นครศรีธรรมราช - ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หวั่นขบวนการทำลายพลเอกเปรม ลุกลาม เร่งรัฐดำเนินการเด็ดขาด พลเอกชวลิต ส่งสัญาณวิตกคอมมิวนิสต์ในเมืองคืนชีพหลัง ชี้ มีขบวนการล้ม “ทุน ปืน เจ้า”
วันนี้ (27 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมากล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ในทำนอง ว่า ดึงเอา พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มายุ่งในเรื่องของการเมือง ซึ่ง นายเทพไท กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วประชาธิปัตย์ไม่ได้นำ พลเอกเปรม มาเกี่ยวข้องกับการเมืองเลย แต่เป็นการปกป้องไม่ให้การเมืองเข้ามาทำร้ายป๋าเปรม และรวมถึงสถาบันองคมนตรี พลเอกเปรม เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีความใกล้ชิดกับเบื้องสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ในการปกป้องพลเอกเปรม และสถาบัน เพื่อไม่ให้คนกลุ่มหนึ่งเข้ามาทำลายได้ คาดว่า หากทำลายได้เชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะย่ามใจและจะลุกลามต่อไปถึงสถาบันเบื้องสูงได้
“ชัดเจนคือประชาธิปัตย์ต้องการตัดขบวนการชั่วร้ายนี้ออกไป มาถึงตอนนี้ทำได้ครบสมบูรณ์แล้ว ในการเปิดโปงข้อมูลออกมาว่ามีขบวนการที่ทำลายอยู่จริง หลักฐานเหตุการณ์ที่นำเสนอต่อสังคมวันนี้เชื่อได้ การที่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่า เมื่อเปรียบกับข้อกล่าวหาแล้วว่าไม่มีขบวนการและประชาธิปัตย์ไม่มีหลักฐานเพียงพอ บทบาทหลังจากนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์ ที่เหลือมอบให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองโดยเฉพาะตัวรัฐบาลเองต้องเอาจริงเอาจังดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหากไม่มีความคืบหน้าประชาธิปัตย์จะทวงถามเป็นระยะ” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวนั้นเป็นระบบไม่อยากให้มองว่าเป็นการเมือง พลเอกเปรม ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในทางการเมือง และสถาบันองคมนตรีเป็นองค์กรที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องยุคลบาท บุคคลอย่างป๋าเปรมนั้นเป็นรัฐบุรุษ เป็นประธานองคมนตรี เป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งประเทศโดยเฉพาะคนใต้ที่ถือพลเอกเปรมเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต แต่มีคนใต้เพียงไม่กี่คนที่ยอมขายตัวขายอุดมการณ์รับใช้ผู้มีอำนาจเงินทำลายพลเอกเปรมจนได้ดีมีตำแหน่งทางการเมืองเป็นรางวัลจากการปูนบำเหน็จ
“สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการให้ผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ท่านอยู่ในสถานะที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางการเมืองละวางไม่ยุ่งเกี่ยวแล้วเรื่องนี้ต้องพิจารณาว่าการโจมตีประธานองคมนตรีเป็นการบ่อนทำลายหรือไม่ ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม หรือรัฐบาลเห็นว่าเป็นแค่เรื่องหมิ่นประมาทธรรมดาก็ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าหากรัฐบาลเห็นว่าเป็นเรื่องที่ลุกลามบานปลายไปถึงสถาบันสูงสุด ควรนำเอากฎหมายความมั่นคงมาใช้ได้เพราะหมายถึงการบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ”
นายเทพไท กล่าวต่ออีกว่า ความคิดเห็นของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เกี่ยวกับขบวนการเรื่องการล้มทุน ปืน และเจ้า เป็นข้อเสนอแนะที่น่าจับตามองและหากวิเคราะห์ต่อไปว่าขบวนการล้มกลุ่มทุน ปืนและเจ้าขยายความแล้วเห็นว่าเป็นอุดมการณ์ระบอบทุน ทหาร และสถาบันพระมหากษัตริย์ มีลัทธิเดียวในโลกนี้ คือ ลัทธิคอมมิวนิสต์
“พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ส่งสัญญาณถึงภัยคุกคามที่น่ากลัวคือคอมมิวนิสต์ยังไม่ได้ตายจากสังคมไทย บางคนเคลื่อนไหวทางการเมืองสอดคล้องกับแนวทางของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ที่วิเคราะห์ไว้ มีขบวนการที่เห็นแต่ท้ายที่สุดจะมีจุดที่ร่วมกันคือทำลายทุน ปืน เจ้าตามที่วิเคราะห์ไว้” นายเทพไท กล่าว
วันนี้ (27 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมากล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ในทำนอง ว่า ดึงเอา พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มายุ่งในเรื่องของการเมือง ซึ่ง นายเทพไท กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วประชาธิปัตย์ไม่ได้นำ พลเอกเปรม มาเกี่ยวข้องกับการเมืองเลย แต่เป็นการปกป้องไม่ให้การเมืองเข้ามาทำร้ายป๋าเปรม และรวมถึงสถาบันองคมนตรี พลเอกเปรม เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีความใกล้ชิดกับเบื้องสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ในการปกป้องพลเอกเปรม และสถาบัน เพื่อไม่ให้คนกลุ่มหนึ่งเข้ามาทำลายได้ คาดว่า หากทำลายได้เชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะย่ามใจและจะลุกลามต่อไปถึงสถาบันเบื้องสูงได้
“ชัดเจนคือประชาธิปัตย์ต้องการตัดขบวนการชั่วร้ายนี้ออกไป มาถึงตอนนี้ทำได้ครบสมบูรณ์แล้ว ในการเปิดโปงข้อมูลออกมาว่ามีขบวนการที่ทำลายอยู่จริง หลักฐานเหตุการณ์ที่นำเสนอต่อสังคมวันนี้เชื่อได้ การที่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่า เมื่อเปรียบกับข้อกล่าวหาแล้วว่าไม่มีขบวนการและประชาธิปัตย์ไม่มีหลักฐานเพียงพอ บทบาทหลังจากนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์ ที่เหลือมอบให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองโดยเฉพาะตัวรัฐบาลเองต้องเอาจริงเอาจังดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหากไม่มีความคืบหน้าประชาธิปัตย์จะทวงถามเป็นระยะ” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวนั้นเป็นระบบไม่อยากให้มองว่าเป็นการเมือง พลเอกเปรม ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในทางการเมือง และสถาบันองคมนตรีเป็นองค์กรที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องยุคลบาท บุคคลอย่างป๋าเปรมนั้นเป็นรัฐบุรุษ เป็นประธานองคมนตรี เป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งประเทศโดยเฉพาะคนใต้ที่ถือพลเอกเปรมเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต แต่มีคนใต้เพียงไม่กี่คนที่ยอมขายตัวขายอุดมการณ์รับใช้ผู้มีอำนาจเงินทำลายพลเอกเปรมจนได้ดีมีตำแหน่งทางการเมืองเป็นรางวัลจากการปูนบำเหน็จ
“สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการให้ผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ท่านอยู่ในสถานะที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางการเมืองละวางไม่ยุ่งเกี่ยวแล้วเรื่องนี้ต้องพิจารณาว่าการโจมตีประธานองคมนตรีเป็นการบ่อนทำลายหรือไม่ ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม หรือรัฐบาลเห็นว่าเป็นแค่เรื่องหมิ่นประมาทธรรมดาก็ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าหากรัฐบาลเห็นว่าเป็นเรื่องที่ลุกลามบานปลายไปถึงสถาบันสูงสุด ควรนำเอากฎหมายความมั่นคงมาใช้ได้เพราะหมายถึงการบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ”
นายเทพไท กล่าวต่ออีกว่า ความคิดเห็นของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เกี่ยวกับขบวนการเรื่องการล้มทุน ปืน และเจ้า เป็นข้อเสนอแนะที่น่าจับตามองและหากวิเคราะห์ต่อไปว่าขบวนการล้มกลุ่มทุน ปืนและเจ้าขยายความแล้วเห็นว่าเป็นอุดมการณ์ระบอบทุน ทหาร และสถาบันพระมหากษัตริย์ มีลัทธิเดียวในโลกนี้ คือ ลัทธิคอมมิวนิสต์
“พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ส่งสัญญาณถึงภัยคุกคามที่น่ากลัวคือคอมมิวนิสต์ยังไม่ได้ตายจากสังคมไทย บางคนเคลื่อนไหวทางการเมืองสอดคล้องกับแนวทางของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ที่วิเคราะห์ไว้ มีขบวนการที่เห็นแต่ท้ายที่สุดจะมีจุดที่ร่วมกันคือทำลายทุน ปืน เจ้าตามที่วิเคราะห์ไว้” นายเทพไท กล่าว
