ตรัง – จังหวัดตรังจัดรณรงค์ไถกลบต่อซังเพื่อลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน และยังป็นการฟื้นฟูอนุรักษ์ดินด้วยเศษวัสดุทางการเกษตรที่เหลือทิ้งในไร่นา
นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการเปิดโครงการรณรงค์ไถกลบตอซังเฉลิมพระเกียรติเพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐบาลได้ประกาศการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ โดยการส่งเสริมและสนับสนุนปัจจัยการผลิตทางด้านการเกษตร และเร่งแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ด้วยการรณรงค์ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากมีเศษเหลือใช้ของวัสดุทางด้านการเกษตร เช่น ตอซังข้าว ข้าวโพด และอื่นๆ เป็นจำนวนถึง 35 ล้านตันต่อปี ซึ่งคิดเป็นเศษวัสดุทางการเกษตรที่เหลือทิ้งในไร่นา เฉลี่ยไร่ละประมาณ 300 กิโลกรัม ทั้งๆ ที่มีส่วนประกอบของธาตุอาหารพืช ไม่ว่าจะเป็นธาตุอาหารหลัก หรือธาตุอาหารรอง แต่เกษตรกรชาวตรังยังขาดการจัดการที่เหมาะสม
โดยการเผาทิ้งหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เพียงเพื่อที่จะต้องการให้การไถพรวนง่ายขึ้น ส่งผลให้โครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลงไป คือ เนื้อดินจับตัวกันแน่นและแข็ง สูญเสียอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารหลักในดิน คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอร์รัส และโปรเตสเซียม ซึ่งยังไม่นับธาตุอาหารรอง หรือเป็นการทำลายจุลินทรีย์ และแมลงที่เป็นประโยชน์ต่อดิน ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำในดิน เกิดฝุ่นละออง เขม่าควัน และยังเป็นการสร้างมลพิษทางอากาศ
ทั้งนี้ สถานีพัฒนาที่ดินตรัง และสำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 12 กรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ จึงได้มีการรณรงค์ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนทัศนคติด้วยการงดเผาตอซัง แล้วให้นำวัสดุเหลือใช้จากไร่นา มาเป็นวัสดุในการจัดทำวัสดุปรับปรุงดิน ผสมผสานกับการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพดิน ลดต้นทุนการผลิต รักษาสิ่งแวดล้อม และลดผลกระทบที่เกิดสภาวะโลกร้อน
นอกจากนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาพละ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชุน ได้ร่วมกันหว่านเมล็ดปอเทือง ถั่วพร้า และปุ๋ยลงไปในพื้นที่ตัวอย่างด้วย