ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ศึกสายเลือด ปชป.ในสนามเลือกตั้ง อบจ.สงขลาเดือด!! ตร.รวบ 8 มือแจกใบปลิวโจมตี “นวพล บุญญามณี” และทีมสงขลาพัฒนากลางดึก พร้อมของกลางเอกสารเต็มท้ายรถกระบะ แจ้งขอหาทำผิด พรบ.เลือกตั้งแล้ว
การเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลาเริ่มมีอุณหภูมิของการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีคืนที่ผ่านมา (19 เม.ย.) ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ คงเทพ รอง สวป.สภ.เมืองสงขลา ทำหน้าที่ร้อยเวร ได้รับแจ้งจากนายวิชัย กุหลาบวรรณ ผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.สงขลา ทีมสงขลาพัฒนาว่า มีกลุ่มบุคคลเดินแจกใบปลิวโจมตี นายนวพล บุญญามณี ผู้สมัครนายกทีมสงขลาพัฒนา หมายเลข 1 ที่บริเวณหน้าร้านอาหารลานดอกแก้ว เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งขอให้มาทำการตรวจสอบและจับกุม
จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ร.ต.ต.เด่นพงษ์ อนันตวุฒิ และตำรวจสายตรวจ พบว่า มีบุคคลเดินแจกใบปลิวจำนวน 6 คนให้กับประชาชนที่มาเที่ยวแหลมสมิหลา และนั่งรับประทานอาหารภายในร้านอาหารลานดอกแก้ว จึงได้เข้าทำการตรวจสอบใบปลิวพบว่า เป็นใบปลิวที่มีข้อความโจมตีใส่ร้ายป้ายสีนายนวพล ซึ่งใบปลิวเป็นชุด 3 แผ่น 6 หน้า เป็นสำเนาของกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับคดีทุจริตเงินงบประมาณ และสำเนาหนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 สงขลา โดยมีหนังสือปะหน้าถึงประชาชนชาวสงขลา เพื่อทราบทั่วกัน และประกอบการพิจารณาในการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลาในวันที่ 27 เมษายน 2551 ลงนามโดยเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชัน
อีกทั้งมีรถยนต์โตโยต้า ไทเกอร์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บพ 8200 สงขลา ท้ายกระบะรถมีใบปลิว มีข้อความโจมตีใส่ร้ายป้ายสีนายนวพล ชนิดเป็นชุด จำนวน 350 ชุด และชนิดเป็นใบ 1,435 ใบ โดยมีนายจิรพัทธ์ โชติช่วง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ถนนราษฎร์อุทิศ ซอย 26 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นคนขับรถยนต์ และมีนายวิชาญ กลิ้วกลาย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/4 หมู่ 4 ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา นั่งอยู่ในรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งสองเอาไว้
รวมทั้งควบคุมตัวผู้ที่กำลังแจกใบปลิวอีก 6 คน ประกอบด้วย 1.นายสุริยัน สุวรรณบูรณ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 4 ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา 2.นายวัชรินทร์ วุฒพันธุ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ 1 ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา 3.น.ส.จิราพร ปราณีพรหมพร อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 1 ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา 4.น.ส.ปาจารีย์ ร่างใหญ่ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 4 ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา 5.น.ส.ปาริฉัตร สุนลี อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/5 หมู่ 1 ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา และ 6.ด.ญ.ปภัสสรา สืบสวน อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/6 หมู่ 1 ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้แก้ผู้สมัครใดด้วยวิธีการแจกใบปลิวมีข้อความใส่ร้ายหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องคุณสมบัติอันเกี่ยวกับผู้สมัคร (นายนวพล บุญญามณี หมายเลข 1) และทำการจับกุมบุคคลทั้งหมดขณะกำลังเดินแจกใบปลิว พร้อมของกลางและรถยนต์ควบคุมมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองสงขลา
ต่อมา นายนวพล บุญญามณี หัวหน้าทีมสงขลาพัฒนาและผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลา หมายเลข 1 ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสงขลา พร้อมด้วยลูกทีม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาหมิ่นประมาทอีกข้อหาหนึ่ง ซึ่งเป็นคดีอาญา พร้อมกับพูดคุยกับผู้ต้องหา 6 คน ที่ถูกว่าจ้างมาและยอมรับสารภาพตลอดข้อหา และได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาได้ติดต่อประสานไปยังทีมฝ่ายตรงข้าม เพื่อขอให้มาช่วยดำเนินการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดออกไปชั่วคราว ก่อนที่จะถูกนำตัวเข้าควบคุมในห้องขัง และส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสงขลา เนื่องจากมีเยาวชนมาร่วมกระทำผิดด้วย
นายนวพล บุญญามณี หัวหน้าทีมสงขลาพัฒนา ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลา กล่าวว่า ในการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา และสมาชิกสภา อบจ.สงขลา ในขณะนี้ ตนในฐานะหัวหน้าทีมสงขลาพัฒนาและเป็นผู้สมัครนายก อบจ.ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่เราไม่คิดว่าจะมีการนำวิธีสกปรกมาใช้ในการแข่งขันการเลือกตั้ง ซึ่งตนได้แจ้งความจับทั้ง 8 คน ซึ่งมีความผิดตาม พรบ.การเลือกตั้ง และได้แจ้งความเพิ่มข้อหาหมิ่นประมาทอีกข้อหาหนึ่ง ซึ่งเป็นคดีอาญาด้วย
“นอกจากจากจะมีการโจมตีตนด้วยวิธการดังกล่าวแล้ว ยังมีวิธีการทำลายป้ายหาเสียงของผมและลูกทีมในทุกอำเภอ ในขณะนี้ป้านคัดเอาท์ของผมถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก อยากจะฝากว่าการลงเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลามันจะต้องใช้วิธีการที่สง่างามกว่านี้ ไม่ใช่เล่นวิธีสกปรก ประชาชนรู้ดีว่าอันไหนมันจะสง่างามกว่ากัน แพ้ชนะก็ขอให้อยู่กันในเกม ไม่ใช่เล่นนอกเกมแบบลับหลังที่ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน” นายนวพลกล่าว
