ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรียัน โครงการศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ตเดินหน้าต่อ ธนารักษ์สงวนพื้นที่ 150 ไร่ หาดไม้ขาวดำเนินการ ส่วนโครงการแก้ไขปัญหาขยะต้องเร่งแก้ไข
นายชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมตรวจติดตามความก้าวหน้า การดำเนินโครงการต่างๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะโครงการศูนย์ประชุมนานาชาติ ซึ่งได้มีการเลือกที่ราชพัสดุแปลง ภก 153 ท่าฉัตรไชย เป็นสถานที่ก่อสร้าง และโครงการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า
สำหรับโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ต จากการหารือกับธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตนั้นพบว่ามีความชัดเจนเรื่องของที่ดิน ที่จะใช้สำหรับการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ และโครงการนี้ได้มีการดำเนินการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง และจะต้องมีการดำเนินการต่อไป เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยว จำเป็นที่จะต้องสร้างจุดยึดโยงกับการพัฒนาในภาพรวม ทั้งนี้ในแผนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ จะต้องดูแลให้ครอบคลุม และยึดโยงกับภาพรวมด้วย
"เรื่องของศูนย์ประชุมฯมีความชัดเจน โดยกรมธนารักษ์และธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตจะสงวนที่ดินไว้เนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูในรายละเอียด เรื่องของการเชื่อมโยงแลนด์มาร์กกับพื้นที่อื่นๆด้วย พื้นที่ไม้ขาวเป็นจุดหนึ่งที่มีการเลือกไว้ในการดำเนินการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติฯ แต่ถ้าจะมองพื้นที่อื่นๆ ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นการสร้างแลนด์มาร์กอาจจะมีมากกว่า 1 จุด ก็ไม่เสียหาย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร ให้แต่ละจุดมีการยึดโยงกัน ดังนั้นในแผนภาพรวมจึงต้องมีการบูรณาการร่วมกัน เพื่อไม่ให้โครงการสะดุด"
ขณะเดียวกัน โครงการเมกะโปรเจกต์อื่นๆ เช่น โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ถือเป็นอีกแผนงานหนึ่ง แต่ในการดำเนินการนั้น จะต้องดูแผนในภาพรวมด้วยว่าเป็นอย่างไร เมื่อมีการลงทุนในที่ใดที่หนึ่งก็ต้องคำนึงด้วยว่าในพื้นที่อื่นๆ มีการวางแผนงานไว้อย่างไร เพื่อเกื้อหนุนให้โครงการมีมูลค่าสูงขึ้น
นายชั่งทอง ยังได้กล่าวต่อไปถึงการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า จะต้องหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่ภูเก็ตให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบ ที่มีความสมบูรณ์ เนื่องจากปัจจุบันนี้สถานที่จัดการขยะของภูเก็ตมีประมาณ 200 ไร่ และต้องรับขยะทั้งจังหวัดทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะฉะนั้นจะต้องเร่งรัดแผนในภาพรวมให้เกิดความสมบูรณ์ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ซึ่งจากที่ดูในหลายประเทศ เช่น อิตาลี เป็นต้น ก็อาจจะเกิดวิกฤตได้
นายชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมตรวจติดตามความก้าวหน้า การดำเนินโครงการต่างๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะโครงการศูนย์ประชุมนานาชาติ ซึ่งได้มีการเลือกที่ราชพัสดุแปลง ภก 153 ท่าฉัตรไชย เป็นสถานที่ก่อสร้าง และโครงการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า
สำหรับโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ต จากการหารือกับธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตนั้นพบว่ามีความชัดเจนเรื่องของที่ดิน ที่จะใช้สำหรับการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ และโครงการนี้ได้มีการดำเนินการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง และจะต้องมีการดำเนินการต่อไป เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยว จำเป็นที่จะต้องสร้างจุดยึดโยงกับการพัฒนาในภาพรวม ทั้งนี้ในแผนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ จะต้องดูแลให้ครอบคลุม และยึดโยงกับภาพรวมด้วย
"เรื่องของศูนย์ประชุมฯมีความชัดเจน โดยกรมธนารักษ์และธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตจะสงวนที่ดินไว้เนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูในรายละเอียด เรื่องของการเชื่อมโยงแลนด์มาร์กกับพื้นที่อื่นๆด้วย พื้นที่ไม้ขาวเป็นจุดหนึ่งที่มีการเลือกไว้ในการดำเนินการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติฯ แต่ถ้าจะมองพื้นที่อื่นๆ ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นการสร้างแลนด์มาร์กอาจจะมีมากกว่า 1 จุด ก็ไม่เสียหาย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร ให้แต่ละจุดมีการยึดโยงกัน ดังนั้นในแผนภาพรวมจึงต้องมีการบูรณาการร่วมกัน เพื่อไม่ให้โครงการสะดุด"
ขณะเดียวกัน โครงการเมกะโปรเจกต์อื่นๆ เช่น โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ถือเป็นอีกแผนงานหนึ่ง แต่ในการดำเนินการนั้น จะต้องดูแผนในภาพรวมด้วยว่าเป็นอย่างไร เมื่อมีการลงทุนในที่ใดที่หนึ่งก็ต้องคำนึงด้วยว่าในพื้นที่อื่นๆ มีการวางแผนงานไว้อย่างไร เพื่อเกื้อหนุนให้โครงการมีมูลค่าสูงขึ้น
นายชั่งทอง ยังได้กล่าวต่อไปถึงการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า จะต้องหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่ภูเก็ตให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบ ที่มีความสมบูรณ์ เนื่องจากปัจจุบันนี้สถานที่จัดการขยะของภูเก็ตมีประมาณ 200 ไร่ และต้องรับขยะทั้งจังหวัดทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะฉะนั้นจะต้องเร่งรัดแผนในภาพรวมให้เกิดความสมบูรณ์ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ซึ่งจากที่ดูในหลายประเทศ เช่น อิตาลี เป็นต้น ก็อาจจะเกิดวิกฤตได้