ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสาขาภูเก็ต ปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีทะลุ 100 ล้านบาทครึ่งปีแรก คาดสิ้นปียอดสินเชื่ออยู่ที่ 150 ล้านบาท เป้า 120 ล้านบาทจากความต้องการสินเชื่อภาคการท่องเที่ยวและอื่นๆ มีสูง รวมทั้งธนาคารปรับเปลี่ยนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้ระดับเขตมีอำนาจอนุมัติได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท ทำให้ลูกค้าสะดวกและรวดเร็วๆ
นายขรรค์ชัย รัตนญาติ ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สาขาภูเก็ต หรือธนาคารเอสเอ็มอี เปิดเผยถึงการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเอสเอ็มอีให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ในจังหวัดภูเก็ตว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ทางธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 15 ราย วงเงินประมาณ 88 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการภาคบริการด้านการท่องเที่ยว อพาร์ทเมนท์ ห้องพัก ห้องเช่า และรงแรมเล็กๆ เป็นต้น
โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 120 ล้านบาท ซึ่งคิดว่าตลอดทั้งปี 2551 นี้ ยอดสินเชื่อที่จะปล่อยให้กับผู้ประกอบการไม่น่าจะต่ำกว่า 150 ล้านบาท จากที่ขณะนี้สามารถปล่อยได้แล้ว 70% ของเป้าหมาย และมีวงเงินที่กำลังรอการอนุมัติอยู่อีกเกือบ 80 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีแรกปีนี้ยอดสินเชื่อจะอยู่ที่ 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการสินเชื่อของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภูเก็ตมีสูง ประกอบกับขณะนี้ทางธนาคารได้มอบอำนาจในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาทให้เป็นหน้าที่ของกรรมการระดับเขต โดยสามารถอนุมัติได้ภายใน 45 วัน จากเดิมที่ส่วนกลางจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน ทำให้ผู้รับบริการสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนกรณีวงเงินเกิน 5ล้านบาทขึ้นจะต้องส่งให้ทางสาขาใหญ่เป็นผู้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
นายขรรค์ชัย กล่าวอีกว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารฯจะเน้นปล่อยให้กับผู้ประกอบการที่เป็นเอสเอ็มอีจริงๆ เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่นั้นจะมีธนาคารพาณิชย์ให้บริการสินเชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารฯจะเป็นรายเล็กๆ ที่วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท และหลังจากนี้ทางธนาคารฯจะกลุ่มผู้ประกอบการให้กว้างขึ้น จากเดิมที่จะเน้นหลักในธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเกือบทั้งหมด ที่เป็นทั้งโรงแรมขนาดเล็ก อพาร์ทเม้นท์ ห้องเช่า ไปยังธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจขนส่ง และค้าปลีกค้าส่ง เพราะธุกริจเหล่านี้ก็เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวทั้งสิ้น
