ตรัง – นายอำเภอกันตังพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่ดิน ต.บางสัก อ.กันตัง ที่ทางการจัดให้ชาวบ้านอาศัยทำกินหลังประสบภัยสึนามิ แต่ถูกนายทุนแอบอ้างเป็นที่ดินส่วนตัว เบื้องต้นพบอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
จากกรณีที่กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กว่า 60 คนซึ่งได้ประสบธรณีพิบัติภัยสึนามิเมื่อปี 2547 จนทำให้บ้านเรือนเสียหายเป็นอย่างมาก และทางราชการได้จัดสรรที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนเสื่อมโทรม 3 ไร่เศษ ที่ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ให้ชาวบ้านได้ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย แต่ต่อมากลับมีเอกชนเข้าไปอ้างสิทธิว่าเป็นเจ้าของที่ดิน และได้มีการฟ้องร้องเรียกที่ดินดังกล่าวกลับคืน ส่งผลให้ชาวบ้านต้องดิ้นรนต่อสู้เรื่องนี้มาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว โดยที่ไม่มีหน่วยงานของทางราชการเข้าไปช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น
กลุ่มชาวบ้านดังกล่าวเดินทางมาชุมนุมประท้วงที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 21 เมษายน 2551 พร้อมกับยื่นข้อเรียกร้องทั้งหมด 3 ข้อ โดยขอให้หน่วยงานที่เคยเข้าไปตรวจสอบและจัดสรรพื้นที่ดังกล่าว เข้าไปตรวจสอบพื้นที่อีกครั้งเพื่อให้เกิดความแน่ชัด และยืนยันการตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษรให้ว่า พื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นของรัฐหรือเอกชนกันแน่ โดยกลุ่มชาวบ้านทั้งหมดจะรอฟังผลพิจารณา และปักหลักอยู่ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง จนกว่าจะได้รับคำตอบหรือคำชี้แจงที่ชัดเจน
เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ (22 เม.ย.) นายกฤษดา ตันธีระธรรม นายอำเภอกันตัง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัดตรัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตง.5 สิเกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางสัก และกำนันตำบลบางสัก ได้เดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง ที่กลุ่มชาวบ้านที่ประสบธรณีพิบัติภัยสึนามิ ได้เข้าไปปลูกสร้างบ้านเรือนและอาสินจำนวนหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวในเบื้องต้น ได้มีการนำภาพถ่ายทางอากาศ และแผนที่ระวางของกรมที่ดินมาประกอบการพิจารณา ซึ่งเมื่อดูจากพิกัดต่างๆ สภาพพื้นที่ และระบบนิเวศป่าชายเลนแล้วพบว่ามีน้ำทะเลขึ้นมาถึง และมีพันธุ์พืชป่าชายเลนขึ้นอยู่หลายชนิด คณะกรรรมการจึงทำการสรุปในเบื้องต้นว่าบริเวณที่กลุ่มชาวบ้านอาศัยอยู่ในขณะนี้ น่าจะอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองกันตัง-ไหโละ ซึ่งทางคณะกรรมการจะนำเรื่องรายงานให้ นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้รับทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ทางคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลบางสัก อำเภอกันตังแล้วก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครถูกใครผิด เนื่องจากทางเอกชนระบุว่า ตนเองมีเอกสารสิทธิ์ที่ดินถูกต้อง และเป็นมรดกที่ตกทอดกันมานานแล้ว โดยเพียงแค่ต้องการพื้นที่บริเวณด้านหน้า ซึ่งอยู่ติดกับขอบถนนเท่านั้น
ขณะที่ทางชาวบ้านระบุว่าไม่สามารถขยับถอยไปได้อีก เพราะบริเวณด้านหลังติดกับป่าโกงกาง และที่ดินแปลงนี้ก็เป็นของทางราชการที่จัดสรรให้ชาวบ้านที่ประสบธรณีพิบัติภัยสึนามิได้เข้าไปอยู่อาศัย
