สุราษฎร์ธานี - กรมส่งออกระบุผลไม้ไทยฤดูกาลนี้ราคาดีไม่ตก แต่ยังน่าห่วงปัญหาราคาน้ำมันส่งผลกระทบต้นทุนการผลิต เร่งหาทางช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรเป็นการด่วน
นายจักรชินบุษณ์ ชื่นอารมณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการส่งออก ภาคใต้ (สุราษฎร์ธานี) จัดโครงการฝึกอบรมให้ความรู้การส่งออกมังคุด เงาะ ทุเรียนไปยังตลาดต่างประเทศ แก่สมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกเงาะ มังคุด ทุเรียน พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ประกอบด้วย ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช จำนวน 200 คน เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้เรื่องมังคุด เงาะ ทุเรียน ในการจัดทำผลผลิตทั้ง สด แห้ง และแปรรูป เพื่อการส่งออกโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะได้ราคาผลผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงมาตรฐานการคัดผลไม้ เพื่อส่งออก เสนอราคาไปยังยังพ่อค้าต่างประเทศ ขั้นตอนการส่งออก และเอกสารต่างๆ
ร้อยเอกสุวิพันธุ์ ดัษยมณฑล ผู้อำนวยการอาวุโส สถาบันฝึกอบรมการค้าต่างระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ฤดูการนี้จะมีผลไม้ออกสู่ตลาดจำนวนมาก แยกเป็น ทุเรียน 75,728 ตัน มังคุด 7,200 ตัน เงาะโรงเรียน 20,000 ตัน
ขณะนี้มีกลุ่มผู้ซื้อ 25 บริษัทจาก 12 ประเทศ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย กัมพูชา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และกลุ่มห้างค้าปลีกรายใหญ่อีก 7 บริษัท จะทำการตกลงซื้อผลผลิตผลไม้ไทย เงาะ มังคุด ทุเรียน รวมประมาณ 142,728 ตัน มูลค่ากว่า 3,459.9 ล้านบาท
คาดว่า ราคามังคุดจะสูงถึงกิโลกรัมละ 29 บาท เงาะโรงเรียนกิโลกรัมละ 16 บาท 50 สตางค์ และทุเรียนกิโลกรัมละ 23บาทขึ้นไป แต่ยอมรับว่า ราคาน้ำมันที่ขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกรมาก กรมส่งออกเร่งให้ความรู้การลดต้นทุนของเกษตรกร เพื่อช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน