นครศรีธรรมราช – ผู้ให้บริการรถโดยสารสองแถว ในนครศรีธรรมราช เตรียมปรับขึ้นราคาหลังสู้วิกฤตน้ำมันไม่ไหว ขณะที่นักเรียนซึ่งเป็นผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกิตติพงศ์ ศรีนัน ประธานสหกรณ์เดินรถนครศรีธรรมราช จำกัด พร้อมด้วยสมาชิก ซึ่งสัมปทานเดินรถสองแถวสายหัวถนน-สนามกีฬา ซึ่งเป็นรถสองแถวสายหลักที่วิ่งบริการผู้โดยสายเส้นทางใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอปรับราคาค่าโดยสารเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้ไหวอีกต่อไป
นายกิตติพงศ์ ศรีนัน เปิดเผยว่า ด้วยภาวะน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเพิ่มเป็น 40.14 ส.ต.ในขณะที่ราคาค่าโดยสารไม่ได้ขยับขึ้นเลย ส่วนระโดยสารนั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นรายได้ลดลงถึงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้ขับขี่และเจ้าของรถไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงต้องปรับราคาค่าโดยสาร โดยเฉพาะนักเรียนประถมเป็นราคา 5 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น 8 บาท มัธยมศึกษาตอนปลายถึงอุดมศึกษา 10 บาท และบุคคลทั่วไป 12 บาท
นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ 1 สัปดาห์ หากไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากทางราชการ กลุ่มสองแถวทั้งหมดจะขึ้นราคาทันที โดยไม่รอแล้ว ซึ่งการขึ้นราคานั้นเราขอขึ้นเพื่อพอที่จะอยู่ได้เท่านั้น ซึ่งการขึ้นเพียง 2 บาทส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนอยู่บ้าง แต่ด้วยความจำเป็นเพราะเราต้องอยู่ได้เหมือนกันถึงจะบริการต่อไปได้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกิตติพงศ์ ศรีนัน ประธานสหกรณ์เดินรถนครศรีธรรมราช จำกัด พร้อมด้วยสมาชิก ซึ่งสัมปทานเดินรถสองแถวสายหัวถนน-สนามกีฬา ซึ่งเป็นรถสองแถวสายหลักที่วิ่งบริการผู้โดยสายเส้นทางใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอปรับราคาค่าโดยสารเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้ไหวอีกต่อไป
นายกิตติพงศ์ ศรีนัน เปิดเผยว่า ด้วยภาวะน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเพิ่มเป็น 40.14 ส.ต.ในขณะที่ราคาค่าโดยสารไม่ได้ขยับขึ้นเลย ส่วนระโดยสารนั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นรายได้ลดลงถึงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้ขับขี่และเจ้าของรถไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงต้องปรับราคาค่าโดยสาร โดยเฉพาะนักเรียนประถมเป็นราคา 5 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น 8 บาท มัธยมศึกษาตอนปลายถึงอุดมศึกษา 10 บาท และบุคคลทั่วไป 12 บาท
นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ 1 สัปดาห์ หากไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากทางราชการ กลุ่มสองแถวทั้งหมดจะขึ้นราคาทันที โดยไม่รอแล้ว ซึ่งการขึ้นราคานั้นเราขอขึ้นเพื่อพอที่จะอยู่ได้เท่านั้น ซึ่งการขึ้นเพียง 2 บาทส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนอยู่บ้าง แต่ด้วยความจำเป็นเพราะเราต้องอยู่ได้เหมือนกันถึงจะบริการต่อไปได้