"เขาหลัก"ฟื้นจาก"สึนามิ"เต็มที่ ปลายปีเปิด 5,500 ห้อง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ปลายปีนี้ท่องเที่ยวเขาหลักจะสมบูรณ์แบบทั้งหมด ห้องพักเปิดครบหมดทั้ง 5,500 ห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เอเยนต์ทัวร์ในยุโรปทุกบริษัทเริ่มขายเขาหลักแล้ว คาดความต้องการห้องพักเพิ่ม 30% อัตราเข้าพักทั้งปีไม่ต่ำกว่า 70% พร้อมเร่งผลักดันให้กระทรวงคมนาคม เร่งรัดปรับปรุงสนามบินเล็กบนเกาะคอเขารองรับท่องเที่ยวขยายตัว

นายประเสริฐ จันทร์พลงาม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เปิดเผยภาพรวมการพัฒนาการท่องเที่ยวบริเวณเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ภายหลังเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปลายปี 2547 ว่า ขณะนี้โรงแรม รีสอร์ต ในบริเวณพื้นที่เขาหลักตลอดไปจนถึงหาดบางเนียงและหาดอื่นๆ ได้รับการปรับปรุงและเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวแล้วประมาณ 4,500 ห้อง ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550 เป็นต้นมา และยังมีโรงแรม รีสอร์ต อีกหลายแห่งที่กำลังปรับปรุงและคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปลายปี 2551 นี้ ประมาณ 1,000 ห้อง

“คิดว่าปลายปีนี้ห้องพักทั้งหมดของเขาหลักจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก่อนเกิดสึนามิแล้ว เพราะโรงแรมเกือบทุกแห่งได้รับการปรับปรุงและเปิดให้บริการแล้ว เหลือเพียง 2 แห่งเท่านั้น ที่ยังไม่ได้ปรับปรุงที่บริเวณเขาหลักและที่บริเวณทับตะวัน และเท่าที่ทราบโรงแรมทั้ง 2 แห่งนี้ได้เปลี่ยนมือแล้ว เนื่องจากเจ้าของเดิมติดปัญหาเอ็นพีแอล ทำให้ไม่สามารถกู้เงินมาซ่อมแซมใหม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้องขายโรงแรมทั้ง 2 แห่งและคาดว่าเจ้าของใหม่คงจะเข้ามาปรับปรุงและเปิดให้บริการในไม่ช้านี้เช่นกัน”

ปลายปีนี้ห้องพักเปิดเต็ม 5,500 ห้อง

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ปลายปีนี้เขาหลักจะมีโรงแรม รีสอร์ต ที่เปิดให้บริการประมาณ 5,500 ห้อง ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับก่อนเกิดสึนามิ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้นักท่องเที่ยวทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และอื่นๆ ได้รับการปรับปรุงเข้าสู่สภาพเดิมทั้งหมดแล้ว ทำให้เอเยนต์ทัวร์ในต่างประเทศมีความมั่นใจในการขายห้องพักที่เขาหลักมากขึ้น

จากการที่ผู้ประกอบการในบริเวณเขาหลักได้เดินทางไปส่งเสริมการขายในงานไอทีบี ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากเอเยนต์ทัวร์ดีมาก ประกอบกับเมื่อช่วงปลายปี 2550 ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2551 ที่บริษัทเอเยนต์ทัวร์ได้ส่งนักท่องเที่ยวมายังเขาหลักและไม่ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวทำให้เอเยนต์ทัวร์มั่นใจขายเขาหลักมากขึ้น ซึ่งเท่าที่ทราบขณะนี้ เอเยนต์ทัวร์ในยุโรปทุกบริษัทที่เคยขายเขาหลักได้กลับมาทำประชาสัมพันธ์ขายเขาหลักทั้งหมดแล้วในปีนี้

อัตราเข้าพักทั้งปีไม่ต่ำกว่า 70%

จากที่เอเยนต์ทัวร์เริ่มขายเขาหลักมากขึ้น ทำให้ความต้องการห้องพักที่เขาหลักมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปลายปีนี้ และคาดว่าความต้องการห้องพักเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 20-30% โดยปี 2550 อัตราเข้าพักโดยรวมตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 62-65% จากห้องพักประมาณ 4,500 ห้อง และในปี 2551 คาดว่าอัตราเข้าพักรวมตลอดทั้งปีไม่น่าจะต่ำกว่า 70% และในช่วงคริสต์มาสจนถึงปีใหม่อัตราเข้าพักเต็มเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งหมด

สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบมาพักผ่อนที่เขาหลัก จะเป็นกลุ่มสแกนดิเนเวีย เยอรมนี เป็นต้น ที่เหลือก็จะกระจายอยู่ในกลุ่มยุโรป และในปลายปีนี้ คาดว่าน่าที่จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เข้ามาท่องเที่ยวที่เขาหลักมากขึ้น จากการที่ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต ได้ไปส่งเสริมการขายในประเทศอิตาลี ฮอลแลนด์ รวมไปถึงสเปนและรัสเซีย

ดันสนามบินบนเกาะคอเขารับนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เขาหลักมองว่า น่าที่จะมีการปรับปรุงสนามบินเล็กที่บริเวณเกาะคอเขา เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงาได้ร่วมกับจังหวัดพังงาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้กระทรวงคมนาคมปรับปรุงสนามบินเกาะคอเขา เนื่องจากกรมขนส่งทางอากาศ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ รวมทั้งออกแบบรายละเอียดทางวิ่ง ทางขับ ลานจอด อาคารผู้โดยสาร

ทั้งนี้ ได้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประชาพิจารณ์โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเกาะคอเขา ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ 1,400 ไร่ เป็นพื้นที่เดิม 970 ไร่ และจัดหาเพิ่มเติมอีก 400 ไร่ โดยมีความยาวทางวิ่งประมาณ 2,000 เมตร รองรับเครื่องบินขนาด 150 ที่นั่ง และสามารถพัฒนาให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ในอนาคต

จากการที่กรมขนส่งทางอากาศ ได้ทำประชาพิจารณ์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมพื้นที่โดยรอบของพื้นที่โครงการ จากประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นชอบต่อโครงการฯ เนื่องจากมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก สำหรับงบประมาณที่จะดำเนินการต้องใช้ทั้งสิ้น 900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณสำหรับค่าที่ดิน 185 ล้านบาท ค่าก่อสร้างทางวิ่ง ทางขับ และลานจอด 500 ล้านบาท และค่าก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอีก 200 ล้านบาท ทั้งทางจังหวัดพังงาและทางภาคเอกชนได้ขอให้ทางกระทรวงคมนาคมเร่งรัดในการปรับปรุงเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสู