พัทลุง – ชาวนาพัทลุง วอนชลประทานเร่งปล่อยน้ำหลังพื้นที่นาข้าวเริ่มยืนต้นแห้งตายนับ 1,000 ไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ข้าวนาปรังในพื้นที่ตำบลท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง นับ 1,000 ไร่กำลังยืนต้นแห้งตาย หลังจากที่ชาวนาหันมาทำนากันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากข้าวสารมีราคาแพง พร้อมทั้งได้ร้องขอให้ทางสำนักงานชลประทานพัทลุงเร่งปล่อยให้การช่วย เหลือ แต่ร้องขอมานานกว่า 1 เดือนแล้วยังไม่สมารถปล่อยน้ำช่วยเหลือเกษตรกรได้
นายเวียง เมืองหนู อายุ 65 ปี เกษตรชาวนาในพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากที่ข้าวได้ปรับราคาสูงขึ้น ชาวนาในพัทลุงหันมาปลูกข้าวนาปรังมากขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่เริ่มขาดน้ำที่ใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังแตกกอ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ท่าแค มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังนับ 1,000 ไร่ หว่านข้าวมาได้ 1 เดือนแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงระยะแตกกอแต่ไม่มีน้ำมาช่วยหล่อเลี้ยง
ทั้งที่พื้นที่นาดังกล่าวอยู่ในเขตชลประทานสามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง แต่ฤดูกาลทำนาปรังปีนี้ทางชลประทานพัทลุงไม่สามารถส่งน้ำมาช่วยได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านได้ร้องขอน้ำ จากชลประทานมานนานกว่า 1 เดือน แต่ทางทางชลประทานยังปล่อยน้ำมา ทำให้ต้นข้าวที่กำลังแตกกอกำลังจะแห้งตาย และหากช้าไปกว่า นาข้าวที่ชาวนาลงแรง ลงมือหวังที่จะขายข้าวในราคาสูงคงหมดหวังและได้รับความเสียหายกันไปตามกัน
สำหรับนาข้าวในพื้นที่ตำบลท่าแค อ.เมือง รับน้ำทำนามาจากระบบส่งน้ำคลองชลประทาน นาท่อม ต.นาท่อม ฝายชลประทานดังกล่าว นอกจากจะผันน้ำมาทำนาในหลายพื้นที่ ของอำเภอเมืองแล้วยังนำน้ำมาผลิตประปาแจกจ่ายในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง