โวย! นายทุนใช้ยาเมาทำสัตว์น้ำทะเลชุมพรตายเกลื่อน

ชุมพร-ชาวบ้านท่ายาง ชมพร โวยนายทุนหว่านโรยยาเบื่อเมา และปูนขาวจับ “หอยราก” พบซากสัตว์น้ำตายเกลื่อนหาด หวั่นสูญพันธุ์ กระทบวิถีชีวิตชุมชน วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งหามาตรการป้องกันด่วน

นายมณี แป้งอ่อน ประธานชุมชุนบ้านบางเจริญ ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมด้วย นายเดชา กรยืนยง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่ายาง นายปรีชา สุวรรณภพ ผู้นำชุมชนหมู่ 2 ต.ท่ายาง พร้อมแกนนำชุมชนอีกจำนวนหนึ่ง ออกไปตรวจสอบพื้นที่ “ดอนหอยราก” บริเวณอ่าวบ้านบางเจริญ หมู่ 2 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีกลุ่มพ่อค้าต่างถิ่นได้นำแรงงานทั้งชาวไทย และชาวพม่า เข้าไปจับสัตว์น้ำโดยใช้ยาเบื่อเมา และปูนขาวหว่านโรยลงบนป่า เพื่อจับหอยบริเวณดังกล่าว ส่งผลกระทบทำให้มีสัตว์น้ำอื่นๆ ตายเป็นจำนวนมาก

บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าเลนที่อุดมสมบูรณ์มีต้นโกงกางขึ้นเขียวขจีไปทั่ว อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ริมชายหาดบริเวณอ่าวดังกล่าวเป็นดอนเลนกว้างใหญ่ เนื้อที่กว่า 5 พันไร่ ครอบคลุม 2 ตำบล ได้แก่ ต.ท่ายาง และ ต.ทุ่งคา อ.เมืองชุมพร ซึ่งมีชาวบ้านออกมาเก็บหอย และจับสัตว์น้ำชนิดต่างๆ นำไปขายเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวเป็นประจำ จากการตรวจสอบพบมีซากเปลือกหอยนานาชนิด ตายอยู่เกลื่อนหาดชายเลนดังกล่าวจำนวนมาก

นายสำนวน คงคานิจ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 2 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนมีอาชีพหาหอย และจับสัตว์น้ำบริเวณดังกล่าวมานานกว่า 20 ปี ที่ผ่านมาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำหลากหลายชนิด โดยเฉพาะ หอยราก หอยขาว และหอยหลอด จะมีมากที่สุด เมื่อก่อนตนออกมาขุดหาหอยรากในป่าดินเลนดังกล่าวจะได้ประมาณวันละ 30-50 กก. แต่ระยะหลังเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา หาหอยรากได้เพียงวันละ 2-3 กก.เท่านั้น

สาเหตุที่ทำให้จับหอยได้น้อย เนื่องจากปัจจุบันหอยรากมีราคาแพงถึง กก.ละ 30-35 บาท ทำให้มีนายทุนจากต่างถิ่น ได้นำแรงงานทั้งชาวไทย และชาวพม่า เข้ามาจับหอยรากโดยใช้วิธีนำยาเบื่อเมา และปูนขาวซึ่งมีความเป็นกรดสูง ไปหยอดในรูหอยที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเลน และหว่านโรยไปทั่วบริเวณ เพื่อให้หอยหนีขึ้นมาจากใต้ดินเลนแล้วจับขายให้นายทุนที่รอรับซื้อ ทำให้หอยทุกชนิด สัตว์น้ำอื่นๆ ได้รับผลกระทบและตายเป็นจำนวนมาก

ด้าน นายปรีชา สุวรรณภพ อายุ 46 ปี ผู้นำชุมชนบ้านบ้านบางเจริญ หมู่ 2 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ระบบนิเวศน์บริเวณอ่าวชายเลนบ้านบางเจริญเปลี่ยนไปจากเดิมมาก การประกอบอาชีพจับสัตว์น้ำก็ลดน้อยลง เพราะกลุ่มนายทุนจาก จ.สมุทรสาคร นำแรงงานจากต่างถิ่นโดยใช้ยาเบื่อเมา และปูนขาวหว่านโรย

ทั้งนี้ เพื่อจับหอยรากไปจำหน่าย เพราะมีราคาแพง เป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภค และร้านอาหาร ทั้งนี้ยาเบื่อเมา และปูนขาว ส่งผลให้หอยทุกชนิดไม่สามารถฝังตัวอยู่ใต้ดินเลนได้ จึงต้องกระเสือกกระสนขึ้นมาตายเป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันพื้นที่อ่าวบ้านบางเจริญกลายเป็นสุสานซากเปลือกหอยไปแล้ว พฤติกรรมของนายทุนต่างถิ่นกลุ่มนี้ จะออกตระเวนสำรวจพื้นที่ตามป่าชายเลน เพื่อหาแหล่งหอยรากในพื้นที่ต่าง ๆ ของ จ.ชุมพร จากนั้นก็จะใช้วิธีหว่านโรยยาเบื่อเมา หรือปูนขาวดังกล่าวเพื่อจับหอยราก สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนพื้นที่ไปมาเรื่อย ๆ

“จากปัญหาดังกล่าวได้มีการแจ้งและร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ชุมพร หลายหน่วยงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อ.เมืองชุมพร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร และประมงจังหวัด แต่เรื่องก็เงียบหายไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้สัตว์น้ำบริเวณดังกล่าวใกล้สูญพันธุ์ และส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างมากขณะนี้” นายปรีชากล่าว