ศูนย์ข่าวภูเก็ต -อสังหาฯภูเก็ตโตฉุดไม่อยู่ ล่าสุดทุนท้องถิ่นเปิด 2 โครงการใหญ่รับลูกค้าระดับสูง กว่า 4,000 ล้านบาท ขณะที่นายกสมาคมธุรกิจอสังหาฯภูเก็ตหวั่นนักลงทุนแห่ผุดบ้านจัดสรรกว่า 100 โครงการมูลค่าหลายพันล้านบาทปีนี้อาจเกิดภาวะโอเวอร์ซัปพลาย แนะต้องลงทุนโครงการที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มจะไปได้ดี
นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตตลอดปี 2551 ว่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะมีปัจจัยภายนอกที่เป็นด้านลบ ทั้งในเรื่องของราคาน้ำมันที่ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังมีปัญหาอยู่ ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ปัจจัยลบเหล่านี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตมากนัก ยังคงมีนักลงทุนทั้งคนท้องถิ่นภูเก็ต นักลงทุนจากส่วนกลาง รวมถึงนักลงทุนจากต่างชาติยังทยอยเข้ามาลงทุนเปิดโครงการอสังหาฯในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง
“เราสังเกตได้จากในการประชุมคณะกรรมการจัดสรรจังหวัดภูเก็ต แต่ละเดือนจะมีโครงการที่เข้าสู่การพิจารณาไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ และผู้ประกอบการเองก็เริ่มบ่นแล้วเหมือนกันว่า การพิจารณาค่อนข้างที่จะล่าช้า เนื่องจากมีโครงการที่รอการพิจารณาจำนวนมาก” นายธนันท์ กล่าวและว่า
ในปี 2551 คิดว่าจะมีโครงการที่ขออนุญาตจัดสรรไม่ต่ำกว่า 100 โครงการ มูลค่า 200-300 ล้านบาทขึ้นไป ทำให้มูลค่าการลงทุนในปีนี้หลายพันล้านบาท ซึ่งมีทั้งโครงการขนาดเล็กไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ บางโครงการขึ้นเป็นพันๆยูนิตก็มี เช่น โครงการ บ้านและคอนโดมิเนียมของทางกลุ่มพนาสนธิ์ ที่กำลังจะขึ้นอีก 2 โครงการ ที่บิรเวณสามกอง และที่ข้างห้างแม็คโครทั้ง 2 โครงการมีเป็นพันๆยูนิต และได้เปิดการขายไปแล้ว 3-4 เดือน และโครงการอื่นๆ อีกจำนวนมาก
นายธนันท์ กล่าวอีกว่า จากที่มีโครงการอสังหาฯในภูเก็ตเกิดขึ้นจำนวนมาก สมาคมธุรกิจอสังหาฯภูเก็ตเป็นห่วงมากว่าจะเกิดภาวะโอเวอร์ซัปพลายหากมีโครงการเกิดขึ้นจำนวนมากๆอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีผลต่อการทำตลาดได้ และเกรงว่าจะเกิดการแข่งขันในเรื่องของราคาสูง นำมาซึ่งคุณภาพของบ้านที่สร้างคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น การลงทุนอสังหาฯภูเก็ตจากนี้ไปการลงทุนจะต้องเป็นโครงการที่เป็นตลาดเฉพาะกลุ่มถึงจะทำตลาดได้ ไม่ใช่ทำโครงการเหมือนกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดียวกันทั้งหมด ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด คอนโดมิเนียม เป็นต้น
นอกจากความเป็นห่วงในเรื่องของโครงการที่เกิดขึ้นจำนวนมากแล้ว ในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน รัฐบาลควรที่จะจัดสรรงบประมาณในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ให้เพียงพอต่อการเติบโตทั้งในเรื่องของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว ที่คาดกันว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน
นักลงทุนภูเก็ตเปิด 2 โครงการกว่า 4 พันล้าน
ด้านนางสาวชนกานต์ เบ้าแสงนิล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ต มิราเคิล กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ภูเก็ต มิราเคิล ซึ่งเป็นการรวมตัวของคนภูเก็ต 3 คนในการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตที่เป็นบ้านระดับกลางไปจนถึงระดับสูง 2 โครงการ คือ โครงการ “ฉลอง มิราเคิล เลกวิว” ( Chalong Miracle Lakeview) และ โครงการ “ฉลอง มิราเคิล เพลส” (Chalong Miracle Place) มูลค่าทั้ง 2 โครงการกว่า 4,000 ล้านบาท
โครงการฉลอง มิราเคิล เลกวิว ตั้งอยู่ที่ริมชายทะเลอ่าวฉลอง ใกล้กับร้านอาหารดานัง และร้านอาหารกันเอง 2 สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม เป็นบ้านริมทะเลจำนวน 3 หลัง ราคาหลังละ 51 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมอีก 29 ยูนิต ราคายูนิตละ 20 ล้านบาท
ส่วนโครงการฉลอง มิราเคิล เพลส นั้น อยู่ในพื้นที่ 60 ไร่ ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ใกล้ๆกับวัดหลวงปู่สุภา ประกอบด้วย โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น มีลิฟต์ทุกหลัง ระบบควบคุมไฟฟ้าด้วยคอมพิวเตอร์จำนวน 16 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 26 ล้านบาท บ้านริมน้ำ 26 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 24 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 8 ล้านบาท
นางสาวชนกานต์ กล่าวอีกว่า ทั้ง 2 โครงการได้เปิดขายพร้อมกันแล้วและเปิดขายอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ และจะก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบให้ลูกค้าภายใน 2 ปีครึ่ง โดยกลุ่มลูกค้าที่วางไว้กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงสูง ทั้งคนท้องถิ่นภูเก็ต นักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนในภูเก็ตและชาวต่างชาติ ที่ต้องการบ้านพักผ่อนและอยู่ในภูเก็ตยามเกษียณ
