ม็อบสวนปาล์มที่สุราษฎร์ฯ ยอมสลายตัวหลังจังหวัดยอมรับข้อเสนอ

สุราษฎร์ธานี- ม็อบเกษตรกรชาวสวนปาล์มจากสุราษฎร์ฯ และชุมพร ยินยอมสลายตัวแล้ว หลังปิดถนนทุกสายนานเกือบ 8 ชั่วโมง ผลการเจรจาได้ข้อยุติ ให้โรงงานรับซื้อผลผลิตกิโลกรัมละ 4 บาท 30 สตางค์

จากกรณีได้มีเกษตรกรชาวสวนปาล์มจากพื้นที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และชาวสวนปาล์มจากจังหวัดชุมพรกว่า 300 คน พร้อมรถกระบะบรรทุกผลปาล์มน้ำมันจำนวนกว่า 300 คัน ปิดถนนสายเอเชีย 41 ด้านขาขึ้นกรุงเทพฯ บริเวณสี่แยกหนองนิล อำเภอท่าชนะ และถนนสายริมทะเล ที่เป็นสายสำรอง จนรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ตั้งแต่เวลา 11.00 น.วานนี้ (8 พ.ค.)

ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวดเร่งแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ และทางโรงงานชะลอการรับซื้อ พร้อมทั้งพ่อค้าคนกลางกดราคา โดยทางกลุ่มเกษตรกรได้ยื่นข้อเรียกร้อง จำนวน 5 ข้อ คือ 1.ให้รับซื้อผลปาล์มที่นำมาวันนี้ทั้งหมด 2.ให้เร่งรับซื้อผลผลิตปาล์มของเกษตรกร 3.ให้ซื้อผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม 4.จัดตั้งองค์กรของชาวสวนปาล์มอำเภอท่าชนะ และ 5.ห้ามนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศเหมือนที่ผ่านมา พร้อมขอให้รับซื้อผลผลิตในราคากิโลกรัมละ 5 บาท

จนกระทั่งเวลา 16.00 น. นายดำริห์ บุญจริง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเจรจาต่อรองกับผู้ชุมนุม หลังจากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการพูดคุยจึงได้ข้อสรุป โดยทางโรงงานรับซื้อราคาผลปาล์มน้ำมัน ราคากิโลกรัมละ 4 บาท 30 สตางค์ ลานเท หรือพ่อค้าคนกลางรับซื้อกิโลกรัมละ 4 บาท

พร้อมทั้งจังหวัดรับปากทำตามข้อตกลงในการเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกร ทุกข้อเสนอ สร้างความ พอใจของกลุ่มผู้ชุมนุม และยินยอมสลายตัว เมื่อเวลา 19.40 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถจึงสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ เนื่องจากมีรถติดยาวกว่า 30 กิโลเมตร