไทยพลัดถิ่น ซึ่งหลังการแปลงสัญชาติแล้วสิทธิต่างๆ ก็ไม่เหมือนคนไทย ในอนาคตจะลงเล่นการเมืองในทุกระดับก็ไม่ได้ แต่เมื่อ พ.ร.บ.สัญชาติฉบับใหม่ไม่มีมาตราใดที่มีเนื้อหาในการขอคืนสัญชาติได้ แต่อาจจะนำมาตรา 23 ซึ่งให้สัญชาติโดยหลักดินแดนได้