ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ททท.ระบุภาพรวมการท่องเที่ยวเชียงใหม่ช่วง 2 เดือนแรกปี 2551 แนวโน้มดีน่าพอใจ แต่หวั่นเกิดวิกฤตหมอกควันทำพิษ อย่างไรก็ตามยังเชื่อมือหน่วยงานรับผิดชอบช่วยสกัดได้ ขณะที่ตลอดทั้งปีตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 4.2 ล้านคน โกยรายได้กว่า 4 หมื่นล้านบาท
นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลอด 2 เดือนแรกของปี 2551 ในภาพรวมถือว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงเดือนมีนาคมมีความเป็นห่วงกังวลเช่นกันว่า อาจจะมีปัญหาหมอกควันเกิดขึ้นเหมือนปี 2550 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้จากการที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินมาตรการและพยายามดำเนินการต่างๆ อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันปัญหานี้ จึงค่อนข้างมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ไม่น่าจะต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตหมอกควันเหมือนปีที่แล้ว
สำหรับสรุปภาพรวมของการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2550 ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 เผยว่า ในช่วงสิ้นปี 2550 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินสรุปภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ตลอดทั้งปี 2550 โดยระบุว่าในปี 2550 จังหวัดเชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ประมาณ 4.2 ล้านคน และสร้างรายได้ให้แก่พื้นที่กว่า 4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้แม้ว่าขณะนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)จะยังจัดทำข้อมูลสรุปการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2550 ไม่แล้วเสร็จ แต่คาดว่าข้อมูลดังกล่าวน่าจะมีความใกล้เคียงกัน
ส่วนการกำหนดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2551 ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่เบื้องต้นยังไม่มีการกำหนดเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม โดยความเห็นส่วนตัว มองว่าเป้าหมายในปี 2551 จังหวัดเชียงใหม่น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินไว้
เป้าหมายที่สำคัญอย่างหนึ่ง ก็คือการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงให้ได้ ด้วยการจัดกิจกรรมที่มีความน่าสนใจและดึงดูดใจเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันที่ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มรายได้ จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ได้ 800,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อยู่แล้วปีละประมาณ 500,000 ล้านบาท
การกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงตั้งแต่หลังสิ้นเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงประมาณเดือนตุลาคม ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้ประกอบการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พยายามคิดหาวิธีการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวอยู่แล้ว ด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นในปี 2551 จะมีการร่วมมือกับบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่งจัดการแข่งขันรถยนต์ขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้ ยังมีกำหนดที่จะจัดงานเทศกาลดนตรีและศิลปะ จังหวัดเชียงใหม่ หรือ Chiang Mai Arts and Music Festival ด้วย ซึ่งเชื่อว่ากิจกรรมดังกล่าวที่มีการจัดขึ้นน่าจะช่วยดึงดูดใจกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งส่งดีทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น ในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันในระหว่างวันที่ 5-9 มีนาคม 51 ททท.พร้อมด้วยกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้เดินทางไปร่วมงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ด้วย ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานจัดแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของการขยายตลาดใหม่และตอกย้ำความรับรู้ต่อตัวสินค้าในตลาดเดิม
นอกจากนี้นายจุณพงศ์ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ว่า โครงการดังกล่าวนี้ยังไม่ได้มีการล้มเลิก เพียงแต่อาจจะมีการชะลอโครงการออกไปเล็กน้อย เพื่อทำการศึกษาในด้านต่างๆ เพิ่มเติมให้ครอบคลุมรอบด้าน ทั้งนี้เห็นว่าหากโครงการดังกล่าวทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและกำลังซื้อสูงให้เข้ามาในพื้นที่จำนวนมากขึ้น รวมทั้งมีจำนวนวันพำนักยาวนานขึ้นด้วย
ในส่วนของการที่ปัจจุบันมีโรงแรมระดับห้าดาว เข้ามาลงทุนและเปิดให้บริการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 ระบุว่า ส่งผลดีต่อจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากโรงแรมระดับห้าดาวเหล่านี้เป็นโรงแรมที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ในการทำการตลาดของโรงแรมนอกจากจะขายสินค้า และบริการของโรงแรมแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องประชาสัมพันธ์ความน่าสนใจในทุกๆ ด้านของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เพื่อดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะเดินทางมา
การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านทางเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลกของโรงแรมหรูเหล่านี้ ทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องลงทุนเดินทางไปทำการตลาดในต่างประเทศเลย
นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลอด 2 เดือนแรกของปี 2551 ในภาพรวมถือว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงเดือนมีนาคมมีความเป็นห่วงกังวลเช่นกันว่า อาจจะมีปัญหาหมอกควันเกิดขึ้นเหมือนปี 2550 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้จากการที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินมาตรการและพยายามดำเนินการต่างๆ อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันปัญหานี้ จึงค่อนข้างมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ไม่น่าจะต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตหมอกควันเหมือนปีที่แล้ว
สำหรับสรุปภาพรวมของการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2550 ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 เผยว่า ในช่วงสิ้นปี 2550 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินสรุปภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ตลอดทั้งปี 2550 โดยระบุว่าในปี 2550 จังหวัดเชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ประมาณ 4.2 ล้านคน และสร้างรายได้ให้แก่พื้นที่กว่า 4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้แม้ว่าขณะนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)จะยังจัดทำข้อมูลสรุปการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2550 ไม่แล้วเสร็จ แต่คาดว่าข้อมูลดังกล่าวน่าจะมีความใกล้เคียงกัน
ส่วนการกำหนดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2551 ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่เบื้องต้นยังไม่มีการกำหนดเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม โดยความเห็นส่วนตัว มองว่าเป้าหมายในปี 2551 จังหวัดเชียงใหม่น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินไว้
เป้าหมายที่สำคัญอย่างหนึ่ง ก็คือการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงให้ได้ ด้วยการจัดกิจกรรมที่มีความน่าสนใจและดึงดูดใจเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันที่ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มรายได้ จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ได้ 800,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อยู่แล้วปีละประมาณ 500,000 ล้านบาท
การกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงตั้งแต่หลังสิ้นเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงประมาณเดือนตุลาคม ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้ประกอบการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พยายามคิดหาวิธีการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวอยู่แล้ว ด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นในปี 2551 จะมีการร่วมมือกับบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่งจัดการแข่งขันรถยนต์ขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้ ยังมีกำหนดที่จะจัดงานเทศกาลดนตรีและศิลปะ จังหวัดเชียงใหม่ หรือ Chiang Mai Arts and Music Festival ด้วย ซึ่งเชื่อว่ากิจกรรมดังกล่าวที่มีการจัดขึ้นน่าจะช่วยดึงดูดใจกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งส่งดีทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น ในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันในระหว่างวันที่ 5-9 มีนาคม 51 ททท.พร้อมด้วยกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้เดินทางไปร่วมงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ด้วย ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานจัดแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของการขยายตลาดใหม่และตอกย้ำความรับรู้ต่อตัวสินค้าในตลาดเดิม
นอกจากนี้นายจุณพงศ์ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ว่า โครงการดังกล่าวนี้ยังไม่ได้มีการล้มเลิก เพียงแต่อาจจะมีการชะลอโครงการออกไปเล็กน้อย เพื่อทำการศึกษาในด้านต่างๆ เพิ่มเติมให้ครอบคลุมรอบด้าน ทั้งนี้เห็นว่าหากโครงการดังกล่าวทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและกำลังซื้อสูงให้เข้ามาในพื้นที่จำนวนมากขึ้น รวมทั้งมีจำนวนวันพำนักยาวนานขึ้นด้วย
ในส่วนของการที่ปัจจุบันมีโรงแรมระดับห้าดาว เข้ามาลงทุนและเปิดให้บริการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 ระบุว่า ส่งผลดีต่อจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากโรงแรมระดับห้าดาวเหล่านี้เป็นโรงแรมที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ในการทำการตลาดของโรงแรมนอกจากจะขายสินค้า และบริการของโรงแรมแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องประชาสัมพันธ์ความน่าสนใจในทุกๆ ด้านของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เพื่อดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะเดินทางมา
การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านทางเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลกของโรงแรมหรูเหล่านี้ ทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องลงทุนเดินทางไปทำการตลาดในต่างประเทศเลย
