ชุมพร- พ่อค้ามะพร้าวเครียดก่อเหตุยิงเมีย-พี่สะใภ้ และคู่เขย ดับคาที่ 3 ศพ ก่อนหนีไปเจอด่านตรวจ เลยใช้มือมรณะจ่อขมับฆ่าตัวตาย หนีความผิดคากระบะรถยนต์เป็นศพที่ 4 คาดปมสังหารโหดยกครัวขัดแย้งเรื่องมรดกที่ดินกว่า 100 ไร่
ช่วงค่ำวานนี้ (27 เม.ย.) พ.ต.ท.สุชาติ ศิริรัตนพงษ์ สารวัรเวร สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายหลายศพที่หมู่บ้านหนองตะเคียน บริเวณบ้านเลขที่ 51/1 ถ.แพรกซ้าย หมู่ 6 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.ท่าแซะ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวทรงยุโรปกว้างขวาง อยู่กลางสวนยางพาราประมาณ 50 ไร่ บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวพบศพ นางพาทิพย์ เพชรศิริ อายุ 34 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่โหนกแก้มขวา 2 นัด กระสุนทะลุออกท้ายทอย นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นหน้าบ้าน ตรวจค้นในตัวมีเงินสดจำนวน 10,050 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท คล้องอยู่ที่คอ ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 2 นัด
ห่างกันประมาณ 100 เมตร ที่บ้านเลขที่ 51 ถ.แพรกซ้าย หมู่ 6 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นบ้านปูนชั้นเดียวบริเวณเปลยวนหน้าบ้านพบศพทราบชื่อ นายบุญโชค นิลสังข์ อายุ 51 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ขมับขวา 1 นัด และกลางศีรษะ 2 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บนเปลยวน บนพื้นข้างศพมีปลอกกระสุนตกอยู่ 3 ปลอก
ภายในห้องครัวหลังบ้านมีคนถูกยิงเสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อนางอุทิศ นิลสังข์ อายุ 42 ปี เป็นภรรยาของนายบุญโชค ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันที่กลางหลังทะลุสีข้างด้านซ้าย 1 นัด และต้นแขนซ้าย 1 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามือปืนคือ นายบุญเลี้ยง หอมแดง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 บ้านแพรกซ้าย หมู่ 6 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สามีของนางพาทิพย์ เพชรศิริ ที่ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหลังแรกดังกล่าวนั่นเอง หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ตอนเดียว สีเขียว ทะเบียน บฉ-4230 ประจวบคีรีขันธ์
หลบหนีไปเจอด่านตรวจป้อมพละ ถ.เพชรเกษม หมู่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร และได้จอดรถชิดไหล่ทางแล้วเปิดประตูรถยนต์เดินขึ้นไปนั่งบนกระบะท้าย แล้วใช้ปืนอาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงขมับขวาตัวเองเสียชีวิตไปอีกคน
จากการสอบสวนทราบว่า นายบุญเลี้ยง มือปืนนอกจากมีอาชีพทำสวนยางพาราแล้ว ยังเป็นพ่อค้ารับซื้อมะพร้าวตามสวนต่างๆ ในพื้นที่ส่งไปขายให้แก่ลูกค้าในกรุงเทพมหานคร ถือเป็นคนมีฐานะในหมู่บ้าน แต่ระยะหลังได้ทะเลาะมีปากเสียงกับนางพาทิพย์ภรรยา
เกี่ยวกับเรื่องภายในครอบครัว และเรื่องมรดกสวนยางพาราประมาณ 100 ไร่ กับคู่เขย และพี่สะใภ้ และถูกนางพาทิพย์ภรรยาไล่ออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ เนื่องจากอยู่กินกันแบบไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันจนทำให้นายบุญเลี้ยงสะสมความแค้น
กระทั่งก่อเหตุยิงนางพาทิพย์ภรรยาตนเองจนตายแล้ววิ่งไปยิงนายบุญโชค ซึ่งเป็นคู่เขยขณะนอนพักผ่อนอยู่ในเปลยวนหน้าบ้าน และนางอุทิศ ภรรยานายบุญโชคและพี่สาวนางพาทิพย์ เนื่องจากเข้าใจว่าบุคคลทั้งสองยุแหย่เข้าข้างนางพาทิพย์จนทำให้ครอบครัวมีปัญหา
หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปเจอด่านตรวจและกลัวว่าตำรวจจะจับกุมดำเนินคดี จึงจอดรถชิดไหล่ทาง ซึ่งอยู่ห่างจากด่านตรวจประมาณ 200 เมตร แล้วเปิดประตูรถยนต์เดินขึ้นไปนั่งบนกระบะท้าย จากนั้นใช้ปืนอาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงขมับขวาตัวเองเสียชีวิตไปอีกคนเพื่อหนีความผิดดังกล่าว
ช่วงค่ำวานนี้ (27 เม.ย.) พ.ต.ท.สุชาติ ศิริรัตนพงษ์ สารวัรเวร สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายหลายศพที่หมู่บ้านหนองตะเคียน บริเวณบ้านเลขที่ 51/1 ถ.แพรกซ้าย หมู่ 6 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.ท่าแซะ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวทรงยุโรปกว้างขวาง อยู่กลางสวนยางพาราประมาณ 50 ไร่ บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวพบศพ นางพาทิพย์ เพชรศิริ อายุ 34 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่โหนกแก้มขวา 2 นัด กระสุนทะลุออกท้ายทอย นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นหน้าบ้าน ตรวจค้นในตัวมีเงินสดจำนวน 10,050 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท คล้องอยู่ที่คอ ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 2 นัด
ห่างกันประมาณ 100 เมตร ที่บ้านเลขที่ 51 ถ.แพรกซ้าย หมู่ 6 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นบ้านปูนชั้นเดียวบริเวณเปลยวนหน้าบ้านพบศพทราบชื่อ นายบุญโชค นิลสังข์ อายุ 51 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ขมับขวา 1 นัด และกลางศีรษะ 2 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บนเปลยวน บนพื้นข้างศพมีปลอกกระสุนตกอยู่ 3 ปลอก
ภายในห้องครัวหลังบ้านมีคนถูกยิงเสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อนางอุทิศ นิลสังข์ อายุ 42 ปี เป็นภรรยาของนายบุญโชค ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันที่กลางหลังทะลุสีข้างด้านซ้าย 1 นัด และต้นแขนซ้าย 1 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามือปืนคือ นายบุญเลี้ยง หอมแดง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 บ้านแพรกซ้าย หมู่ 6 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สามีของนางพาทิพย์ เพชรศิริ ที่ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหลังแรกดังกล่าวนั่นเอง หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ตอนเดียว สีเขียว ทะเบียน บฉ-4230 ประจวบคีรีขันธ์
หลบหนีไปเจอด่านตรวจป้อมพละ ถ.เพชรเกษม หมู่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร และได้จอดรถชิดไหล่ทางแล้วเปิดประตูรถยนต์เดินขึ้นไปนั่งบนกระบะท้าย แล้วใช้ปืนอาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงขมับขวาตัวเองเสียชีวิตไปอีกคน
จากการสอบสวนทราบว่า นายบุญเลี้ยง มือปืนนอกจากมีอาชีพทำสวนยางพาราแล้ว ยังเป็นพ่อค้ารับซื้อมะพร้าวตามสวนต่างๆ ในพื้นที่ส่งไปขายให้แก่ลูกค้าในกรุงเทพมหานคร ถือเป็นคนมีฐานะในหมู่บ้าน แต่ระยะหลังได้ทะเลาะมีปากเสียงกับนางพาทิพย์ภรรยา
เกี่ยวกับเรื่องภายในครอบครัว และเรื่องมรดกสวนยางพาราประมาณ 100 ไร่ กับคู่เขย และพี่สะใภ้ และถูกนางพาทิพย์ภรรยาไล่ออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ เนื่องจากอยู่กินกันแบบไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันจนทำให้นายบุญเลี้ยงสะสมความแค้น
กระทั่งก่อเหตุยิงนางพาทิพย์ภรรยาตนเองจนตายแล้ววิ่งไปยิงนายบุญโชค ซึ่งเป็นคู่เขยขณะนอนพักผ่อนอยู่ในเปลยวนหน้าบ้าน และนางอุทิศ ภรรยานายบุญโชคและพี่สาวนางพาทิพย์ เนื่องจากเข้าใจว่าบุคคลทั้งสองยุแหย่เข้าข้างนางพาทิพย์จนทำให้ครอบครัวมีปัญหา
หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปเจอด่านตรวจและกลัวว่าตำรวจจะจับกุมดำเนินคดี จึงจอดรถชิดไหล่ทาง ซึ่งอยู่ห่างจากด่านตรวจประมาณ 200 เมตร แล้วเปิดประตูรถยนต์เดินขึ้นไปนั่งบนกระบะท้าย จากนั้นใช้ปืนอาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงขมับขวาตัวเองเสียชีวิตไปอีกคนเพื่อหนีความผิดดังกล่าว
