นราธิวาส - ประชาชนชาวจังหวัดนราธิวาสร่วมปลูกต้นไม้ เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ เพื่อเป็นการลดภาวะโลกร้อนและฟื้นฟูป่าที่ถูกทำลาย
วันนี้ (21 พ.ค.) นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2551 ณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกไม้เรือ ต.ไพรวัลย์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งมีข้าราชการ นักเรียน และประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้ที่เป็นพันธุ์ไม้ป่าพรุ และสมุนไพร ประกอบด้วย ต้นหว้านา หว้าพรุ แปโง เงาะป่า ดีงู กระบุย อ้ายแกรก ขี้ใต้ ละไมป่า ชะเมาน้ำ หมากแดง จำนวน 5,500 ต้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกของประชาชนให้เกิด ความรักและความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าจากสภาพการ บุกรุกทำลายป่า ช่วยรักษาความสมดุลทางสภาวะแวดล้อม และป้องกันภัยธรรมชาติด้วย
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2551 ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของชาติและของโลก ให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ประชาชนช่วยรักษาความสมดุลทางสภาวะแวดล้อม และป้องกันภัยธรรมชาติ ซึ่งนำความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่โลกประสบภัยสภาวะโลกร้อน ส่วนหนึ่งมาจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจนทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาพป่าของชาติและของโลก ทำให้เกิดความไม่สมดุลทางสภาวะแวดล้อมขึ้นจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
โดยจังหวัดนราธิวาสได้ให้ความสำคัญต่อทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงห่วงใย พร้อมทั้งทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ทุกคนช่วยกันรักษาป่าเพิ่มพื้นที่ป่าด้วยการปลูก ต้นไม้ให้มาก ๆจะได้ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น
ด้าน นายพิชัย ศรีสุขสมพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 19 กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกไม้เรือ แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่า เป็นพื้นที่ประมาณ 40 ป่า การร่วมกันปลูกต้นไม้ครั้งนี้ก็เป็นการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้กันคนละต้น เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนต้นไม้ทำ ให้ธรรมชาติกลับคืนมาทั้งยังเป็นการช่วยลดจากภาวะโลกร้อน ทั้งยังเป็นการช่วยชาติ ช่วยโลกและช่วยประเทศของเรา
ด้านเด็กชายอารุณ ภาคสมบูรณ์ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านค่าย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมปลูกต้นไม้ครั้งนี้ เพราะต้นไม้ทำให้เราสดชื่นและเย็นสบาย ขอให้ช่วยกันปลูกต้นไม้พร้อมทั้งดูแลรักษาอย่าให้ต้นไม้ตาย เพื่อให้โลกของเรานี้จะได้น่าอยู่ต่อไป
วันนี้ (21 พ.ค.) นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2551 ณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกไม้เรือ ต.ไพรวัลย์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งมีข้าราชการ นักเรียน และประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้ที่เป็นพันธุ์ไม้ป่าพรุ และสมุนไพร ประกอบด้วย ต้นหว้านา หว้าพรุ แปโง เงาะป่า ดีงู กระบุย อ้ายแกรก ขี้ใต้ ละไมป่า ชะเมาน้ำ หมากแดง จำนวน 5,500 ต้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกของประชาชนให้เกิด ความรักและความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าจากสภาพการ บุกรุกทำลายป่า ช่วยรักษาความสมดุลทางสภาวะแวดล้อม และป้องกันภัยธรรมชาติด้วย
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2551 ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของชาติและของโลก ให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ประชาชนช่วยรักษาความสมดุลทางสภาวะแวดล้อม และป้องกันภัยธรรมชาติ ซึ่งนำความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่โลกประสบภัยสภาวะโลกร้อน ส่วนหนึ่งมาจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจนทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาพป่าของชาติและของโลก ทำให้เกิดความไม่สมดุลทางสภาวะแวดล้อมขึ้นจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
โดยจังหวัดนราธิวาสได้ให้ความสำคัญต่อทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงห่วงใย พร้อมทั้งทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ทุกคนช่วยกันรักษาป่าเพิ่มพื้นที่ป่าด้วยการปลูก ต้นไม้ให้มาก ๆจะได้ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น
ด้าน นายพิชัย ศรีสุขสมพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 19 กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกไม้เรือ แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่า เป็นพื้นที่ประมาณ 40 ป่า การร่วมกันปลูกต้นไม้ครั้งนี้ก็เป็นการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้กันคนละต้น เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนต้นไม้ทำ ให้ธรรมชาติกลับคืนมาทั้งยังเป็นการช่วยลดจากภาวะโลกร้อน ทั้งยังเป็นการช่วยชาติ ช่วยโลกและช่วยประเทศของเรา
ด้านเด็กชายอารุณ ภาคสมบูรณ์ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านค่าย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมปลูกต้นไม้ครั้งนี้ เพราะต้นไม้ทำให้เราสดชื่นและเย็นสบาย ขอให้ช่วยกันปลูกต้นไม้พร้อมทั้งดูแลรักษาอย่าให้ต้นไม้ตาย เพื่อให้โลกของเรานี้จะได้น่าอยู่ต่อไป
