นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ..... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณษแล้วตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยจะส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) เสนอสภาผู้แทนราษฏร พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอต้องการให้จัดทำบัตรแบบอเนกประสงค์ หรือ สมาร์ทการ์ด เพื่อเป็นบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อทราบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ที่ถูกต้องครบถ้วน โดยสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีดังนี้ คือ
1. กำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยทุกคนต้องมีบัตร และแก้ไขระยะเวลาการขอมีบัตร อายุบัตร และเงื่อนไขในการขยายเวลาการมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตร 2.กำหนดตัวบุคคลที่มีหน้าที่ยื่นคำขอมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตรให้ผู้มีอายุไม่ถึง 15 ปี และกำหนดความผิดของบุคคลที่ไม่มีหน้าที่จนพ้นกำหนดระยะเวลายื่นคำขอ 3.แก้ไขรายการในบัตร และกำหนดให้บัตรอาจมีหน่วยความจำเพื่อบันทึกข้อมูลของผู้ถือบัตรและเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูล
4.กำหนดเงื่อนไขในการขอตรวจหลักฐาน รายการหรือข้อมูลเกี่ยวกับบัตรของผู้มีส่วนได้เสีย 5.กำหนดโทษสำหรับกรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่บันทึกในหน่วยความจำ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือมิใช่เปิดเผย แก่ผู้มีส่วนได้เสีย หรือตามคำสั่งศาล หรือเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ และ 6. ปรับปรุงบทกำหนดโทษกรณีผู้ถือบัตร ซึ่งเสียสัญชาติไทยที่ไม่มอบส่งบัตร หรือใช้แสดงบัตรซึ่งหมดสิทธิใช้และกรณีแจ้งข้อความ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการขอมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตร หรือปลอมบัตร หรือใบรับและกำหนดความผิดสำหรับผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ยื่นคำขอมีบัตรโดยแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริง รวมทั้งกำหนดความผิดสำหรับผู้ถือบัตรซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15 ปี ที่ไม่สามารถแสดงบัตร หรือใบรับเมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรขอตรวจ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตามร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีความแตกต่างจากเดิมคือ ผู้มีสัญชาติไทยจะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่เกิด เว้นแต่กรณีพระบรมวงศานุวงศ์ ประเด็นที่2 คือผู้มีสัญชาติไทยตั้งแต่เกิด หรือเด็กแรกเกิดจะต้องขอยื่นทำบัตรตั้งแต่แรกเกิดภายในระยะ 1 ปีแรก ขณะเดียวกันผู้ปกครอง หรือ ผู้ซึ่งดูแลบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ยื่นคำขอมีบัตร โดยกำหนดให้มีการตัดเรื่อง นิกาย ศาสนา และลัทธินิยมในทางศาสนาออก เพราะ ความเชื่อในทางศาสนาเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล และเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล ซึ่งหากระบุอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อผู้ถือบัตรในเรื่องศาสนาเป็นข้ออ้างได้
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตี ได้เปิดอภิปรายพอสมควร คำถามที่ถามกันเยอะคือมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องให้ผู้ยื่นคำขอมีบัตรประชาชนตั้งแต่แรกเกิด ได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยว่า เหตุผลสำคัญเพราะ เป็นข้อมูลเพศ วัยของทั้งประเทศอย่างชัดเจน ตามข้อมูลปัจุบัน ข้อมูลเด็กแรกเกิดมีข้อมูล คลาดเคลื่อน เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีข้อมูลไม่เหมือนกัน จึงเสนอเพื่อให้เกิดความชัดเจน และอธิบายอีกว่า หากเห็นชอบตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวจะทราบข้อมูลเด็กแรกเกิดถึง 13 ล้านคน
ทั้งนี้ นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังยังเสนอ ให้มีการ ใส่ข้อมูลด้านสาธารณะสุข โอกาสรับบริการด้านการศึกษาจากรัฐด้วย และอธิบายถึง วิธีการคือ ปั๊มหัวแม่มือของเด็กทั้ง 2 ข้าง และเมื่อรับบัตรให้ปั๊มนิ้วชี้ของเด็ก ส่วนอาย การถือบัตรเดิมมีอายุถือบัตรคราวละ 6 ปี ร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้ถือได้คราวละ 10 ปี
นายณัฐวุฒิ ยังอ้างคำพูดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ได้ซักถาม ในที่ประชุมว่า คนที่มีอายุ 70 ปี ไปแล้วจะต่ออายุบัตรได้หรือไม่ โดยผู้ชี้แจงตอบว่า สำหรับผู้ที่มีอายุ 70 ปี จะระบุวันหมดอายุว่า ใช้ได้ตลอดชีพ
นอกจากนี้มีหลายคนถามข้อมูลถึงประเทศต่างๆ ที่มีกรณีเดียวกันนี้ ได้รับการชี้แจงว่า สาธารณะรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศที่ประชากรมีบัตรประชาชนตั้งแต่แรกเกิด มีผู้ให้ความเห็นจำนวนมากในกรณีนี้
ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอต้องการให้จัดทำบัตรแบบอเนกประสงค์ หรือ สมาร์ทการ์ด เพื่อเป็นบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อทราบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ที่ถูกต้องครบถ้วน โดยสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีดังนี้ คือ
1. กำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยทุกคนต้องมีบัตร และแก้ไขระยะเวลาการขอมีบัตร อายุบัตร และเงื่อนไขในการขยายเวลาการมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตร 2.กำหนดตัวบุคคลที่มีหน้าที่ยื่นคำขอมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตรให้ผู้มีอายุไม่ถึง 15 ปี และกำหนดความผิดของบุคคลที่ไม่มีหน้าที่จนพ้นกำหนดระยะเวลายื่นคำขอ 3.แก้ไขรายการในบัตร และกำหนดให้บัตรอาจมีหน่วยความจำเพื่อบันทึกข้อมูลของผู้ถือบัตรและเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูล
4.กำหนดเงื่อนไขในการขอตรวจหลักฐาน รายการหรือข้อมูลเกี่ยวกับบัตรของผู้มีส่วนได้เสีย 5.กำหนดโทษสำหรับกรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่บันทึกในหน่วยความจำ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือมิใช่เปิดเผย แก่ผู้มีส่วนได้เสีย หรือตามคำสั่งศาล หรือเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ และ 6. ปรับปรุงบทกำหนดโทษกรณีผู้ถือบัตร ซึ่งเสียสัญชาติไทยที่ไม่มอบส่งบัตร หรือใช้แสดงบัตรซึ่งหมดสิทธิใช้และกรณีแจ้งข้อความ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการขอมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตร หรือปลอมบัตร หรือใบรับและกำหนดความผิดสำหรับผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ยื่นคำขอมีบัตรโดยแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริง รวมทั้งกำหนดความผิดสำหรับผู้ถือบัตรซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15 ปี ที่ไม่สามารถแสดงบัตร หรือใบรับเมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรขอตรวจ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตามร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีความแตกต่างจากเดิมคือ ผู้มีสัญชาติไทยจะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่เกิด เว้นแต่กรณีพระบรมวงศานุวงศ์ ประเด็นที่2 คือผู้มีสัญชาติไทยตั้งแต่เกิด หรือเด็กแรกเกิดจะต้องขอยื่นทำบัตรตั้งแต่แรกเกิดภายในระยะ 1 ปีแรก ขณะเดียวกันผู้ปกครอง หรือ ผู้ซึ่งดูแลบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ยื่นคำขอมีบัตร โดยกำหนดให้มีการตัดเรื่อง นิกาย ศาสนา และลัทธินิยมในทางศาสนาออก เพราะ ความเชื่อในทางศาสนาเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล และเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล ซึ่งหากระบุอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อผู้ถือบัตรในเรื่องศาสนาเป็นข้ออ้างได้
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตี ได้เปิดอภิปรายพอสมควร คำถามที่ถามกันเยอะคือมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องให้ผู้ยื่นคำขอมีบัตรประชาชนตั้งแต่แรกเกิด ได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยว่า เหตุผลสำคัญเพราะ เป็นข้อมูลเพศ วัยของทั้งประเทศอย่างชัดเจน ตามข้อมูลปัจุบัน ข้อมูลเด็กแรกเกิดมีข้อมูล คลาดเคลื่อน เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีข้อมูลไม่เหมือนกัน จึงเสนอเพื่อให้เกิดความชัดเจน และอธิบายอีกว่า หากเห็นชอบตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวจะทราบข้อมูลเด็กแรกเกิดถึง 13 ล้านคน
ทั้งนี้ นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังยังเสนอ ให้มีการ ใส่ข้อมูลด้านสาธารณะสุข โอกาสรับบริการด้านการศึกษาจากรัฐด้วย และอธิบายถึง วิธีการคือ ปั๊มหัวแม่มือของเด็กทั้ง 2 ข้าง และเมื่อรับบัตรให้ปั๊มนิ้วชี้ของเด็ก ส่วนอาย การถือบัตรเดิมมีอายุถือบัตรคราวละ 6 ปี ร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้ถือได้คราวละ 10 ปี
นายณัฐวุฒิ ยังอ้างคำพูดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ได้ซักถาม ในที่ประชุมว่า คนที่มีอายุ 70 ปี ไปแล้วจะต่ออายุบัตรได้หรือไม่ โดยผู้ชี้แจงตอบว่า สำหรับผู้ที่มีอายุ 70 ปี จะระบุวันหมดอายุว่า ใช้ได้ตลอดชีพ
นอกจากนี้มีหลายคนถามข้อมูลถึงประเทศต่างๆ ที่มีกรณีเดียวกันนี้ ได้รับการชี้แจงว่า สาธารณะรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศที่ประชากรมีบัตรประชาชนตั้งแต่แรกเกิด มีผู้ให้ความเห็นจำนวนมากในกรณีนี้