ชุมพร - ตำรวจ ทหาร สนธิกำลังบุกจับขบวนการค้าแรงงานเถื่อนนำพม่าเดินหลบด่านขึ้นเขาหนี เข้าประเทศไทย
เมื่อเวลา 03.50 น. วันนี้ (2 มิ.ย.51) พ.ต.ท.เกรียงไกร โพธิ์ประสิทธิ์ สว.สส.สภ.อ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มบุคคลมีพฤติกรรมน่าสงสัยเป็นชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมากได้เดินอยู่บริเวณเชิงเขาบ้านห้วยทรายขาว หมู่ 7 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงร่วมกับ ร.อ.นัฐพงษ์ น้อยประชา หัวหน้าชุด ฉก.เสือดำ ค่ายสุรสีห์ สนธิกำลังประมาณ 20 นายไปสกัดจับ
ที่เกิดเหตุใกล้กับเชิงเขา พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยชายหญิงประมาณ 60 คน กำลังเดินถือกระเป๋าสัมภาระลัดเลาะลงจากเชิงเขามายังบริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แสดงตนเข้าตรวจสอบ
ปรากฏว่ากลุ่มคนทั้งหมดได้พากันวิ่งหลบหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตเข้าไปในป่าท่ามกลางความมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมได้จำนวน 13 คน เป็นชาย 9 คน ผู้หญิง 4 คน ทั้งหมดเป็นแรงงานชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง ตรวจสอบพบกระเป๋าสัมภาระจำนวนหนึ่ง และภาพถ่ายทหารพม่า บัตรประชาชน และภาพถ่ายพระภิกษุสงฆ์ตกอยู่ในป่าละเมาะที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไดเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานชาวพม่าทั้งหมดได้ลักลอบเข้ามาจากชายแดนไทย – พม่า ทางแม่น้ำกระบุรี อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีขบวนการค้าแรงงานเถื่อนลักลอบพาโดยสารมากับรถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน กระทั่งขับมาใกล้ถึงด่านตรวจทหารชุด ฉก.เสือดำ บริเวณถนนเพชรเกษม ตำบล จ.ปร. อำเภอละอุ่น จ.ระนอง เขตติดต่อกับ จ.ชุมพร คนขับรถยนต์ได้จอดแล้วให้แรงงานชาวพม่าทั้งหมดเดินอ้อมลัดเลาะไปตามเชิงเขาประมาณ 2 กม. โดยมีคนไทยพาเดินนำทางเพื่ออ้อมหลบด่านตรวจของทหาร ซึ่งจะมีรถยนต์มารอรับปากทางเข้าหมู่บ้านบริเวณที่เกิดเหตุ
กระทั่งมีชาวบ้านตื่นขึ้นมากรีดยางพาราในสวนใกล้ที่เกิดเหตุเห็นเข้าจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปถึงและได้แสดงตนขอตรวจสอบคนนำทางซึ่งเป็นชาวไทยและแรงงานชาวพม่าได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปในความมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมมาได้จำนวน 13 คน
พร้อมตรวจยึดสัมภาระกระป๋าเสื้อผ้าได้จำนวนหนึ่ง และภาพถ่ายแต่งชุดทหารพม่า 2 นาย พระภิกสุงฆ์ 2 รูป บัตรประชาชนชาวพม่า 1 ใบ ซึ่งคาดว่าบุคคลในรูปภาพน่าจะเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า หรือผู้ลี้ภัย ที่แอบแฝงทำตัวเป็นแรงงานลักลอบเข้ามาในประเทศไทย และคาดว่าคงจะหลบหนีการจับกุมไปพร้อมกับคนนำทางซึ่งเป็นคนไทย เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกติดตามสกัดจับเพื่อนำตัวมาสอบสวนมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
เมื่อเวลา 03.50 น. วันนี้ (2 มิ.ย.51) พ.ต.ท.เกรียงไกร โพธิ์ประสิทธิ์ สว.สส.สภ.อ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มบุคคลมีพฤติกรรมน่าสงสัยเป็นชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมากได้เดินอยู่บริเวณเชิงเขาบ้านห้วยทรายขาว หมู่ 7 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงร่วมกับ ร.อ.นัฐพงษ์ น้อยประชา หัวหน้าชุด ฉก.เสือดำ ค่ายสุรสีห์ สนธิกำลังประมาณ 20 นายไปสกัดจับ
ที่เกิดเหตุใกล้กับเชิงเขา พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยชายหญิงประมาณ 60 คน กำลังเดินถือกระเป๋าสัมภาระลัดเลาะลงจากเชิงเขามายังบริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แสดงตนเข้าตรวจสอบ
ปรากฏว่ากลุ่มคนทั้งหมดได้พากันวิ่งหลบหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตเข้าไปในป่าท่ามกลางความมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมได้จำนวน 13 คน เป็นชาย 9 คน ผู้หญิง 4 คน ทั้งหมดเป็นแรงงานชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง ตรวจสอบพบกระเป๋าสัมภาระจำนวนหนึ่ง และภาพถ่ายทหารพม่า บัตรประชาชน และภาพถ่ายพระภิกษุสงฆ์ตกอยู่ในป่าละเมาะที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไดเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานชาวพม่าทั้งหมดได้ลักลอบเข้ามาจากชายแดนไทย – พม่า ทางแม่น้ำกระบุรี อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีขบวนการค้าแรงงานเถื่อนลักลอบพาโดยสารมากับรถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน กระทั่งขับมาใกล้ถึงด่านตรวจทหารชุด ฉก.เสือดำ บริเวณถนนเพชรเกษม ตำบล จ.ปร. อำเภอละอุ่น จ.ระนอง เขตติดต่อกับ จ.ชุมพร คนขับรถยนต์ได้จอดแล้วให้แรงงานชาวพม่าทั้งหมดเดินอ้อมลัดเลาะไปตามเชิงเขาประมาณ 2 กม. โดยมีคนไทยพาเดินนำทางเพื่ออ้อมหลบด่านตรวจของทหาร ซึ่งจะมีรถยนต์มารอรับปากทางเข้าหมู่บ้านบริเวณที่เกิดเหตุ
กระทั่งมีชาวบ้านตื่นขึ้นมากรีดยางพาราในสวนใกล้ที่เกิดเหตุเห็นเข้าจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปถึงและได้แสดงตนขอตรวจสอบคนนำทางซึ่งเป็นชาวไทยและแรงงานชาวพม่าได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปในความมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมมาได้จำนวน 13 คน
พร้อมตรวจยึดสัมภาระกระป๋าเสื้อผ้าได้จำนวนหนึ่ง และภาพถ่ายแต่งชุดทหารพม่า 2 นาย พระภิกสุงฆ์ 2 รูป บัตรประชาชนชาวพม่า 1 ใบ ซึ่งคาดว่าบุคคลในรูปภาพน่าจะเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า หรือผู้ลี้ภัย ที่แอบแฝงทำตัวเป็นแรงงานลักลอบเข้ามาในประเทศไทย และคาดว่าคงจะหลบหนีการจับกุมไปพร้อมกับคนนำทางซึ่งเป็นคนไทย เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกติดตามสกัดจับเพื่อนำตัวมาสอบสวนมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
