กระบี่ - อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ประกาศปิดท่องเที่ยว แหล่งปะการัง ด้านภาคเอกชนขอให้อุทยานฯ ประกาศให้ชัดปิดที่ใดบ้าง เกรงกระทบด้านการท่องเที่ยว
นายประยูร ศรีสุวรรณ หน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา กล่าวว่า บริเวณแหล่งท่องเที่ยว เกาะม้า เกาะไห ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ไม่เคยปิดการท่องเที่ยวมาเลย ทำให้ปะการังบางส่วนเริ่มเสื่อมโทรมไปตามสภาพ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวกันจำนวนมากส่วนบริเวณเกาะรอก หินแดงหินม่วง เป็นสถานที่ดำน้ำดูปะการังน้ำลึก ไม่เคยปิดเช่นเดียวกัน เกรงว่าสภาพปะการังจะเสื่อมโทรมไปมาก ซึ่งจะปิดระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม-15 พฤศจิกายน 2551
ในส่วนของเกาะตุกนลิมา หรือเกาะห้า จะปิดระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 พฤศจิกายน ของทุกปี เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใต้ทะเลได้ฟักฟื้นตัว ประกอบกับเป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทะเลมีคลื่นรมแรง การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาจึงประกาศปิดการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งประกอบด้วย เกาะม้า เกาะไหง เกาะรอก หินแดง หินม่วง และเกาะตุกนลิมาหรือเกาะห้า ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป
ด้าน นางปนิตา ปายะนันท์ กรรมการบริหารเกาะไหงแฟนตาซี่รีสอร์ทแอนด์สปา กล่าวว่า ตนเองและทางผู้ประกอบการธุรกิจบนเกาะไหงเห็นด้วยกับการประกาศปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังตามเกาะแก่งต่างๆ ของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เพื่อเป็นการฟื้นฟูแนวปะการังบริเวณแหล่งท่องเที่ยว บริเวณเกาะม้า เกาะไหง เกาะรอก หินแดง หินม่วง และเกาะตุกนลิมาหรือเกาะห้า ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นและแนวปะการังน้ำลึกบริเวณหินแดง หินม่วง
เพราะเป็นการรักษาสภาพธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวใต้น้ำให้มีความสมบรูณ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแนวปะการัง สำหรับผลกระทบนั้นตนเองคิดว่าน่าจะมีผลกระทบน้อยมากเนื่องจากผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมบนเกาะไหนส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนตลอดทั้งปี แต่ทางที่ดี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาควรมีประกาศการปิดเกาะให้ชัดเจนว่าปิดเฉพาะบริเวณแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังเท่านั้น ไม่ใช่ปิดเกาะห้ามเข้าเกาะ โดยเฉพาะเกาะไห ซึ่งมีสถานประกอบการท่องเที่ยวอยู่ด้วย
รวมทั้งปิดเกาะบริเวณอื่นๆ ด้วย เพราะถ้าปิดเกาะทั้งเกาะจะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะไหงอีกต่อไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จริงการประกาศของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาก็จะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมบนเกาะเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และควรมีการกำหนดระยะเวลาการประกาศปิดเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้ชัดเจนเพื่อมิให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวสับสน
ด้าน นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การที่ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาประกาศปิดเกาะไหงรวมทั้งเกาะบริวารอื่นๆ นั้นตนไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเกาะไหงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ภายในตัวบวกกับธรรมชาติที่สวยงาม เป็นสวรรค์อีกแห่งหนึ่งของทะเลกระบี่ ซึ่งอุทยานฯ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดเกาะไหงแต่อย่างใด และการจัดการกับสิ่งแวดล้อมนั้นทางผู้ประกอบการก็มีการบริหารการจัดการเป็นอย่างดี ดีกว่าเกาะอื่นๆ ด้วยซ้ำ
และว่า ประกาศของอุทยานฯฉบับนี้ไม่ชัดเจน แต่ถ้าประกาศปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังชั่วคราวตนเองเห็นด้วย เพราะเป็นการฟื้นฟูแนวปะการังให้มีความสมบรูณ์ เป็นการรักษาสภาพความเป็นธรรมชาติและระบบนิเวศน์ใต้น้ำบริเวณแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว
นายประยูร ศรีสุวรรณ หน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา กล่าวว่า บริเวณแหล่งท่องเที่ยว เกาะม้า เกาะไห ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ไม่เคยปิดการท่องเที่ยวมาเลย ทำให้ปะการังบางส่วนเริ่มเสื่อมโทรมไปตามสภาพ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวกันจำนวนมากส่วนบริเวณเกาะรอก หินแดงหินม่วง เป็นสถานที่ดำน้ำดูปะการังน้ำลึก ไม่เคยปิดเช่นเดียวกัน เกรงว่าสภาพปะการังจะเสื่อมโทรมไปมาก ซึ่งจะปิดระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม-15 พฤศจิกายน 2551
ในส่วนของเกาะตุกนลิมา หรือเกาะห้า จะปิดระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 พฤศจิกายน ของทุกปี เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใต้ทะเลได้ฟักฟื้นตัว ประกอบกับเป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทะเลมีคลื่นรมแรง การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาจึงประกาศปิดการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งประกอบด้วย เกาะม้า เกาะไหง เกาะรอก หินแดง หินม่วง และเกาะตุกนลิมาหรือเกาะห้า ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป
ด้าน นางปนิตา ปายะนันท์ กรรมการบริหารเกาะไหงแฟนตาซี่รีสอร์ทแอนด์สปา กล่าวว่า ตนเองและทางผู้ประกอบการธุรกิจบนเกาะไหงเห็นด้วยกับการประกาศปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังตามเกาะแก่งต่างๆ ของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เพื่อเป็นการฟื้นฟูแนวปะการังบริเวณแหล่งท่องเที่ยว บริเวณเกาะม้า เกาะไหง เกาะรอก หินแดง หินม่วง และเกาะตุกนลิมาหรือเกาะห้า ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นและแนวปะการังน้ำลึกบริเวณหินแดง หินม่วง
เพราะเป็นการรักษาสภาพธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวใต้น้ำให้มีความสมบรูณ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแนวปะการัง สำหรับผลกระทบนั้นตนเองคิดว่าน่าจะมีผลกระทบน้อยมากเนื่องจากผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมบนเกาะไหนส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนตลอดทั้งปี แต่ทางที่ดี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาควรมีประกาศการปิดเกาะให้ชัดเจนว่าปิดเฉพาะบริเวณแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังเท่านั้น ไม่ใช่ปิดเกาะห้ามเข้าเกาะ โดยเฉพาะเกาะไห ซึ่งมีสถานประกอบการท่องเที่ยวอยู่ด้วย
รวมทั้งปิดเกาะบริเวณอื่นๆ ด้วย เพราะถ้าปิดเกาะทั้งเกาะจะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะไหงอีกต่อไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จริงการประกาศของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาก็จะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมบนเกาะเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และควรมีการกำหนดระยะเวลาการประกาศปิดเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้ชัดเจนเพื่อมิให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวสับสน
ด้าน นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การที่ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาประกาศปิดเกาะไหงรวมทั้งเกาะบริวารอื่นๆ นั้นตนไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเกาะไหงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ภายในตัวบวกกับธรรมชาติที่สวยงาม เป็นสวรรค์อีกแห่งหนึ่งของทะเลกระบี่ ซึ่งอุทยานฯ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดเกาะไหงแต่อย่างใด และการจัดการกับสิ่งแวดล้อมนั้นทางผู้ประกอบการก็มีการบริหารการจัดการเป็นอย่างดี ดีกว่าเกาะอื่นๆ ด้วยซ้ำ
และว่า ประกาศของอุทยานฯฉบับนี้ไม่ชัดเจน แต่ถ้าประกาศปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังชั่วคราวตนเองเห็นด้วย เพราะเป็นการฟื้นฟูแนวปะการังให้มีความสมบรูณ์ เป็นการรักษาสภาพความเป็นธรรมชาติและระบบนิเวศน์ใต้น้ำบริเวณแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว
