ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาสั่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมกำลังพล และอุปกรณ์ พร้อมรับมือภัยพิบัติ เรียกเรือเล็กเรือใหญ่กลับเข้าฝั่ง
นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมกำลังพล เรือท้องแบน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยเหลือประชาชนหากเกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ พร้อมกับติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากขณะนี้ลมมรสุมตะวันตกที่พาดผ่านจังหวัดสงขลายังคงมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ ขณะเดียวกันได้ประสานสมาคมประมงสงขลา วิทยุแจ้งเตือนให้เรือประมงขนาดเล็กกลับเข้าฝั่งหมดแล้ว ส่วนเรือประมงขนาดใหญ่นอกน่านน้ำให้รีบนำเรือเข้าหลบคลื่นลมตามเกาะแก่งต่างๆ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง
ด้าน นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา กล่าวว่า ภายหลังจากที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยได้กำหนดให้พื้นที่ จ.สงขลา เป็น 1 ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศที่เสี่ยงเกิดภัยภิบัติทางธรรมชาติ ได้ประสานไปทั้ง 16 อำเภอให้สำรวจพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงโดยเฉพาะ อ.สะบ้าย้อย ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงที่สุดใน จ.สงขลาและเคยเกิดเหตุดินถล่มมาแล้วครั้งหนึ่งที่ ต.บาโหย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน
นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมกำลังพล เรือท้องแบน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยเหลือประชาชนหากเกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ พร้อมกับติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากขณะนี้ลมมรสุมตะวันตกที่พาดผ่านจังหวัดสงขลายังคงมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ ขณะเดียวกันได้ประสานสมาคมประมงสงขลา วิทยุแจ้งเตือนให้เรือประมงขนาดเล็กกลับเข้าฝั่งหมดแล้ว ส่วนเรือประมงขนาดใหญ่นอกน่านน้ำให้รีบนำเรือเข้าหลบคลื่นลมตามเกาะแก่งต่างๆ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง
ด้าน นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา กล่าวว่า ภายหลังจากที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยได้กำหนดให้พื้นที่ จ.สงขลา เป็น 1 ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศที่เสี่ยงเกิดภัยภิบัติทางธรรมชาติ ได้ประสานไปทั้ง 16 อำเภอให้สำรวจพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงโดยเฉพาะ อ.สะบ้าย้อย ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงที่สุดใน จ.สงขลาและเคยเกิดเหตุดินถล่มมาแล้วครั้งหนึ่งที่ ต.บาโหย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน